การได้จุดโทษถือเป็นโอกาสดีสำหรับทีมนั้น ๆ เพื่อจะได้มีโอกาสยิงประตูมากกว่าจังหวะทั่ว ๆ ไป โดยการฟาล์วภายในกรอบเขตโทษที่รุนแรงจนผู้ตัดสินต้องเลือกเป่าจุดโทษให้นั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เราเห็นกันบ่อยในวงการฟุตบอล แต่มันก็จะมีนักเตะบางประเภทที่โดนนิดโดนหน่อยทำออกแอ็คติ้งเยอะเหมือนกับโดนหนักจนบ่อยครั้งเราเห็นว่าผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทั้ง ๆ ที่ไม่ควรได้ด้วยซ้ำ ล่าสุดกรณีของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะของ ลิเวอร์พูล ก็กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการที่เจ้าตัวชอบพุ่งล้มเพื่อเอาจุดโทษ
ซาลาห์ จอมพุ่งเก็บจุดโทษ
อย่างในเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์เฉือนเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปแบบฉิวเฉียด 4-3 ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้จุดโทษจากจังหวะการล้มในกรอบเขตโทษของดาวเตะชาวอียิปต์ ทว่าท้ายที่สุดผู้ตัดสิน จอน มอสส์ ไม่ได้ให้จุดโทษดังกล่าวกับทางเจ้าบ้าน นั่นทำให้แฟนบอลจำนวนมากออกโรงมาเฉ่งเขาทันทีว่าเป็นจอมพุ่งล้มเพื่อหวังจะเอาจุดโทษให้กับทีม และกำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลอังกฤษสุด ๆ เนื่องจากไม่มีใครชอบอยู่แล้วกับการที่นักเตะมาทำแบบนี้
ในอดีตเราเคยเห็นนักเตะหลายคนที่ได้รับฉายาว่าจอมพุ่ง อาทิ ฟิลิปโป้ อินซากี้, แอชลี่ย์ ยัง จะว่ากันตามตรงมันก็เหมือนเป็นทักษะนอกตำราของบรรดาแนวรุกทั้งหลายที่จะตบตากรรมการให้ทีมได้ประโยชน์มากที่สุด พวกเขาอาจมองว่าทีเวลากองหลังเล่นเกมตุกติกยังไม่เห็นมีใครวิจารณ์อะไรเท่าไหร่ สิ่งที่กองหลังเหล่านี้ทำมันก็อยู่นอกตำราการเป็นนักฟุตบอลเหมือนกันดังนั้นหากพวกเขาจะใช้ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับทีมมันผิดตรงไหนกัน ก็ต้องบอกว่าไม่ว่าทริคไหนมันก็ผิดเหมือนกันหมด เพียงแค่คนส่วนใหญ่จะไปโฟกัสการพุ่งล้มมากกว่าการเข้าแท็กเกิ้ลของบรรดาแนวรับแค่นั้นเองนี่จึงกลายเป็นประเด็นร้อนซึ่งเป็นเรื่องที่ได้ยินกันบ่อย ๆ
การพุ่งล้มมันคือการเจตนาเอาจุดโทษที่น่าเกลียดหลายคนรู้ดี ผู้ตัดสินบางคนหากเห็นว่านักเตะคนนั้นจงใจเขามีสิทธิ์ให้ใบเหลืองเป็นการเตือนได้เลยด้วยซ้ำ ในฐานะที่พวกเราเป็นแฟนบอลย่อมไม่ชอบอะไรแบบนี้ทั้งนั้น ต่อให้ทีมที่ตนเองเชียร์ได้ประโยชน์ ทว่ามันกลับไม่รู้สึกภูมิใจเลยสักนิดที่การได้ประตูมาจากความโกงของนักเตะที่พยายามพุ่งล้มเพื่อเอาจุดโทษ เป็นเรื่องสีดำในวงการฟุตบอลที่ไม่มีใครชอบเลยจริง ๆ
