เมื่อการเดิมพันของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประสบความสำเร็จ

เมื่อการเดิมพันของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประสบความสำเร็จ

“เราทำแบบนั้น เพราะเราเชื่อว่าสามารถทำได้” เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวไม่นานก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันในเกมลีกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่ “หงส์แดง” เปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งมันเหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่แปลกเมื่อเขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงถึง 5 คน

ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน แม้จะพักผู้เล่นหลักอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอิยิปต์, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ หัวหอกทีมชาติบราซิล, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม และ อเล็กซ์ ออกซ์เลด – แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ แต่ ลิเวอร์พูล ก็สามารถยิง เอฟเวอร์ตัน ได้ถึง 5 ประตู โดยตัวสำรองอย่าง ดิวอค โอริกี้ ดาวยิงเบลเยียม และ แชร์ดาน ชากิรี่ ตัวรุกสวิตเซอร์แลนด์ ก็สามารถยิงประตูได้ด้วย

ชัยชนะ 5-2 ต่อ เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นจุดสิ้นสุดการทำหน้าที่ของ มาร์โก ซิลวา กุนซือชาวโปรตุเกส ในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค ไปเรียบร้อยแล้ว และ สำหรับ ลิเวอร์พูล พวกเขายังคงเป็นจ่าฝูงมีแต้มเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 อยู่ 8 คะแนน และนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่าอยู่ 11 คะแนน รวมถึงยังทำสถิติไม่แพ้ในลีกมา 32 เกมติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 127 ปีของสโมสร

ลิเวอร์พูล ชุดนี้ กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ และดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะเลือกใครลงสนามก็สามารถทำผลงานตอบแทนเขาได้เป็นอย่างดี โดยบทบาทของ โอริกี้ ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน อาจไม่น่าประหลาดใจนัก ซึ่งเขามักยิงประตูสำคัญอยู่เสมอในการแข่งขันฤดูกาลที่ผ่านมา

ในฤดูกาลที่ผ่านมา โอริกี้ ได้ทำประตูสำคัญในเกมกับ บาร์เซโลน่า และท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองฯ และนัดชิงฯตามลำดับ เช่นเดียวกับ ประตูในช่วงท้ายเกมกับ นิวคาสเซิล ในศึกพรีเมียร์ลีก

โอริกี้ มีโอกาสลงสนามในทีมชุดแรกของ ลิเวอร์พูล ในฐานะตัวหมุนเวียนของ ซาลาห์, เฟอร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ปีกชาวเซเนกัล อยู่บ่อยครั้ง และ 2 ประตูล่าสุดที่เขายิงได้ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน นั้น ทำให้สถิติการซัดประตู เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ เพิ่มเป็น 5 ลูก แซงหน้าอดีตตำนานของทั้ง 2 ทีมอย่าง หลุยส์ ซัวเรส, ไมเคิ่ล โอเว่น และ ดันแคน เฟอร์กูสัน เรียบร้อยแล้ว

ความพยายามในเกมล่าสุดของ โอริกี้ แสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาด สัมผัสบอลแรกของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก รวมถึงการจบสกอร์ที่คมกริบทั้ง 2 ประตู ขณะที่ ชากิรี่ ก็ดูจะเข้ามาหมุนเวียนในตำแหน่งของ ซาลาห์ ได้เป็นอย่างดี และซัดไป 1 ประตู

ฟอร์มการเล่นของ โอริกี้ และ ชากิรี่ ในการเล่นร่วมกับ มาเน่ นั้น มันทำให้ คล็อปป์ และแฟนบอลสบายใจได้ในระดับหนึ่งว่าพวกเขาทั้งคู่สามารถทดแทน ซาลาห์ และ เฟอร์มิโน่ ได้ โดยพวกเขาทั้งคู่วิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งช่วงครึ่งหลัง

การเล่นที่ยอดเยี่ยมของ โอริกี้

การเล่นที่ยอดเยี่ยมของ โอริกี้ นั้น หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าดาวยิงเบลเยียม จะทำได้ดีขนาดนี้ แต่ก็ไม่มากเท่ากับ ชากิรี่ ซึ่งยังไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงเลยแม้แต่นัดเดียวในฤดูกาลนี้ และเขากำลังจะพยายามพาตัวเองให้เข้าไปอยู่ในทีมของ คล็อปป์ ให้ได้

ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน นั้น ชากิรี่ มีทิศทางการวิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก โดยประตูที่เขายิงได้เริ่มจากการเปิดทแยงมุมของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาดาวรุ่ง ไปให้กับ มาเน่ ก่อนที่จะจ่ายบอลตัดกองหลัง “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ให้กับปีกชาวสวิสฯ ซัดเสียบเสาผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างสวยงาม

มันเป็นประตูแรกของ ชากิรี่ ในรอบเกือบหนึ่งปี และประสิทธิภาพที่ดีของเขาก็ชัดเจนในการเล่นกับจังหวะที่ไม่มีลูกบอล แต่เมื่อบอลอยู่ในการครอบครองของเขานั้น เราก็ได้ว่ามันน่าประทับใจที่สุด เขามีอันตรายจากการเลี้ยงลูกบอล ผ่านบอล และความก้าวร้าวในเกมรุก

แน่นอนว่างานของ คล็อปป์ นั้นง่ายขึ้นมากขึ้นโดยมีผู้เล่นอย่าง มาเน่ เป็นตัวทำลายแนวรับคู่แข่ง แน่นอนมันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ ดาวเตะเซเนกัล ในทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้ว่าเขาเริ่มมีความสำคัญมากกว่า ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

การผ่านบอลของ มาเน่ นั้นยอดเยี่ยม โดยเฉพาะลูกที่เปิดให้กับ โอริกี้ และ ชากิรี่ ยิงประตู และเขายังสามารถยิงได้ 1 ประตู อีกด้วย นอกจากนี้ ปีกเซเนกัล ยังสร้างโอกาสต่อ 90 นาทีมากกว่าใน 5 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ของเขาในพรีเมียร์ลีก

สิ่งที่น่าประทับใจคือ การสร้างสรรค์เกมและสร้างจังหวะให้กับเพื่อนร่วมทีมของ มาเน่ และเขายังคมยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอเช่นเคย โดยประตูที่เขายิงในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นตัวอันตรายของ ลิเวอร์พูล ในการเล่นโต้กับเร็ว

ในเวลานี้ มาเน่ ซัดประตูในพรีเมียร์ลีกให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 9 ลูกในฤดูกาลนี้ และข้อร้องเรียนเพียงอย่างเดียวคือเขาอาจจะยิงได้อีกเรื่อยๆ ในส่วนของความเร็ว และการเคลื่อนไหวของเขานั้น ก็ทำให้ตัวเองมีโอกาสในการยิงประตูอยู่เสมอ ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับความอันตรายของแนวรุก “หงส์แดง”

ในเวลานี้ มาเน่ ซัดประตูในพรีเมียร์ลีกให้ ลิเวอร์พูล

เนื้อหาใกล้เคียง