การเปลี่ยนแปลงทีมของ มิเกล อาร์เตต้า พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นความเสี่ยงที่ต้องจ่าย เกี่ยวกับการป้องกันแชมป์ เอฟเอ คัพ ก่อนที่สุดท้ายจะบุกไปแพ้ เซาแธมป์ตัน ด้วยสกอร์ 1-0 ที่สนามเซนต์ แมร์รี่ สเตเดี้ยม หลังตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะตัวจริงถึง 7 ตำแหน่ง จากเกมที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ 3-0 ในพรีเมียร์ลีก กับเกมล่าสุด
เอคตอร์ เบเยริน และกาเบรียล มากัลเญส กลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้ ในขณะที่โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, นิโกล่าส์ เปเป้, วิลเลี่ยน, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ก็ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ด้วย ส่วนแม็ต ไรอัน ที่ถูกยืมตัวมาจากไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนจนจบฤดูกาล ก็ยังนั่งที่ม้านั่งสำรอง สำหรับการเป็นแบ็คอัพให้กับแบรนด์ เลโน่ มือหนึ่งของทีมในเกมนี้
เซาแธมป์ตันเป็นทีมที่ดีกว่าในครึ่งแรก ในขณะที่ทีมของอาร์เตต้าดูไม่มีความประติดประต่อกันมากนัก โดยยังเป็นแดนนี่ อิงส์ และเช อดัมส์ ที่มีโอกาสดีสำหรับการทำประตู กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ยากสำหรับเซดริก โซอาเรส เมื่อต้องถูกโยกไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย จนสุดท้ายกลายเป็นไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส เมื่อเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็นกาเบรียลที่ทำเข้าประตูตัวเอง
ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล นายใหญ่ของเซาแธมป์ตันจัดทีมที่แตกต่างกับอาร์เตต้า เมื่อเลือกชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เพื่อหวังคว้าชัยชนะและเข้าสู่รอบต่อไป แน่ทีมของกุนซือชาวออสเตรียก็ยังสร้างความแข็งแกร่งและโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจออกมาได้อย่างต่อเนื่อง แม้คู่แข่งจะส่งโธมัส ปาร์เตย์, บูกาโย่ ซาก้า และอเล็กซานเดร ลากาแซ็ตต์ เป็นตัวสำรองในเกมนี้ แน่นอนว่าเดอะ กันเนอร์สมีโอกาสใกล้เคียงสำหรับการทำประตู แต่ก็ยังเป็นการโชว์ฟอร์มที่ดีของเฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ มือกาวของเจ้าบ้าน แถมยังกลายเป็นครั้งแรกของเซาแธมป์ตันสำหรับการเอาชนะอาร์เซน่อลในรายการนี้ได้สำเร็จ ซึ่งทีมเยือนมาในฐานะแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แถมยังเป็นแชมป์รายการนี้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย
หากมองไปยังสถานการณ์ของอาร์เซน่อล สำหรับการแข่งขันในพรีเมียร์ลีก เมื่อรั้งอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางคะแนน โดยมีคะแนนตามหลังลิเวอร์พูล อันดับ 4 อยู่เพียง 7 คะแนน อาร์เตต้าอาจจะมองถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว สำหรับการตัดสินใจพักนักเตะตัวหลักในเกมนี้ และเมื่อทีมต้องเจอกับความผิดหวัง อาร์เซน่อลก็แทบจะต้องเน้นสร้างผลงานและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในเกมลีก แม้จะมีลุ้นในยูฟ่า ยูโรป้าลีก ด้วยก็ตาม นับเป็นการทิ้งไพ่เกือบจะใบสุดท้ายของอาร์เตต้า
