คอนสแตนตินอส (คอสตาส) มาโนลาส หรือ คอสตาส มาโนลาส เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1991 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวกรีก โดยลงสนามตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คให้กับสโมสรโรม่า ในเซเรียอา และลงเล่นให้กับทีมชาติกรีซ
มาโนลาสลงสนามในระดับเยาวชนกับทีม ทราซิวูลอส เมื่อปี 2007 เมื่อปี 2009 สเตลิออส มาโนลาสที่เป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของเออีเค เอเธนส์ในเวลานั้น ที่ซึ่งเขาเป็นหลานชายของสเตลิออส และฟอร์มของคอสตาสไปเข้าตาของดูซาน บาเยวิช ที่เล่นได้ดี โดยลุงของเขา สเตลิออส มาโนลาส เคยเป็นนักเตะและผู้จัดการทีมของเออีเคมาก่อน
วันที่ 16 มิถุนายน 2009 มาโนลาสเซ็นสัญญา 3 ปีกับเออีเค เอเธนส์ หลังจากที่เซ็นสัญญา มาโนลาสกล่าวว่า “ผมมีความสุขมากที่มาอยู่กับทีมที่ผมเชียร์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะกลายมาเป็นตำนานของทีมเหมือนลุงของผมและจบอาชีพการค้าแข้งที่ เออีเค“ เขาได้ลงสนามเกมแรกที่พบ เอโอ คาวาล่า และได้รับตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกมเขากล่าวว่า “เป็นความฝันที่ผมได้เล่นกับสโมสรที่ผมรัก “ และเขายังได้รับแมน ออฟ เดอะ แมตช์เกมที่พบพีเอโอเค เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำแมตช์ถึง 5 เกม
มาโนลาสยิงประตูแรกในฤดูกาลของฟุตบอลอาชีพเกมที่พบโอลิมเปียกอส วันที่ 19 พฤษภาคม 2010 ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บตั้งแต่นาทีแรกจากการเข้าปะทะกับ คอสตาส มิโตรกลูในจังหวะเข้าบอลที่อันตราย และเกมนั้นนาทีที่ 6 เขาก็ยิงประตูได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาถูกเปลี่ยนตัวออกนาทีที่ 15 เขาปฏิเสธที่จะเข้าโรงพยาบาล แต่วันรุ่งขึ้นเขาต้องเข้ารับการผ่าตัด เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อที่จะกลับมาลงสนามได้อย่างรวดเร็ว
มาโนลาสเป็นนักเตะคนสำคัญของเออีเค เอเธนส์ ในฤดูกาล 2010/11 เล่นได้น่าประทับใจในซูเปอร์ลีกกรีซและยูโรป้า ลีก 2010/11 ที่ซึ่งได้จับสลากพบทีมชั้นนำหลายทีมคือ เจนัว,อูดิเนเซ่, เกตาเฟ่ และชาลเก้ 04 ,มาโนลาสยิงประตูที่สำคัญให้ทีมเกมที่พบไฮจ์ดุ๊ก สปลิท และได้รับชัยชนะทำให้ทีมของกรีซยังอยู่ในฟุตบอลยุโรปต่อไป สัปดาห์ต่อมา เขายิงประตูได้อีกครั้ง เกมที่พบเออีแอล ในกรีก คัพ ซึ่งเวลานั้นทีมก็ผ่านเข้ารอบต่อไป ฟอร์มการเล่นของเขาไปเข้าตาโค้ช มาโนโล่ จิเมเนซและได้รับโอกาสจากโค้ชให้ลงสนามเป็นตัวจริง โดยที่ต้องปล่อยดาวิด มัตเตโอไปให้รีล มาดริดยืมตัว
มาโนลาสพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทีมเออีเค เอเธนส์ และเมื่อทีมชาติกรีซคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2004 เขากล่าวถึงตรายานอส เดลลาสในห้องสื่อมวลชนว่า ”เป็นเกียรติที่ได้ลงสนามเคียงข้างเดลลาส ทำให้ผมกลายเป็นนักเตะที่เก่งขึ้น ซึ่งประสบการณ์ของเขาช่วยให้ผมมั่นใจที่จะเข้าเล่นบอล และมั่นใจในการตัดสินใจ ผมเรียนรู้จากเขาได้เยอะมาก เขาเป็นเหมือนครูที่คอยสอนทักษะด้านฟุตบอลให้ผมเลยทีเดียว”
วันที่ 30 เมษายน 2011 มาโนลาสชนะเลิศโทรฟี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ในฟุตบอลกรีกคัพ ในเกมที่แข่งกับอโตรมิตอส เขาได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์เกมนั้น โนทีมชนะได้ 3-0 เขากล่าวว่า “เป็นความฝันของผมที่ชนะเลิศโทรฟี่ ตั้งแต่วัยเด็กกับเออีเค และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้วยรางวัลจะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต” เขาจบฤดูกาล 2010/11 ลงสนาม 36 นัดยิงได้ 3 ประตู
วันที่ 11 กรกฎาคม 2011 มาโนลาสเซ็นสัญญา 3 ปีเพื่ออยู่กับเออีเค ต่อไป จนกระทั่งถึงปี 2014 เขาได้รับค่าเหนื่อยกว่า 300,000 ยูโรต่อฤดูกาล เป็นเวลา 3 ปี รวมถึงเงินโบนัสที่จะขึ้นไปถึง 1.4 ล้านยูโร เขาได้ต่อสัญญากับทีมต่อไปแต่ว่ามีทีมที่สนใจคือ แวร์เดอร์ เบรเมน, เซบีย่า, โวล์ฟบวร์ก และฮัมบูร์ก โดยที่สัญญาระบุไว้ว่าหากมีทีมต่างชาติยื่นข้อเสนอกว่า 4 ล้านยูโร หรือทีมจากกรีซที่ยื่นข้อเสนอกว่า 10 ล้านยูโร ก็สามารถขายออกได้ทันที
มาโนลาส กล่าวหลังจากเซ็นสัญญาว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้ย้ายมาเล่นกับทีมโปรดของผม เป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้สวมเสื้อเออีเค เอเธนส์เป็นเวลา 3 ปี ผมขอขอบคุณประธานสโมสรเออีเค สตาฟอส อดามิดิสที่เชื่อใจผม และยื่นโอกาสนี้ให้ผม ผมต้องการจะพาทีมไปเล่นฟุตบอลยุโรปถึงแม้ว่าทีมจะประสบปัญหาด้านการเงิน ความฝันของผมคือพาทีมเป็นแชมป์ลีก และเป็นกัปตันทีมเหมือนกับลุงของผม สเตลิออส ที่ประสบความสำเร็จเมื่ออยู่ที่นี่
มาโนลาสได้ออกสตาร์ท และลงสนามแมตช์แรกของฤดูกาล 2011/12 เกมที่พบทีมจากจอร์เจีย ดินาโม ทบิลิซี่ เมื่อฤดูกาล 2011/12 ในฟุตบอลยูโรป้าลีก รอบคัดเลือก ช่วยให้ทีมชนะ 1-0 เขาได้รับการยกย่องจากมาโนโล่ จิเมเนซ มาโนลาสยิงประตูแรกของฤดูกาลเกมที่ไปเยือน พานิโอนิออส 1-0 เขาอุทิศประตูนี้ให้กับจิเมเนซ ที่ได้รับการวิจารณ์ในทางเสียๆ หายว่าเล่นได้ย่ำแย่กับทีม ต่อมาเขายิงประตูได้อีกครั้งเกมเยือนชนะสตวร์ม กราซจากลีกออสเตรีย ในยูโรป้าลีก ช่วงเดือนมกราคม ทีมจากเอฟเวอร์ตัน ได้แสดงความสนใจอย่างจริงจัง ที่จะให้เขาไปเป็นนักเตะเยาวชนของทีม โดยผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันในเวลานั้น เดวิด มอยส์ กล่าวว่า “มาโนลาสเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงและเป็นนักเตะที่มีแววรุ่งแน่นอน”
วันที่ 30 มกราคม 2012 เขากล่าวกับเออีเค ว่าเขาต้องการจะย้ายไปร่วมทีมเอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ตามเขาออกมาปฎิเสธข่าวดังกล่าว ตรายานอส เดลลาสและนักเตะเยาวชนอีกสองคน มาฟรูดิส บูไกดิส และเอลฟา เฟรย์ เฮลกาสันหลังการย้ายออกของนักเตะเหล่านี้ไปสู่เซบีย่า ซึ่งประธานสโมสร สตาฟอส อดามิดิสกล่าวว่า “มาโนลาสต้องปฏิเสธทุกข้อเสนอ เพื่ออยู่เออีเคต่อไป” สุดท้ายเขาย้ายออกจากเออีเค เอเธนส์โดยลงสนามกว่า 85 เกมยิงได้ 6 ประตูในทุกรายการ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2012 มาโนลาสย้ายไปร่วมทีมคู่แข่ง โอลิมเปียกอส ด้วยสัญญาฟรี ทรานสเฟอร์ จนกระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน 2016 หลังจากที่สัญญาของเขากับเออีเค เอเธนส์จบลง “ผมมีความสุขมาก ที่ได้ย้ายมาเล่นให้โอลิมเปียกอส และผมอดทนรอที่จะย้ายมาเล่นกับทีมแดง-ขาวไม่ไหวแล้ว ผมต้องการลงเล่นที่สนาม คาไรสกากี้ต่อหน้าแฟนบอลจำนวนมาก” เขากล่าว โดยเวลานั้นเออีเค ต้องจ่ายจำนวนมหาศาลและเขาซึ่งเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม ต้องย้ายออกไปเพื่อช่วยเหลือฐานะทางการเงินของสโมสร ฤดูกาลถัดมาเออีเค เอเธนส์ทำได้เพียงแค่ซื้อ-ขายนักเตะดาวรุ่งอายุประมาณ 22 ปี เท่านั้น และต้องระงับการซื้อนักเตะต่างชาติด้วย (เป็นการลงโทษเนื่องจากทีมทำผิดกฎด้านการเงินของฟุตบอลกรีซ)
ต่อมาเออีเค เอเธนส์ได้รับอนุญาตให้ต่อสัญญานักเตะที่มีอยู่ในทีมแต่นักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดก็พร้อมที่จะลงเล่นให้ทีมโดยไม่รับค่าจ้าง ต่อมาถึงแม้วนอกจากนี้ทีมยังถูกแบนออกจากฟุตบอล ยูโรป้าลีก ในฤดูกาลนั้น และทีมแอสเตอราส ทริโปลิสได้ไปเล่นแทน
มาโนลาสได้ลงสนามให้โอลิมเปียกอสเกมแรกที่แข่งกับ พาส จานนิน่า วันที่ 15 กันยายน เกมนั้นทีมชนะ 2-1 ในเกมเยือน ต่อมาเขายิงประตูแรกให้ทีมในเกมที่ชนะสโคด้า ซานธิ 4-0 ในบ้าน เขาลงสนามให้ทีมกว่า 24 เกมในฤดูกาลนั้น และทีมได้แชมป์ซูเปอร์ลีก วันที่ 11 พฤษภาคม 2013 เขาได้ลงสนามกรีก คัพที่แข่งกับแอสเตอราส ตริโปลี ทีมชนะได้ 3-1 และคว้าดับเบิลแชมป์ในฤดูกาล 2012/13
จากสื่อของกรีซกล่าวว่าสโมสรจากอังกฤษ ท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส,ซันเดอร์แลนด์และฟูแล่ม จับตามองมาโนลาสอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ตลาดเปิดเดือนมกราคม ตามรายงานจากกัซเซ็ตต้า กล่าวว่ามีแมวมองในพรีเมียร์ลีกมาดูเขาเล่นที่ กรีซตั้งแต่ที่เขาเล่นให้เออีเค เอเธนส์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนที่จะย้ายไปโอลิมเปียกอส และมีข่าวว่ามาโนลาสสนใจอยากจะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยเหมือนกัน เขาอยู่ในแผนการทำทีมของเฟอร์นานโด ซานโต๊สกุนซือทีมชาติกรีซ ขณะที่กรีซได้รองแชมป์กลุ่มตามหลังบอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวิน่า อย่างไรก็ตามมาโนลาสต้องการจะลงสนามเป็นตัวจริงของทีม ซึ่งเวลานั้นกุนซือแมนยู เดวิด มอยส์ก็ต้องการกองหลังโอลิมเปียกอสรายนี้ เพื่อมาแทนที่เนมานย่า วิดิชที่ย้ายออกจากแมนยูไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลานในอิตาลี ทำให้ทีมปิศาจแดงควานหานักเตะกองหลังมาจับคู่กับริโอ เฟอร์ดินานด์ แต่ว่าสุดท้ายช่วงจบฤดูกาลนั้นแมนยูต้องล้มแผนคว้าตัวเขา เพราะว่ามอยส์ถูกไล่ออกเสียก่อน
มาโนลาสยิงประตูแรกให้โอลิมเปียกอสเมื่อฤดูกาล 2013/14 ในแชมเปี้ยนส์ลีก เกมเปิดบ้านชนะเบนฟิก้า 1-0 ช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบต่อไป เขายิงประตูที่สองในแชมเปี้ยนส์ลีก เกมที่แพ้ต่อเปแอสเช 2-1 แต่ว่าทีมก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009/10
เกมต่อมาโอลิมเปียกอสพบแมนยู และแมนยูที่ล้มเหลวในฟุตบอลลีกภายในประเทศ ซึ่งตอนนั้นทีมจากกรีซสามารถชนะแมนยูได้ และผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลได้เป็นครั้งที่สอง “ผมเชื่อว่าทีมของเราเล่นได้ดีกว่า ผมหวังว่าแมนยูจะไม่สามารถเล่นได้อย่างท๊อปฟอร์ม” และถึงแม้ว่าโอลิมเปียกอสชนะในบ้านได้ 2-0 แต่สุดท้ายโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มายิงแฮตทริก ช่วยให้แมนยูชนะผ่านด้วยประตูรวม 3-2 วันที่ 22 มีนาคม 2014 มาโนลาสขยายสัญญาของเขากับโอลิมเปียกอสไปอีกหนึ่งปี จะทำให้เขาอยู่จนถึงปี 2017 เขาย้ายออกจากโอลิมเปียกอสโดยลงสนาม 73 เกม ยิงได้ 6 ประตู 2 แอสซิสต์ ในทุกรายการ
วันที่ 27 สิงหาคม 2014 ทีมจากอิตาลี โรม่าโดยการประกาศว่าคอสตาส มาโนลาสด้วยค่าตัวจากการประเมินที่ 15 ล้านยูโร เขากล่าวว่า “ผมได้รับข้อเสนอจากทีมใหญ่หลายทีม รวมถึงยูเวนตุส แต่ผมตัดสินใจเลือกโรม่า ผมต้องการย้ายมาที่นี่ มีผู้คนที่ดีมากมายและให้คำแนะนำผมได้ดีมาก นั้นเป็นเหตุผลที่ผมย้ายมาที่โรม่า สโมสรมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ผมต้องการชนะเลิศสคูเด๊ตโต้ร่วมกับทีม เรายังต้องการไปให้ไกลที่สุดในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก”
วันที่ 30 สิงหาคม 2014 มาโนลาสได้ลงสนามให้โรม่าเกมที่ชนะฟิออเรนตินา 2-0 เกมเปิดฤดูกาล 2014/15 วันที่ 17 กันยายน เขาได้ลงสนามฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกให้ทีมหมาป่า เกมนั้นทีมชนะซีเอสเคเอ มอสโก 5-1 วันที่ 5 ตุลาคม มาโนลาสถูกใบแดงไล่ออกเกมที่พบยูเวนตุส หลังจากที่ไปฟาวล์อัลบาโร่ โมราต้า ต่อมาสหพันธ์ฟุตบอลอิตาเลียนได้ลงโทษห้ามเขาลงสนามสองเกม มาโนลาสสร้างความประทับใจให้ทีมในฤดูกาลแรกกับโรม่า ทำให้หลายทีมในยุโรปอยากซื้อตัวเขาไปร่วมทีม รวมถึงยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล, ต่อมาเอเย่นต์ของนักเตะ มิโน่ ไรโอล่า กล่าวว่ามาโนล่าไม่มีข่าวว่าจะย้ายทีม เขายังคงเป็นนักเตะของโรม่า และไม่มีทีมไหนยื่นข้อเสนอมาที่ผมเลย ซึ่งทำให้นักเตะจะอยู่กับทีมถึงปี 2019 ซึ่งโรม่าพยายามจ่ายเงินค่าเหนื่อยเพื่อชักจูงให้เขาอยู่กับทีมต่อไป
มาโนลาสสนุกกับฤดูกาลแรกของเขาในฟุตบอลเซเรีย อา เขาลงเล่นโดยเป็นตัวหลักของทีมภายใต้กุนซือชาวฝรั่งเศส รูดี้ การ์เซียที่พาทีมจบอันดับสองของลีก ช่วงจบฤดูกาล อาร์เซน่อลยื่นข้อเสนอให้โรม่าด้วยค่าตัวกว่า 15 ล้านปอนด์ โดยที่เมื่อช่วงซัมเมอร์อาร์เซนอลเคยยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวเขามาแล้ว วันที่ 19 มิถุนายน 2015 ตอนจบฤดูกาล มาโนลาสได้รับการโหวตจากแฟนบอลโรม่า ว่าเป็น “นักเตะที่ซื้อตัวได้คุ้มค่าที่สุดในฤดูกาล” หลังจากที่มีการโหวตกว่า 56 เปอร์เซ็นต์ มีคะแนนโหวตเหนือ เซดู เกอิต้า 18 เปอร์เซ็นต์ และฮวน อิตูร์เบ้ 8 เปอร์เซ็นต์
มาโนลาสลงสนามในฤดูกาล 2015/16 ด้วยการลงสนามเป็นนักเตะตัวหลักของโรม่า โดยมีข่าวว่าผู้จัดการทีมเชลซี โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องการจะนำนักเตะชาวกรีกรายนี้ไปเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อต้นฤดูกาล และได้พยายามติดต่อซื้อตัวเขาในช่วงปีใหม่ ขณะที่อาร์เซนอลและสเปอร์สก็อยากจะซื้อตัวเขาเช่นกัน วันที่ 17 กันยายน 2015 หลังจากที่เปิดบ้านเสมอบาร์เซโลน่า (แชมป์เก่า) ในแชมเปี้ยนส์ลีก 1-1 เขาได้รับการยกย่องจากทีมมากมาย “พวกเราเล่นได้อย่างสุดยอดตามแท็กติกของโค้ชอย่างแม้จริง เราเล่นได้ดีโดยเฉพาะกองหลัง และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญของทีม ที่เกมรับของทีมดีขึ้น” ต่อมาวันที่ 23 กันยายน โรม่าต้องพ่ายแพ้ต่อซามพ์โดเรีย 2-1 ในเกมเยือน และมาโนลาสยิงเข้าประตูตัวเองด้วย
วันที่ 26 กันยายน มาโนลาสยิงประตูแรกในฤดูกาล 2015/16 ให้โรม่าอย่างง่ายดายเกมที่ชนะทีมน้องใหม่ คาร์ปิ 5-1 โดยเขายิงประตูจากจังหวะที่ลูคัส ดีญจ่ายบอลให้เขาอย่างชาญฉลาด และเขายิงบอลด้วยเท้าขวาในกรอบโทษผ่านมือโกลกาเบรียล ซิลวา วันที่ 5 ธันวาคม โรม่าเสมอโตริโน่เกมเยือน 1-1 อย่างสุดดราม่า มาโนลาสฟาวล์ใส่อันเดรีย เบล็อตติในกรอบโทษ และมักซี่ โลเปซยิงลูกโทษเข้าไปอย่างใจเย็นนาที 94 เมื่อดูจากภาพช้าแล้วพบว่ากองหลังชาวกรีกเข้าถึงบอลได้ก่อน แต่ผู้ตัดสินยังยืนยันว่า โตริโน่จะได้ลูกโทษ วันที่ 11 ธันวาคม โรม่าพบทีมจากเบลารุส เบท บอริซอฟ มาโนลาสเกิดมีปากเสียงกับมิราเล็ม ปานิชในการครองบอล สื่อรายงานว่านักเตะทั้งสองคนชกต่อยกันในห้องแต่งตัว วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2016 เกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมนัดแรก โรม่าแพ้รีล มาดริด 0-2 แต่ว่าเขาก็ประกบเบนเซม่าได้ดีตลอดทั้งเกม วันที่ 20 เมษายน 2016 เกมเซเรีย อาเขายิงประตูที่สองเกมเปิดบ้านชนะโตริโน่
วันที่ 25 กรกฎาคม 2016 โค้ชลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เชื่อว่ากองหลังรายนี้มีความสุขดีกับทีม และต้องการอยู่ที่โรม่าต่อไป ถึงแม้ว่าช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมามีข่าวว่าแมนยู, อาร์เซน่อลและเชลซี ต้องการซื้อตัวมาโนลาส ซึ่งอาร์เซน่อลไม่พอใจที่ทีมหมาป่าปฏิเสธ นำแจ๊ค วิลเชียร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อตัวมาโนลาส และต่อมาเขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมจากกรุงโรมต่อไป
เดือนกันยายน 2016 โรม่าต้องจ่ายเงินชดเชยให้โอลิมเปียกอสเป็นเงินกว่า 6.5 ล้านยูโร โรม่าไม่ต้องการขายเขาออกไปจึงยื่นซื้อตัวเขาอีก 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะของโรม่าแต่เพียงทีมเดียว โรม่ายังปฎิเสธข้อเสนอของอาร์เซนอลที่ยื่นเข้ามา 39 ล้านยูโร , เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นกองหลังที่เหนียวแน่นที่สุดอีกคนหนึ่งในฟุตบอลเซเรีย อา ต่อมาเขาเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอของบาร์เซโลนาที่ส่งโธมัส แฟร์มาเล่นมาให้โรม่าและต้องการนำมาโนลาสไปเล่นที่สเปน วันที่ 2 ตุลาคม 2016 เขายิงประตูที่สองเกมที่เปิดบ้านชนะอินเตอร์ มิลาน 2-1 เกมนั้นเขาประกบเมารโร อิการ์ดี้จนเล่นไม่ออก
วันที่ 23 ตุลาคม 2016 เขาลงสนามให้โรม่าครบ 100 นัดเกมที่เปิดบ้านชนะ ปาแลร์โม่ 4-1 วันที่ 31 ตุลาคม 2016 เจ็บสองสัปดาห์เกมที่เสมอเอ็มโปลี 0-0 วันที่ 13 ธันวาคม 2016 เซนเตอร์ฮาล์ฟทั้งสามรายของโรม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาโนลาสและเฟเดริโก้ ฟาซิโอ ลงสนามร่วมกันกว่า 15 เกม ชนะการแท็คเกิ้ล 12 ครั้ง และเขายังมีเกมที่น่าประทับใจเมื่อจ่ายแอสซิสต์ให้รัดย่า เนียงโกลันยิงประตูชนะมิลาน 1-0
หลังจากที่ไม่ได้ย้ายไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ตามเพื่อนร่วมทีม เลอันโดร ปาเรเดส เขาก็อยู่กับทีมต่อไป วันที่ 27 กันยายน 2017 เขายิงประตูแรกเกมเยือนชนะคาราบัก 2-1 ในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 2 ธันวาคม 2017 นักเตะชาวกรีซได้ต่อสัญญากับทีมจัลโล่รอสซี่ จนกระทั่งปี 2022 โดยมีเงื่อนไขการซื้อตัวอยู่ที่ 35 ล้านยูโร วันที่ 15 ตุลาคม 2017 กองหลังชาวกรีกลงมาเป็นตัวสำรองเกมฟุตบอลเซเรีย อา ที่พบนาโปลีที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก้ กรุงโรม กองหลังชาวกรีกเจ็บกว่า 1 เดือน เนื่องจากเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย วันที่ 31 ตุลาคม 2017 เขากลับมาลงสนามเกมที่เปิดบ้านชนะ เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก 3-0 วันที่ 5 พฤศจิกายน 2017 เขายิงประตูแรกในฤดูกาล 2017/18 จากการเปิดบอลมาให้ของเอดิน เชโก้เกมนั้นทีมชนะฟิออเรนตินา 4-2
วันที่ 9 มีนาคม 2018 เขายิงประตูแรกจากการโหม่งบอลเกมที่พบโตริโน่หลังจากอเลสซานโดร ฟลอเรนซี่เปิดลูกเตะมุมเข้ามา หลังจากประตูนั้นเขาต้องเจ็บเข่า เนื่องจากปะทะกลางอากาศกับดาวิเด้ อัสโตรี่ กัปตันทีมของฟิออเรนตินา (ที่ตายไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม) วันที่ 4 เมษายน 2018 เกมนั้นทีมแพ้ 4-1 ในรอบควอเตอร์ไฟนัลเกมแรก ต่อบาร์เซโลนา โดยที่เขาทำเข้าประตูตัวเองในลูกที่สองอย่างสุดช็อก อย่างไรก็ตามเขากลับมาเล่นได้ดีช่วยให้ทีมเอาชนะบาร์เซโลนากลับคืนในเลกที่สอง ช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ปี 1984 วันที่ 21 เมษายน 2018 เขาเป็นกัปตันทีม เป็นนัดแรกเกมที่แข่งกับสปัล และชนะได้ 3-0 ในเกมเยือน (เซเรีย อา) โดยที่เขาได้รับสวมปลอกแขนจากรัดย่า เนียงโกลันนักเตะชาวเบลเยียม
เซนเตอร์แบ๊กอายุ 26 ปีเป็นนักเตะของโรม่าที่เล่นได้อย่างคงเส้นคงคนหนึ่งในฤดูกาล เขายิงประตูให้ทีมได้ด้วยเกมที่เปิดบ้านชนะซัสซูโอโล่ 1-0 ในครึ่งแรกโดยที่มาโนลาสยิงประตูได้ในกรอบโทษ ผ่านกองหลังจานลูก้า เปโกโล่ที่โชคร้ายบอลไปโดนเปโกโล่เข้าประตู
ถึงแม้ว่าเขาจะมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีม แต่มาโนลาสก็ยังอยู่ที่โรม่าเป็นฤดูกาลที่ห้า และเขาคาดหวังว่าจะได้แชมป์ฟุตบอลเซเรีย อาในเร็วๆนี้ วันที่ 27 สิงหาคม 2018 เขายิงประตูแรกได้จากฮาเวียร์ ปาสตอเร่ชิพบอลจากลูกฟรีคิกให้เขาที่เสาไกล สุดท้ายเขายิงมันเข้าไป ช่วยให้โรม่าจากตามหลัง 3-1 มาตีเสมอเป็น 3-3 ที่สตาดิโอ โอลิมปิโก้
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2018 เขาโหม่งบอลในระยะใกล้เข้าไป โดยการเปิดบอลมาให้ของลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ในลูกเตะมุม ทำให้ทีมได้ชัยชนะที่ต้องการ 2-1 เกมที่ไปเยือนชนะซีเอสเคเอ มอสโก หนึ่งวันต่อมาเขาได้รับการประกาศว่าติดทีมยอดเยี่ยมของแชมเปี้ยนส์ลีกนัดนั้น เขาถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากเจ็บ เกมที่กรีซชนะฟินแลนด์ 1-0 แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาลงสนามได้ทันตามกำหนดเดิม
เขาเป็นแกนหลักของทีมโรม่าในยุคของกุนซือ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ (อดีตกองหลังโรม่า) ตั้งแต่ที่ดิ ฟรานเชสโก้มาคุมทีมในช่วงซัมเมอร์ วันที่ 6 มีนาคม 2019 เกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่โรม่าพบปอร์โต้ เขาลงสนามเกมที่ 200 ให้ทีมในทุกรายการ เขาลงสนามเต็มเกมกว่า 120 นาทีเกมที่ทีมแพ้ต่อปอร์โต้ 1-3 ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย และมีรายงานว่ากองหลังวัย 27 ปี เจ็บกล้ามเนื้อ จะพลาดลงสนาม 3 สัปดาห์ หมายความว่าเขาจะชวดลงสนามให้กรีซ เกมยูโร 2020 รอบคัดเลือกที่จะพบลิกเตนสไตน์ และบอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวิน่า
ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของมาโนลาส ไปเข้าตาโค้ชทีมชาติกรีซคนก่อน อ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ลเรียกตัวเขาติดทีม 30 คนเพื่อที่จะไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 แต่ว่าสุดท้ายเขาไม่ผ่านการตัดตัวไปเล่นฟุตบอลโลก (23 คน) แต่ว่าเขาต้องรอมากกว่า 3 ปีจึงจะติดทีมชาติเกมกระชับมิตรกับสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาฟุตบอลโลก 2014 มาโนลาสเล่นได้อย่างแข็งแกร่งกับทีมโอลิมเปียกอส ในฤดูกาล 2013/14 ทำให้เขาได้รับเรียกจากกุนซือเฟอร์นานโด ซานโต๊สให้ไปเล่นในทัวร์นาเม้นต์นั้น ที่บราซิลเซนเตอร์แบ๊กรายนี้ถูกจับตามอง ว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคต ซึ่งทีมก็ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุด 50 คนแรกในฟุตบอลโลก 2014 ก่อนที่จะตกรอบโดยแพ้คอสตาริกา วันที่ 9 มิถุนายน 2017 มาโนลาสและเพื่อนร่วมทีมเอดิน เชโก้ ทะเลาะวิวาทกันอย่างน่าเกลียดในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งเกมนั้น บอสเนีย เฮอร์เซโกวิน่า และกรีซ เสมอกันแบบจืดชืด 0-0 หลังจากจบเกมนั้นก็เกิดเหตุชุลมุนในสนามด้วย วันที่ 12 กันยายน 2018 มาโนลาสยิงประตูให้ทีมชาติกรีซ โดนเขาหลุดหนีการประกบและโหม่งบอลผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป เกมนั้นทีมแพ้ 1-2 ต่อฮังการี ในฟุตบอลเนชั่นส์ ลีก
มาโนลาสมักจะประกบนักเตะตัวเล็ก มีความคล่องตัวได้ดี เมื่อยามที่ไม่มีบอลเขาก็ยังมีสมาธิในเกมการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา เขาเป็นกองหลังที่วิ่งได้เร็ว และคอยเก็บกวาดบอลก่อนที่จะถึงประตู ซึ่งเขาเป็นนักเตะกองหลังผสมระหว่างเซนเตอร์ฮาล์ฟสไตล์โบราณบวกกับการเปิดเกมรุกที่ทำได้ดี
มาโนลาสเป็นหลานชายของตำนานนักฟุตบอลชาวกรีก สเตลิออส มาโนลาส
