จู๊ด เบลลิ่งแฮม สุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี

จู๊ด เบลลิ่งแฮม สุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี

ในวัย 16 ปี จู๊ด เบลลิ่งแฮม กองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษ ยังเด็กเกินไปที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในขณะที่กฎข้อบังคับการรักษาความปลอดภัยหมายความว่า เขาต้องมีห้องพักเป็นของตัวเองสำหรับการพักค้างคืนก่อนจะลงเล่น

ดาวรุ่งมากพรสวรรค์รายนี้ ซึ่งจะอายุครบ 17 ปี ในเดือนมิถุนายน นั้น กำลังใช้ชีวิตอยู่ในความฝันหลังจากเขียนประวัติศาสตร์ของตัวเองกับสโมสรในวัยเด็กของเขาอย่าง เบอร์มิงแฮม โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เบลลิ่งแฮม ทำสถิติกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของ “ตราลูกโลก” ที่ยิงได้ 4 ประตูในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

ขณะเดียวกัน จากความยอดเยี่ยมของ เบลลิ่งแฮม นั้น ทำให้เขาตกเป็นข่าวกับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั้งในเมืองผู้ดีอย่าง เชลซี และในยุโรป อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งมีรายงานข่าวว่า “เสือเหลือง” บรรลุข้อตกลงจ่ายเงิน 30 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขาไปเสริมทัพเรียบร้อยแล้ว

เป๊ป โคลเต็ท ผู้จัดการทีม เบอร์มิงแฮม กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “นี่เป็นสโมสรของเขา และเขาเป็นคนของสโมสรแห่งนี้ เราทราบดีถึงความสนใจในตัวเขา และในเกมล่าสุดกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ มีแมวมองจากทั่วยุโรปมาอยู่ในสนามด้วย”

ดังนั้นใครคือนักเตะดาวรุ่งในแถบเวสต์ มิดแลนด์ ที่ได้รับการขนานนามจากสื่อว่า เป็นผู้เล่นชาวอังกฤษมากพรสวรรค์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ เวย์น รูนีย์ อดีตยอดกองหน้าของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก

เบลลิ่งแฮม สร้างประวัติศาสตร์กับ เบอร์มิงแฮม เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 2018 เมื่ออายุ 16 ปี กับอีก 38 วัน เขาได้กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ได้ลงสนาม ซึ่งทำลายสถิติของ เทรเวอร์ ฟรานซิส ตำนาน “ตราลูกโลก” ทำไว้ในปี 1970

ในเวลาอีก 1 เดือนต่อมา เบลลิ่งแฮม ทำลายสถิติสโมสรอีกครั้ง หลังจากที่เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้กับ เบอร์มิงแฮม ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับอีก 63 วัน หลังจากซัดประตูในเกมลีกกับ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ จาก โปรแกรมบอล ที่ผ่านมา

คริสเตียน สปีคแมน ผู้จัดการทีมเยาวชนของ เบอร์มิงแฮม กล่าวว่า “เมื่อเขาได้เข้าไปเล่นกับทีมชุดอายุต่ำกว่า 12 ปี เขาดูโดดเด่นมากๆ เขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน และเขาส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมากในสนามฝึกซ้อมของเรา และเขาสามารถรับมือในการเล่นกับผู้เล่นที่มีอายุมากกว่าได้เป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่ฉลาด”

ตอนอายุ 13 ในสมัยที่ เบลลิ่งแฮม ยังเป็นนักเรียนที่โรงเรียนไพรเออรี่ ในแถบ Edgbaston นั้น เขาเป็นตัวแทนของทีมชาติอังกฤษอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 15 ปีและเขียนไดอารี่สำหรับเว็บไซต์ของโรงเรียนเกี่ยวกับการเปิดตัวในเกมกับ ตุรกี ที่สนามเซนต์ จอร์จ ไว้อย่างน่าชื่นชม

กองกลาง เบอร์มิงแฮม ระบุว่า “ดวงตาของผมสว่างไสวเมื่อผมเห็นชุดทีมชาติอังกฤษของผมวางอยู่ตรงหน้า มันเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบมาก มันเหมือนความฝันที่เป็นจริง มันเป็นความอิ่มเอมใจ ซึ่งเป็นคำเดียวที่ผมสามารถใช้เพื่ออธิบายวันมหัศจรรย์อย่างแท้จริง”

ในเวลาอีก 2 ปีต่อมา ในวัยเพียง 15 ปี เบลลิ่งแฮม มีชื่อติดทีมชุดใหญ่ของ เบอร์มิงแฮม ในการเดินทางไปทำศึกดาร์บี้ แมตช์ กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งเขาได้มีโอกาสลงไปอบอุ่นร่างกายที่ริมสนามเดอะ ฮอว์ธอร์น

ในขณะที่ เบลลิ่งแฮม ทำการสัมภาษณ์หลายครั้งกับสื่อท้องถิ่นในเมือง เบอร์มิงแฮม นั้น เขาก็ไม่ลังเลที่จะเปิดเผยถึงสิ่งต่างๆ และเขาพูดอย่างชัดเจนว่า ปัจจุบันตนเองกำลังศึกษาวิชาสังคมวิทยาระดับ A เมื่อเขาว่างจากการฝึกซ้อมฟุตบอล

ดาวรุ่ง “ตราลูกโลก” กล่าวว่า “ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการศึกษา และพ่อแม่ของผมต้องการให้ผมมุ่งมั่นกับมันมากๆ มันทำให้ผมมีสมาธิ ดังนั้น ผมจึงไม่ใช่แค่นั่งอยู่ที่บ้าน และเล่นวิดีโอเกม” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ League Football Education ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ และสมาคมนักฟุตบอลอาชีพเพื่อให้การศึกษาคำแนะนำและสวัสดิการสำหรับผู้เล่นเยาวชน

กำหนดการทางวิชาการของ เบลลิ่งแฮม ทำให้เขาได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปเกี่ยวกับสุขภาพจิต โดยดาวเตะ เบอร์มิงแฮม กล่าวต่อว่า “มันเยี่ยมมากที่เราได้พบกับเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อย คุณเห็นหลายๆคนเลือกที่จะลงไปตามเส้นทางของการฆ่าตัวตาย และเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงกดดัน ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ว่าคนอื่นๆรู้สึกอย่างไร แต่เป็นการดีที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการระบุสัญญาณและวิธีการช่วยเหลือพวกเขา”

กำหนดการทางวิชาการของ เบลลิ่งแฮม

ดาร์เรน คาร์เตอร์ อดีตกองกลาง เบอร์มิงแฮม ซึ่งเคยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกในวัยเพียง 18 ปี ก็รู้สึกประทับใจในตัว เบลลิ่งแฮม เช่นกัน โดยระบุว่า “วิธีที่เขาพูดถึงในเชิงลึกเกี่ยวกับเกม และแท็คติคต่างๆในสนาม มันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนฉลาดแค่ไหน เขาอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น”

ครอบครัวของ เบลลิ่งแฮม อาศัยอยู่ในแถบสเตาร์บริดจ์ โดยที่ มาร์ค พ่อของเขา เคยเป็นอดีตกองหน้าในระดับทีมนอกลีก ในขณะที่ โจเบ น้องชายของเขาก็อยู่ในทีมชุดเยาวชนของ เบอร์มิงแฮม และติดทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 15 ปีอีกด้วย

สปีคแมน กล่าวต่อว่า “เขามาจากครอบครัวที่แน่นแฟ้น ซึ่งได้รับการปกป้อง และสนับสนุนตลอดเวลา เขาเข้าไปสู่ทีมชุดแรกได้อย่างรวดเร็ว คุณไม่สามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลทีมแรกได้เร็วเท่าที่เขาเคยทำอีกแล้ว

“เขาได้รับการสนับสนุนที่ดีมากๆรอบตัว ผมแน่ใจว่าเขาจะชี้ไปที่ครอบครัวของเขาว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ เด็กคนนี้มีความฉลาดทางด้านอารมณ์ และวุฒิภาวะที่เหลือเชื่อสำหรับคนที่อายุเท่าเขา” โค้ชเยาวชน “ตราลูกโลก” กล่าว

ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เบลลิ่งแฮม กับ ฮาลี ดีน กองหลังเพื่อนร่วมทีม เบอร์มิงแฮม เป็นตัวแทนสโมใสรในการวางพวงหรีด และดอกป๊อปปี้ที่หอรำลึกสงครามใน เบอร์มิงแฮม และเขายังหาเงินบริจาคเพื่อการกุศลเพื่อสร้างห้องเรียนสำหรับเด็กในแอฟริกาใต้อีกด้วย

สปีคแมน กล่าวว่า “แม้เขาจะเป็นนักเตะทีมชุดแรก แต่เขาก็ยังคงไปพบปะกับอดีตเพื่อนร่วมทีมเยาวชนอยู่เสมอ เขาไม่ได้เล่นใน FA Youth Cup ฤดูกาลนี้ แต่เขาอยู่ในห้องแต่งตัวเพื่อเฉลิมฉลองกับเพื่อนๆเมื่อพวกเขาผ่านเข้ารอบ”

“นั่นคือตัวตนของเขา เขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือ และสนับสนุนเด็กที่อายุน้อยกว่าเสมอ สำหรับเด็กๆหลายคนในทีมเยาชนของเรานั้น มักจะมีเขาเป็นแบบอย่าง บางทีมันเป็นเรื่องยากสำหรับดาวรุ่งที่ต้องรับมือกับสิ่งต่างๆ แต่สำหรับ เบลลิ่งแฮม นั้น เขารับมือกับแรงกดดันเหล่านั้นได้อย่างน่าทึ่ง”

ในเวลานี้ เบลลิ่งแฮม ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่เก่งที่สุดในอังกฤษ นอกจากนี้ เขาถูกเชื่อมโยงกับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คาร์เตอร์ กล่าวเสริมว่า “เขาจะได้ยินทุกอย่างจากสโมสรที่สนใจในตัวเขา และความสนใจที่เขาได้รับจากโลกฟุตบอล สิ่งที่ดีที่สุดที่ เบลลิ่งแฮม ทำได้คือ ไม่ได้ยุ่งกับสิ่งที่ผู้คนพูดออกไป”

เบลลิ่งแฮม ซึ่งอายุเพียง 7 ขวบ ในสมัยที่ เบอร์มิงแฮม ยังเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2011 กล่าวว่า “ผมรักสโมสรแห่งนี้นับตั้งแต่ผมเข้าร่วมทีม ผมไม่สามารถรอที่จะสร้างความทรงจำอันยอดเยี่ยมในอนาคตได้อีกแล้ว”

ขณะเดียวกัน เบลลิ่งแฮม ควรทำอย่างไรถ้าสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเข้ามาหาเขาในฤดูร้อนนี้ โดย คาร์เตอร์ แนะนำว่า “เขาต้องทำในสิ่งที่เขารู้สึกว่าถูกต้องสำหรับเขา ในฐานะที่เป็นแฟนบอล เบอร์มิงแฮม พวกเราทุกคนต่างก็ต้องการให้เขาอยู่กับสโมสรไปอีกหลายปี”

“เราทุกคนต่างก็รู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้เขาดูมีความสุขมากกับ เบอร์มิงแฮม เขากำลังมุ่งหน้าสู่การลงเล่นในทีมชุดแรกมากกว่า 40 เกมในฤดูกาลนี้ และผมจำไม่ได้แล้วว่า เด็กอายุ 16 ปีคนสุดท้ายที่ประสบความสำเร็จในเดอะแชมเปี้ยนชิพ คือใคร”

การเชื่อมต่อของ เบลลิ่งแฮม กับฐานแฟนคลับเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เขามีอิทธิพลต่อแฟนๆ เบอร์มิงแฮม รุ่นใหม่ เจมส์ แมคคอนเนล และภรรยาของเขาคลอดลูกชายในวันที่ เบลลิ่งแฮม ยิงประตูได้ และพวกเขาก็ตั้งชื่อลูกว่า จู๊ด

ครอบครัวของ แมคคอนเนล ได้รับเชิญจาก เบลลิ่งแฮม ให้ไปยังสโมสร เบอร์มิงแฮม เพื่อพูดคุยและมอบของที่ระลึกต่างๆ โดย แมคคอนเนล กล่าวว่า “เขายอดเยี่ยมกับครอบครัวมาก เขาบอกว่า เขาไม่เคยมีลูกมาก่อนเลย เขาดูตื่นเต้นมาก”

ในเวลาอีกไม่กี่เดือน เบลลิ่งแฮม จะสามารถเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างเต็มตัว แต่คำถามคือว่า เขาจะเซ็นสัญญานั้นกับ เบอร์มิงแฮม หรือไม่

การเชื่อมต่อของ เบลลิ่งแฮม กับฐานแฟนคลับ

เนื้อหาใกล้เคียง