“มันเป็นเรื่องที่ดีจากมุมมองของ คริส สมอลลิ่ง ที่เขาตัดสินใจแบบนี้กับโอกาสที่เขามี แต่ไม่ใช่ที่เราคิดไว้สำหรับเดือนนี้” แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ กล่าวถึง คริส สมอลลิ่ง กองหลังของ โรม่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ถึงโอกาสในการกลับมาสู่ทัพ “สิงโตคำราม”
ปัจจุบัน สมอลลิ่ง โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง และกลายเป็นนักเตะคนสำคัญในแนวรับของ โรม่า หลังย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดในพรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ฤดูกาล โดยดาวเตะวัย 29 ปี ได้รับการยกย่องว่า มีอิทธิพลอย่างมากต่อบรรดานักเตะ “หมาป่าเหลืองแดง”
สมอลลิ่ง ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอิตาลีได้อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ได้ลงสนามนัดแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในการฝึกซ้อมหรือการลงแข่งจริง ปราการหลังชาวอังกฤษ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี
“สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีรายงานว่า แมนฯยูไนเต็ด คาดหวังว่า สมอลลิ่ง จะกลับไปที่สโมสรในช่วงฤดูร้อนหน้า และพวกเขาคงไม่ได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการจาก โรม่า แม้ว่า “หมาป่าเหลืองแดง” จะสนใจเขามากก็ตาม
หลายคนสงสัยว่า สมอลลิ่ง กลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งได้อย่างไรในการเริ่มต้นที่สวยงามกับชีวิตในอิตาลีและประเมินว่า เซาธ์เกต อาจที่จะมองข้ามเขาสำหรับการเรียกตัวไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่ สมอลลิ่ง จะย้ายไปยัง โรม่า นั้น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนยูไนเต็ด ได้ให้สัมภาษณ์ว่าผู้เล่นชาวอังกฤษจำนวนไม่น้อยที่มีความกล้าที่จะย้ายออกจากบ้านเกิดตัวเองไปเล่นในประเทศอื่น และ สมอลลิ่ง ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ผมเฝ้าดูเซเรีย อา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในลีกชั้นนำเช่นเดียวกับพรีเมียร์ลีก และสามารถที่จะย้ายมาเล่น และสัมผัสบรรยากาศได้ และที่สโมสรขนาดใหญ่อย่าง โรม่า มันเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบสำหรับผม” สมอลลิ่ง ให้สัมภาณ์ครั้งแรกหลังย้ายมายังทัพ “หมาป่าเหลืองแดง”
สมอลลิ่ง ไม่จำเป็นต้องปรับรูปแบบการเล่นของเขา เมื่อได้ลงเล่นในเกมแรกกับ อตาลันต้า ภายใต้การคุมทีมของ เปาโล ฟอนเซก้า เทรนเนอร์ โรม่า พร้อมกับคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงเล่นในแดนมะกะโรนี
ในเกมต่อมากับ เลชเช่ และ ซามพ์โดเรีย สมอลลิ่ง ก็สามารถพาทีมเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ รวมถึงพา โรม่า เอาชนะ เอซี มิลาน ได้อีกด้วย จากนั้น กองหลังตัวยืมจาก “ปีศาจแดง” โชว์ฟอร์มแข็งแกร่งต่อเนื่องในเกมที่ “หมาป่าเหลืองแดง” เอาชนะ อูดิเนเซ่ 4-0
ฟอนเซก้า มักชอบให้ทีมของเขาขึ้นบอลจากแนวรับและ สมอลลิ่ง ก็ได้รับความไว้วางใจอย่างจริงจังกับความแข็งแกร่งในการป้องกันของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมอยู่ภายใต้แรงกดดัน การยืนตำแหน่งและการเล่นลูกลางอากาศของ กองหลังชาวอังกฤษนั้น มีผลอย่างมากกับ โรม่า ซึ่งฤดูกาลที่แล้วได้รับผลกระทบจากความอ่อนแอในการป้องกัน
นับตั้งแต่ สมอลลิ่ง ได้ลงสนามนั้น โรม่า เสียประตู 7 ลูก จาก 8 เกม ซึ่งสถิติมันดีกว่า 4 เกมแรก ที่ไม่มีดาวเตะที่ยืมตัวมาจาก แมนฯยูไนเต็ด ลงสนาม และความมั่นใจในการเล่นของเขานั้น ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขายิ่งดีขึ้นไปอีก
จากมุมมองของหลายๆคน ฟอร์มของ สมอลลิ่ง มักโดนวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอในช่วงที่ แมนฯยู ตกต่ำและการย้ายมายัง โรม่า นั้น ถือเป็นชัยชนะส่วนตัวของเขาอย่างแท้จริง เขาได้ขยายขอบเขตของตัวเอง และเรียนรู้วิธีการป้องกันที่แตกต่าง ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมของเขาก็ได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกเช่นกัน
สมอลลิ่ง กล่าวว่า “ผมชอบที่จะถูกดันให้ขึ้นไปเล่นสูงตรงกลางสนาม และผู้จัดการทีมต้องการให้เราดันสูงตลอดเวลา ผมเป็นกองหลังที่ชอบป้องกัน และเล่นบอลด้วยเท้า ดังนั้น ผมคิดว่านี่เป็นแนวทางการเล่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับผม”
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายหนึ่งของ โรม่า ระบุว่า “แฟนบอลที่ โรม่า มีความคาดหวังมากมายกับ สมอลลิ่ง พวกเขาชื่นชม คริส ทันที เขาได้รับเครดิต และความเห็นที่ดีจากแฟนๆ นั่นสำคัญมาก และผมรับรองกับคุณว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำมันได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนักเตะใหม่ทำผลงานได้ไม่ดี พวกเขาก็จะถูกโห่ แต่ คริส เข้ามามีบทบาทในทีมได้ทันทีในฐานะผู้นำแนวรับ”
“เขาปรับตัวในห้องแต่งตัวกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีมาก ซึ่งทีแรกหลายคนคิดว่า เขาเป็นคนที่เข้าถึงยาก แต่มันไม่ใช่เลย เขาพร้อมจะปรับปรุงตัวเอง และเรียนภาษาอิตาเลียนเพิ่มเติมเพราะมันสำคัญในการเล่นเป็นกองหลัง และทุกคนที่ โรม่า เชื่อว่าเขาจะกลับไปติดทีมชาติอังกฤษได้อีกครั้ง”
โรม่า ไม่เล่นฟุตบอลอิตาลีในรูปแบบดั้งเดิม แนวรับในทีมของ ฟอนเซก้า นั้น ดันขึ้นสูงมาก และ สมอลลี่ง นั้นเร็ว และเก่งมากในการแย่งบอลกลับคืนมา เขาเล่นเหมือนกองหลังชั้นยอด และเป็นผู้นำที่มีบุคลิกยอดเยี่ยม
แม้เมื่อ โรม่า จะแพ้ ปาร์ม่า ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ สมอลลิ่ง ได้เติบโตอย่างเต็มที่เนื่องจากเขามาถึงทัพ “หมาป่าเหลืองแดง” และยังไม่ค่อยได้เจอกับเกมแย่ๆเลย ซึ่งตอนนี้มันพิสูจน์ได้แล้วว่า ฟุตบอลอิตาลีเป็นประเภทของฟุตบอลที่เหมาะกับเขามากที่สุด
แหล่งข่าวคนเดิมระบุว่า “ตอนนี้เขากำลังเรียนภาษาอิตาเลียนอย่างจริงจัง และผมเชื่อว่านั่นเป็นสัญญาณว่าเขากระตือรือร้นที่จะอยู่กับเราต่อไป เขาเป็นมืออาชีพมากในการสัมภาษณ์ของเขาว่า อนาคตของเขานั้นอยู่ในมือของ แมนฯยูไนเต็ด”
“เสื้อหมายเลข 6 ของ โรม่า ถูกยกเลิกไปแล้ว หลังหมดยุคของ อัลดาเอียร์ ตำนานกองหลังชาวบราซิล แต่ผมเชื่อว่า คริส สามารถเดินตามรอยเท้าของเขา และในวัย 29 ปี เขามีทุกอย่างที่จะเป็นผู้นำในแนวรับของ โรม่า ไปอีก 4 ซีซั่น”
การถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษครั้งสุดท้ายของ สมอลลิ่ง เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2017 ในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกกับ ลิธัวเนีย และ สโลวีเนีย ก่อนที่เขาจะถูกตัดชื่อออกในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น เนื่องจาก เซาท์เกต มีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการส่งบอลของเขา
อย่างไรก็ตาม เซาท์เกต ยังไม่ได้แนวรับที่ลงตัว นับตั้งแต่สิ้นสุดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในรัสเซีย และเขาได้เลือกผู้เล่น 12 คนที่แตกต่างกันลงสนามในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง และในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา “สิงโตคำราม” ก็มีปัญหาเกมรับอย่างชัดเจน หลังเสียไป 5 ประตูในเกมกับ โคโซโว และ สาธารณรัฐเช็ก
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จะยืนเป็นตัวหลัก แต่คนที่จะยื่นข้างเขามีมากมาย อาทิ โจ โกเมซ, ไทโรน มิ้งส์, ไมเคิ่ล คีน, จอห์น สโตน และ ฟิกาโย่ โทโมริ แต่ เซาท์เกต ยืนยันว่า สมอลลิ่ง ก็ยังได้รับการพิจารณาในการเป็นตัวเลือกเช่นกัน
“เราจะตรวจสอบสิ่งนั้น มันสำคัญเมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นกำลังเล่นในต่างประเทศ เราจะต้องไม่มองข้ามเขา มันเป็นเรื่องดีจากมุมมองของ คริส สมอลลิ่ง ที่เขาตัดสินใจย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ”
“เขายังมีโอกาส แต่มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดไว้สำหรับเดือนนี้ ไม่มีประเด็นที่จะนำ คริส มาร่วมทีมในตอนนี้ เขาติดทีมชาติมามากมาย และถ้าเรานำเขาเข้ามา เขาจะต้องได้ลงเล่น แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ข้อควรพิจารณา” นายใหญ่ “สิงโตคำราม” กล่าว
ในตอนนี้ สมอลลิ่ง ถือว่าพาตัวเองกลับไปเป็นกองหลังระดับท็อปของอังกฤษในยุคปัจจุบันได้แล้ว หากเขาจัดการรักษาฟอร์มการเล่นมั่นคงที่เขาได้แสดงให้เห็นในอิตาลี นั้น เซาท์เกต คงพิจารณาว่า เขาอาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของทีมชาติอังกฤษในฤดูร้อนหน้า
