จะเอายังไง โอซิล เอาอีกแล้วหรอนี่

ต้องบอกว่าฟอร์มการเล่นของพลพรรค “ปืนใหญ่” ในช่วงหลังเป็นอะไรที่งดงามสุด ๆ ยิ่งเกมล่าสุดในการเปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ในศึกนอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ไปอย่างสุดมัน 4-2 มันทำให้เห็นชัดเจนว่าปีหน้าอาจกลายเป็นปีที่พวกเขาพร้อมกลับมาเขย่าบัลลังก์แชมป์อีกครั้ง ทว่าหากใครได้ดูการแข่งขันใน 2 เกมล่าสุดต้องบอกว่าสิ่งที่แปลกไปจากเดิมคือ เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ชาวเยอรมันไม่มีชื่อในการลงสนามแล้ว โดย อูไน เอเมรี่ อ้างกับนักข่าวว่าเจ้าตัวบาดเจ็บ

กระนั้นมันอาจมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่มากกว่าแค่อาการบาดเจ็บก็ได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาแทบไม่ได้มีที่ท่าว่าจะเจ็บหนักจนต้องหายหน้าหายตาไปนาน หรือนี่อาจเป็นอีกครั้งที่ดาวเตะตาโปนรายนี้มีปัญหากับผู้เป็นกุนซือเหมือนสมัยที่เขาเคยมีปัญหากับ ทีมชาติเยอรมัน จนต้องตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ตื้นลึกหนาบางคืออะไรไม่มีใครตอบได้ดีที่สุดเท่ากับ 2 คน 2 คม อย่าง โอซิล และ เอเมรี่

สไตล์การเล่นของ โอซิล

ปกติด้วยสไตล์การเล่นของ โอซิล เขาไม่ใช่ประเภทจะมาคึกคักอะไรตลอดเวลา เน้นการเล่นบอลแบบใช้หัวสมองคือจับบอลง่าย ๆ จ่ายบอลแบบเหนือชั้น และไม่ค่อยวิ่งมากเหมือนกับดาวเตะคนอื่น ๆ ในทีม นี่อาจเป็นอีกจุดที่ เอเมรี่ ไม่ค่อยชอบใจมากนักเนื่องจากดูสไตล์การทำทีมของเขาแล้วเน้นพละกำลังของลูกทีมในการวิ่งตะลุยไปข้างหน้าแบบบ้าคลั่ง จนบางครั้งแอบสงสัยไม่ได้ว่าแกไปกระตุ้นลูกทีมด้วยวิธีไหน ทว่าในช่วงที่ โอซิล ลงสนาม บ่อยครั้งที่บอลกำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็วแต่ต้องมาหยุดชะงักลงที่เขาเพราะด้วยสไตล์ที่เจ้าตัวชอบจับแล้วมองก่อนว่าจะไหลไปยังไงให้ดีที่สุด ไม่ใช่แนวการต่อบอลแล้วตนเองวิ่งไปข้างหน้า

ต้องยอมรับว่านักเตะบางคนแม้จะเก่งหรือเทพแค่ไหนในสายตาแฟนบอล แต่ถ้าผู้เป็นโค้ชมองว่ามันไม่เข้าระบบของตนเองก็ยากที่จะส่งลงสนาม ด้วยฟุตบอลไม่อาจเอาชนะได้ด้วยนักเตะเพียงคนเดียว ดังนั้นผู้เป็นกุนซือจึงต้องมองยังภาพรวมมากกว่าการรั้งนักเตะคนหนึ่งเอาไว้หรือฝืนส่งเขาลงเพียงเพราะชื่อเสียงที่ทำมาในอดีต

เอเมรี่ เองขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือที่พร้อมมีปัญหากับลูกทีมทุกคนหากเขาไม่พอใจในการเล่นที่ไม่เป็นไปตามความต้องการของเขาอยู่แล้วด้วย หรือการหายหน้าไปของ โอซิล อาจเป็นสัญญาณบอกกลาย ๆ ว่าหมดเวลาในถิ่นเอมิเรตส์ สเตดี้ยมเสียแล้ว