เสียไปหลายระบบ เพราะกองหน้ามันคือปัญหาไง

ถือเป็นอีกเกมที่ส่งผลอย่างชัดเจนมาก ๆ กับปัญหากองหน้าของทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” หลังพวกเขาลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแมตช์ประเดิมสนามในปี 2019 ด้วยการเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำได้แค่เสมอกับ เซาแธมป์ตัน ไปแบบจืดชืด 0-0 ทั้ง ๆ ที่เป็นต่อมากกว่าหลายขุม หลังจบเกม เมาริซิโอ ซาร์รี่ เองก็ออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าปัญหาของเขาคือการไม่มีกองหน้าชั้นยอดเอาไว้ใช้งาน

อย่างที่รู้กันว่าสองหัวหอกแบบธรรมชาติของ เชลซี ไม่ว่าจะเป็น อัลบาโร่ โมราต้า ดาวยิงชาวสเปนกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ตัวจบสกอร์จากฝรั่งเศสต่างมีสถิติที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก โดยเทียบอันดับดาวซัลโวสูงสุดของทีมเวลานี้กลับเป็น เอเด็น อาซาร์ ที่ยิงไปแล้ว 12 ประตู ในทุกรายการ ทั้ง ๆ ที่เขาลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ขณะที่ดาวยิงเลือดกระทิงดุเพิ่งยิงไปแค่ 7 ลูก ส่วนเพชฌฆาตแชมป์โลกยิ่งหนักกว่าเมื่อเขาซัดให้กับทีมไปเพียง 5 ประตูเท่านั้น มันเห็นผลชัดเจนว่าการขาดกองหน้าธรรมชาติค่อย ๆ ส่งผลกระทบต่อการเล่นของ ซาร์รี่ ขึ้นเรื่อย ๆ เวลาที่กองหน้าของพวกเขาได้โอกาสมักยิงทิ้งยิงขว้างกันไปหมดจนแฟนบอลถึงกับบ่นอุบกับความสิ้นเปลืองในโอกาสดี ๆ หลายครั้ง

เมื่อก่อนดีกว่านี้ กองหน้าเจ้าปัญหา

ขนาดว่าในทีมมีตัวทำเกมชั้นดีอยู่มากมายที่เคยเปิดป้อนให้กับพวกเขาไม่ว่าจะเป็น อาซาร์, เปโดร, วิลเลี่ยนส์ หรือแม้กระทั่ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่ดูไปดูมาเหมือนคลาสของหัวหอกแห่งทีมดังของกรุงลอนดอนกลับไม่ค่อยเข้าตากรรมการเสียเท่าไหร่ ถ้าเรียกว่าเป็นเกรดบีคงไม่ใช่เรื่องผิดเท่าไหร่นัก คิดดูว่าขนาด โรเมลู ลูกากู ที่ว่ากันว่าเป็นตู้เย็นแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แถมซีซั่นนี้ยังบอดสนิทติดต่อกันหลายเกม แต่ยังทำไปได้ถึง 8 ประตู นั่นแสดงให้เห็นว่าสาเหตุสำคัญที่ เชลซี ฟอร์มแผ่วอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังคือกองหน้าไม่สามารถผลิตสกอร์ได้ดังที่ตั้งใจเอาไว้

ไม่รู้ว่าในช่วงเปิดตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้ ซาร์รี่ มีแผนจะมองหากองหน้าดี ๆ สักตัวเข้ามาเสริมคมในแนวรุกบ้างหรือเปล่า เพราะอย่าลืมว่ายิ่งเขาทำแต้มสะดุดมากขึ้นเท่าไหร่ บรรดาทีมไล่หลังทั้ง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูฯ ต่างก็ค่อย ๆ ทำแต้มกระชั้นขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แน่ถ้าหากยังเป็นแบบนี้อยู่แล้วเขาดันทำทีมหลุดท็อปโฟร์ขึ้นมาจริง ๆ อายุการทำงานของสิงห์อมควันรายนี้อาจสั้นกว่าที่คิดไว้