ดาบิด เด เคอา ควินทาน่า เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 1990 เขาเป็นนักฟุตบอลชาวสเปนซึ่งเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษและเป็นมือหนึ่งของทีมชาติสเปน เขาเกิดในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ดาบิด เด เคอา เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีแอตเลติโก้ มาดริด ตอนอายุ 13 ปี โดยเริ่มต้นจากทีมเยาวชนและได้ลงสนามในชุดใหญ่ในปี 2009 โดยหลังจากเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมเขาได้ช่วยทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกและยูฟ่าซุปเปอร์คัพในปี 2010 ด้วยฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเขาทำให้ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจและเขาได้ตกลงย้ายมาร่วมทีมยูไนเต็ดในเดือนมิถุนายนปี 2011 ด้วยค่าตัว 18.9 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดในเกาะอังกฤษของตำแหน่งผู้รักษาประตู
ตั้งแต่ที่เขาได้ย้ายมาร่วมทีมกับยูไนเต็ด เขาได้ลงสนามไปแล้วมากกว่า 300 นัด ช่วยพาทีมคว้าแชมป์มากมายทั้งพรีเมียร์ลีก,เอฟเอคัพ,ลีกคัพ,แชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์ 3 สมัยและยูโรป้าลีกภายในสามฤดูกาลตั้งแต่ 2013-2016 โดยทางดาบิด เด เคอา ได้รับเลือกจากกองเชียร์ของทีมให้รับรางวัลเซอร์แม็ท บัสบี้ เพลเยอร์อ็อฟเดอะเยียร์ เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ช่วยทีมคว้าแชมป์ติดต่อกันได้หลายฤดูกาล โดยเขาเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของทีมที่ได้รับรางวัลสามปีติดต่อกัน รวมถึงการมีชื่อในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ PFA สี่ครั้งติดต่อกันในตำแหน่งผู้รักษาประตูซึ่งรวมแล้วทั้งหมดห้าครั้งตั้งแต่ปี 2015-2018 และในปี 2018 เขาได้รับการเสนอชื่อใน FIFA FIFPRO World Xl
ดาบิด เด เคอา ได้รับตำแหน่งกัปตันทีมชาติสเปนรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปีและพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนในปี 2011 และ 2013 และได้ลงเล่นในรายการโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2012 เขาลงสนามนัดแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2014 เป็นการแข่งขันฟุตโลก ดาบิด เด เคอา ได้รับคำชี้แนะจากหลายต่อหลายคนเพื่อให้เขาสามารถขึ้นมาทดแทนอิเคร์ คาซิญาส ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูในทีมชาติสเปนมาอย่างยาวนานและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก
ดาบิด เด เคอา เกิดในกรุงมาดริดและเติบโตใน Illesca เขาได้ร่วมทีมกับแอตเลติโก้ มาดริด ตอนอายุ 13 โดยที่โค้ชในขณะนั้นคือฮวน หลุยส์ มาร์ตินได้โกหกกับสโมสรว่าทางทีมราโย่ บาเยกาโน่ ได้ทำการเซ็นสัญญากับดาบิด เด เคอาแล้ว ไม่กี่วันต่อมา ดิโอโก้ ดิอ๊าซ การิโด้ที่คอยจับตาดูดาบิด เด เคอา ได้จัดการทำข้อตกลงกับเขาเรียบร้อยและได้เข้าร่วมในทีมเยาวชนของสโมสรก่อนจะได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 2008 ซึ่งในขณะนั้นเขาอายุเพียง 17 ปี โดยระยะเวลาของสัญญายาวไปจนถึงปี 2011 เขาได้ลงเล่นฤดูกาลที่สองให้กับสโมสรในชุดบีโดยเล่นอยู่ในลีกเซกันด้า ดิวิชั่นบี ลีกรองจากลาลีก้าของสเปน ในช่วงฤดูร้อนปี 2009 ดาบิด เด เคอา ตกเป็นเป้าหมายในการยืมตัวของทีมนูมานเซียและทีมจากอังกฤษอย่าง ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ ทางฝั่งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของสโมสรอย่างเฮซุส การ์เซีย ปิทร๊าซได้สนับสนุนให้เขาตกลงรับข้อเสนอจากทีมนูมานเซีย แต่ทางดาบิด เด เคอา ปฏิเสธข้อเสนอนั้นและตัดสินใจลงซ้อมกับทีมต่อไป อาทิตย์ถัดมา ผู้จัดการทีมอย่างอาเบล เรซิโน่ สังเกต เห็นว่าเขาแยกตัวไปซ้อมเพียงลำพังเลยชวนให้มาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และได้รับตำแหน่งมือสามของทีม ในช่วงเวลาเดียวกันทางสโมสรวีแกนได้ยื่นข้อเสนอสำหรับดาบิด เด เคอา แต่ทางทีมของเขาได้ปฏิเสธไป
ด้วยตัวเลือกแรกในการลงสนามในตำแหน่งของผู้รักษาประตูนั้นเป็นเซอร์จิโอ อาเซ็นโจ้ ต้องไปเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี จึงเป็นโอกาสของดาบิด เด เคอา ที่จะได้ลงสนามรองจากโรแบร์โต้ เขาได้รับโอกาสลงสนามครั้งแรกตอนอายุ 18 ในวันที่ 30 กันยายน 2009 โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่โรแบร์โต้ที่ได้รับบาดเจ็บในนาทีที่ 27 ในเกมส์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่มซึ่งเป็นนัดที่ไปเยือนทีมปอร์โต้ โดยทีมของเขาพ่ายแพ้ไป 2-0 จากอาการบาดเจ็บดังกล่าวของโรแบร์โต้ นั่นหมายความว่าอีกสามวันที่ทีมจะต้องมีแข่งกับเรียล ซาราโกซ่า จะเป็นโอกาสของดาบิด เด เคอา ซึ่งในเกมส์เยือนนัดนั้น เขาสามารถป้องกันประตูจากลูกจุดโทษในนาทีที่ 19 แต่ก็โดนซ้ำเข้าไป
ดาบิด เด เคอา เคยให้คำนิยามของการเล่นในสนามบิเซนเต้ กัลเดรอนว่ามันเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเยาว์ของเขา ในช่วงเดือนมกราคม 2010 ดาบิด เด เคอา ถูกมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทนที่ของเอ็ดวิน ฟานเดอซาร์ นายประตูของยูไนเต็ดที่กำลังจะออกจากทีมในปี 2011 แต่ในวันต่อมา ดาบิด เด เคอา ได้ต่อสัญญาฉบับให้กับทีมของเขาไปจนถึงปี 2013
หลังจากการขาดหายไปของอาเซ็นโจ้ และการเข้ามาของกิเก้ ซานเชส ฟลอเรส ในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ ดาบิด เด เคอา จบฤดูกาล 2009-10 ด้วยการเป็นมือหนึ่ง เขาได้ตำแหน่งแมนออฟเดอะแมทช์ถึงสองครั้งในนัดที่พบกับแอธเลติก บิลเบาและบาเลนเซีย รวมไปถึงการได้ลงสนามแปดนัดพาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก ซึ่งในนัดชิงชนะเลิศที่พบกับทีมฟูแล่มและเอาชนะไปได้ 2-1 ทางดิเอโก้ ฟอลลันกล่าวชื่นชมเขาว่า “ดาวิดเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถพอจะติดอันดับโลกได้ ซึ่งเขาอายุเพียง 19 ปี และผู้เล่นทุกคนในทีมต่างเชื่อมั่นในตัวเขา”
ดาบิด เด เคอา เริ่มต้นฤดูกาล 2010-11 ได้อย่างน่าสนใจด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ ที่สามารถเอาชนะอินเตอร์มิลานในเวลาเก้าสิบนาทีไปได้ 2-0 เขาป้องกันลูกจุดโทษของดิเอโก้ มิลิโต้ได้ ในช่วงเดือนกันยายนมีรายงานข่าวว่าทางเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ลงคุมทีมด้วยตัวเองในเกมส์ลีกคัพที่ยูไนเต็ดพบกับทีมสคันธอร์ป ยูไนเต็ด แต่ได้บินมาสเปนเพื่อชมฟอร์มของดาบิด เด เคอา ในนัดที่เขาต้องพบกับทีมบาเลนเซีย จากข่าวลือนี้ ดาบิด เด เคอา ได้ออกมากล่าวว่า “สิ่งสำคัญสำหรับเขาในตอนนี้คือการลงเล่นให้กับแอตเลติโก้ มาดริดและเขามีสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2013”
จากการลงเล่นให้กับทีมได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาดในศึกมาดริด ดาร์บี้แมทช์เมื่อเดือนกันยายน ทำให้เขาถูกมองว่าอาจจะเป็นตัวแทนของอิเคร์ คาซิญาส ในทีมชาติสเปน ซึ่งคาซิญาสเห็นด้วยและออกมากล่าวว่า “ในทีมชาติสเปน เราโชคดีทีมยอดนายประตูและดาบิด เด เคอา ต้องแสดงความสามารถของเขาเองในการที่จะมาแทนที่ฉันในทีมชาติ” ซึ่งทางฝั่งของบิเซนเต้ เดล บอสเก้ โค้ชทีมชาติสเปนได้ออกมาให้คำนิยามดาบิด เด เคอา ว่า “นี่คืออนาคตของทีมชาติสเปน” โดยดาบิด เด เคอา ยังคงทำผลงานในสนามได้ดีอย่างต่อเนื่องและยอดเยี่ยมในช่วงนัดที่เหลือของฤดูกาลและพาทีมคว้าอันดับ 7 ในลีก
ซึ่งครั้งหนึ่งในทีมแอตเลติโก้ มาดริดนั้น ดาบิด เด เคอา เคยใช้ตู้เก็บของร่วมกับเคลแบร์ ซานตาน่า เขาเป็นผู้โชคร้ายที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินลาเมีย 2933 ตกในขณะเดินทางไปร่วมแข่งขันในรายการโคปา ซุดาเมริกาน่ารอบชิงชนะเลิศในปี 2016
ตลอดฤดูกาล 2010-11 การคาดการในการหาตัวแทนของเอ็ดวิน ฟาน เดอซาร์ ในตำแหน่งของผู้รักษาประตูเป็นที่แพร่หลายอย่างมากและทุกฝ่ายต่างเล็งไปที่ดาบิด เด เคอา ซึ่งตกเป็นเป้าหมายหลักของยูไนเต็ด โดยหลังจากการเตะนัดเกียรติยศของแกร์รี่ เนวิลล์ ที่พบกับทีมยูเวนตุสเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ทางผู้จัดการทีมอย่างเซอร์ อเล็กซ์ ได้ออกมากล่าวว่าเขาได้ทำข้อตกลงกับดาบิด เด เคอา เป็นที่เรียบร้อยในการดึงตัวเขามาเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ข่าวนี้ได้ถูกปฏิเสธจากตัวแทนของนักเตะและฝ่ายจัดการของสโมสรแอตเลติโก้ มาดริด ซึ่งทางดาบิด เด เคอา ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการย้ายทีมในอนาคตของเขาเองจนกว่าจะถึงช่วงหลังจบการแข่งขันรายการชิงแชมป์ยุโรปรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปีในปี 2011 และทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยทางดาบิด เด เคอา ถูกพบว่ากำลังรักษาตัวอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ในวันที่ 27 มิถุนายน วันถัดมามีรายงานข่าวว่าทางยูไนเต็ดได้ยื่นข้อเสนอให้เขาพิจารณาและได้บรรลุข้อตกลงในวันที่ 29 มิถุนายน ด้วยค่าตัวประมาณ 18.9 ล้านปอนด์ ก่อนหน้านี้ดาบิด เด เคอา ชื่นชอบปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ซึ่งเป็นอดีตผู้รักษาประตูของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเขามักจะถูกเปรียบเทียบกับทางฟานเดอซาร์ โดยถูกตั้งชื่อให้คล้ายคลึงเป็น “ฟาน เดอ เกอา”
ดาบิด เด เคอา ลงสนามนัดแรกให้กับยูไนเต็ดในนัดกระชับมิตรซึ่งทีมเอาชนะชิคาโก ไฟร์ ไปได้ 3-1 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2011 และนัดต่อมาในการลงสนามพบกับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกคอมมูนิตี้ชิลด์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม แม้ในช่วงครึ่งเวลาแรกยูไนเต็ดจะโดนยิงไปสองลูกจากลูกโหม่งของโจเลออน เลสคอตต์และลูกยิงไกลของเอดิน เซโก้ แต่ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ยูไนเต็ดสามารถพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 3-2
ดาบิด เด เคอา ลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีกให้กับยูไนเต็ดนัดที่พบกับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในสัปดาห์ต่อมา เขาโดนวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถป้องกันลูกยิงของเชน ลองได้ แต่ทางยูไนเต็ดสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 โดยทางเซอร์ อเล็กซ์ ออกมากล่าวว่า “นี่คือกระบวนการการเรียนรู้” ดาบิด เด เคอา สามารถเก็บคลีนชีตโดยการไม่เสียประตูในหนึ่งนัดได้เป็นครั้งแรกที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดจากการเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ไป 3-0 หกวันต่อมาดาบิด เด เคอา สามารถป้องกันลูกยิงจากจุดโทษของกัปตันทีมอาเซน่อลอย่างโรบิน ฟานเพอร์ซี่ไว้ได้ และยังคงป้องกันลูกยิงของฟานเพอร์ซี่และอังเดร อาร์ชาวินก่อนยูไนเต็ดจะเอาชนะไป 8-2 ซึ่งทางเพื่อนร่วมทีมอย่างเวย์น รูนี่ย์ได้ออกมาสนับสนุนดาบิด เด เคอา ในความสำเร็จของยูไนเต็ดและยกย่องเขาว่าเป็น “ตัวละครลับ”
เมื่อวันที่ 18 กันยายน นัดที่ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะเชลซีไปได้ถึง 3-1 ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด จากการโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของดาบิด เด เคอา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่รามิเรซนักเตะของเชลซีมีโอกาสหน้าประตูโล่งๆแต่เป็นทางดาบิด เด เคอา ที่สามารถพุ่งไปรับบอลไว้ได้ โดยพัฒนาการของดาบิด เด เคอา ยังคงพัฒนาได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเขาสามารถป้องกันประตูไว้ได้และช่วยให้ทีมเสมอกันไปกับทีมสโต๊คซิตี้ 1-1 และได้รับการยกย่องจากปาทริซ เอฟร่ารวมไปถึงดาร์เร็น เฟล็ทเชอร์ในเรื่องของประสิทธิภาพโดยรวมของเขา ดาบิด เด เคอา ได้รับโอกาสลงสนามในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกครั้งแรกกับยูไนเต็ดในนัดที่เสมอกับบาเซิ่ลไป 3-3 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2011 และเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ดาบิด เด เคอา ได้รับการยกย่องในความพยายามของเขาในเกมส์ที่เสมอกับลิเวอร์พูลที่สนามแอนฟิลด์ไป 1-1 จากการที่เขาสามารถป้องกันลูกยิงที่สำคัญในนัดนั้น โดยทางผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูลอย่างเคนนี่ ดัลกริชออกมากล่าวติดตลกว่า “ฉันนึกว่าสื่อต่างๆจะบอกว่าเด็กชายคนนั้นกำลังหาทางดิ้นรนอยู่เลย”
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2011 นัดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ไปอย่างน่าอับอายให้กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1955 และเป็นครั้งแรกที่ยูไนเต็ดเสียประตูไปถึงหกลูกในการเล่นในบ้านนับตั้งแต่ปี 1930 ต่อมาในนัดที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพ่ายแพ้ให้กับทีมแบล็กเบิร์นโรเวอร์ไป 3-2 ดาบิด เด เคอา ตกเป็นเป้าหมายจากสื่อในความผิดพลาดจากการป้องกันลูกกลางอากาศซึ่งเป็นลูกที่แกรนท์ ฮานลี่ย์สามารถทำประตูแซงและเอาชนะไป ซึ่งทางดาบิด เด เคอา ออกมากล่าวว่า “ผู้รักษาประตูทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาดกันได้บ่อยครั้ง และเราไม่ได้ต้องการจะเป็นแบบนั้น ฉันมีความตั้งใจที่จะใช้เวลาอยู่กับยูไนเต็ดอีกหลายปี และต้องการเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมรวมไปถึงการได้รับโอกาสและความเคารพที่ฉันสมควรจะได้รับ” และยังกล่าวถึงอดีตผู้รักษาประตูคนก่อนว่า “ฉันหวังว่าฉันจะทำผลงานได้ดีเทียบเท่าและมีส่วนร่วมกับทีมเหมือนเอ็ดวิน ฟานเดอซาร์ที่เคยทำให้กับสโมสร” โดยหลังจากนัดนั้นดาบิด เด เคอา ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองแทนที่อันเดรส ลินเดอการ์ด ซึ่งในภายหลังลินเดอการ์ดได้รับอาการบาดเจ็บ ทำให้ดาบิด เด เคอา ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งในนัดที่เสมอกับเชลซีไป 3-3 ที่สนามแสตมป์ฟอร์ดบริดจ์ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2012 ดาบิด เด เคอาออกมากล่าวว่าการป้องกันลูกยิงของฆวน มาต้าในนัดนั้นเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนของเขาในฤดูกาล เขาลงสนามให้ทีมไป 19 นัด เก็บคลีนชีตไปได้ 8 เกมส์
หลังจากฤดูกาลแรกที่แตกต่างออกไปในอังกฤษของดาบิด เด เคอา เขาได้กล่าวว่า “มีข้อสงสัยต่างๆนาๆในฤดูกาลนี้เกี่ยวกับฉัน แต่ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง รวมไปถึงแรงกดดันภายในของทีมแห่งนี้ช่างมหาศาลนัก แต่เฟอร์กูสันบอกให้ฉันทำในสิ่งที่เคยทำตอนอยู่ในทีมแอตเลติโก้ มาดริด หากเกิดข้อผิดพลาดคุณต้องเข้มแข็งเข้าไว้ มันจึงทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นและไร้ข้อกังวลอีก ซึ่งข้อผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน มันเป็นเรื่องปกติ” โดยการที่มีคู่แข่งภายในทีมอย่างลินเดอการ์ดซึ่งพร้อมจะแย่งตำแหน่งตัวจริงทุกเวลา โดยมีคำสัญญาจากการแย่งตำแหน่งนั้นว่า “ฉันต้องการเป็นมือหนึ่งในทีมเพราะว่าฉันเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุด ฉันมั่นใจว่าเขาอาจจะนำหน้าเพียงเล็กน้อยเพราะเขาทำได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นฉันต้องใช้ทุกโอกาสที่ได้รับเพื่อจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าคู่ควรกับมือหนึ่งของทีม” แต่ในภายหลังดาบิด เด เคอา ได้ออกมายอมรับว่าเคยคิดจะออกจากทีมหลังจากจบฤดูกาลแรก
เนื่องจากดาบิด เด เคอา ต้องไปรับใช้ทีมชาติในโอลิมปิกปี 2012 ทำให้เขาพลาดการลงเตะกระชับมิตรในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลกับยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาในการกลับมาเป็นตัวจริงในนัดเปิดฤดูกาลที่พบกับทีมเอฟเวอร์ตัน แม้ดาบิด เด เคอา จะยายามป้องกันทุกวิธีแต่ก็ต้องพลาดและแพ้ไป 1-0 นัดต่อมายูไนเต็ดเอาชนะฟูแล่มได้ในบ้าน 3-2 เขาสามารถป้องกันประตูได้อย่างน่าอัศจรรย์จากลูกยิงของมลาเด็น เปทริซ,มุสซ่า เด็มเบเล่และไบรอัน ลุยซ์โดยการผ่านบอลของแมทธิว บริกซ์ อย่างไรก็ตามประตูที่เสียในลูกที่สองเกิดจากความไม่เข้าใจกันของเขากับเนมานย่า วิดิซ กองหลังชาวเซอร์เบี้ยนของยูไนเต็ดเองที่พลาดทำบอลเข้าประตู
วันที่ 1 ธันวาคม ดาบิด เด เคอา ป้องกันประตูอย่างต่อเนื่องจากลูกยิงของคาร์ลอส เตเวซและดาวิด ซิลวา ช่วยให้ยูไนเต็ดเอาชนะซิตี้ไปได้ 3-2 ที่สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมทช์ ในนัดถัดมา การาเอาชนะซันเดอร์แลนด์ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-1 ดาบิด เด เคอา ได้ป้องกันลูกยิงสำคัญสองลูกของเคร็ก การ์ดเนอร์และสเตฟาน เซ็สเซยองตามซ้ำจากลูกนั้น
ดาบิด เด เคอา ได้รับคำวิจารณ์จากอดีตกัปตันทีมยูไนเต็ดอย่างแกร์รี่ เนวิลล์ในนัดที่เสมอกับสเปอร์ไป 1-1 โดยเป็นคนปล่อยให้เสียประตูในช่วงก่อนจะหมดเวลาที่สนามไวท์ฮาร์ทเลนว่า “เขาต้องเรียนจากวิธีที่ยากลำบากและในสภาพวะที่ไม่สามารถให้อภัยได้ เขาจำเป็นจะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดกว่านี้ แม้ว่าเขาจะสามารถช่วยทีมไว้ได้จากการป้องกันที่ยอดเยี่ยมสองหรือสามครั้ง แต่น่าเสียดายที่มันเปล่าประโยชน์ เมื่อวานเขาทำผลงานได้ดีแค่ 92 นาทีครึ่งหลังจากนั้นมันเป็นปัญหาของทีมอย่างเห็นได้ชัด” แต่ทางเซอร์อเล็กซ์ออกมาสนับสนุนดาบิด เด เคอา ว่าการวิจารณ์แบบนั้นมันช่างดูโง่เง่าไปหน่อย วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013 ดาบิด เด เคอา ได้ช่วยยูไนเต็ดไม่ให้แพ้รีลมาดริดในสนามซานติอาโก้ เบอนาบิว หลังผลจบลงที่การเสมอกัน 1-1 ในนัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก และเขาได้รับการยกย่องจากเซอร์อเล็กซ์ว่าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสิ่งหนึ่งที่มักจะถูกกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของดาบิด เด เคอา คือการทำให้เขาเปลี่ยนจาก “วายร้ายมาเป็นฮีโร่” ซึ่งมันทำให้เขาเติบโตขึ้น
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ดาบิด เด เคอา ทำสถิติคลีนชีตติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในทีมแมนยูจากการหยุดลูกยิงของโลอค เรมี่ และลูกโหม่งของคริสโตเฟอร์ แซมบ้า ช่วยให้ยูไนเต็ดเอาชนะไป 2-0 ในนัดที่พบกับควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ ตามมาด้วยการเอาชนะนอร์ริช ซิตี้ไป 4-0 ในวันที่ 2 มีนาคม เขายังทำคลีนชีตได้ต่อเนื่องในนัดที่พบกับเรดดิ้งและเอาชนะไปได้ 1-0 โดยในเกมส์ที่ยูไนเต็ดพบกับเวสต์แฮมในจังหวะที่ดาบิด เด เคอา ถูกกระแทกโดยแอนดี้ แคร์โรว์ ทำให้เขาตกลงมาที่พื้นอย่างจังจากแรงปะทะ ซึ่งทางเฟอร์กูสันไม่อยากจะเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ทางแคร์โรว์ไม่ได้รับใบแดง
ฟอร์มการเล่นของดาบิด เด เคอา ตลอดฤดูกาลเป็นที่ยอมรับภายในทีม ท้ายที่สุดเขาได้รับคะแนนเสียงให้ติดทีมของ PFA เขาจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกกับสโมสรด้วยการลงสนามไป 28 นัดเก็บคลีนชีตไปได้ 1 เกมส์ ซึ่งนำห่างทีมในตารางถึง 11 แต้มและเขามีลุ้นในการรับรางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีก
ดาบิด เด เคอา เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยการทำคลีนชีตในนัดที่เอาชนะวีแกน แอธเลติกไปได้ 2-0 ในรายการคอมมูนิตี้ ชิลด์ที่สนามเวมบลีย์ วันที่ 5 ตุลาคม 2013 ดาบิด เด เคอา ป้องกันลูกยิงของมานูเอล เจียกเชอรินี่และเอาชนะไปได้ 2-1 ซึ่งมีคำอธิบายจากอดีตผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดอย่างปีเตอร์ ชไมเคิ่ลว่าเป็นหนึ่งในการป้องกันประตูที่ดีที่สุดที่ไม่เคยได้เห็นมานานในพรีเมียร์ลีก ทางฝั่งผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเดวิด มอยส์เห็นด้วยกับชไมเคิ่ลและยังเสริมด้วยว่าการป้องกันลูกนั้นเป็นจุดเปลี่ยนในเกมส์จากที่ทีมของเราตามหลังหนึ่งประตูในเวลานั้น และกล่าวถึงดาบิด เด เคอา ว่าเขากำลังปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
วันที่ 1 ธันวาคม ดาบิด เด เคอา ลงสนามเป็นนัดที่ 100 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเสมอกันไปกับสเปอร์ 2-2 เขาได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมอย่างดาร์เร็น เฟล็ทเชอร์ในลีกคัพรอบรองชนะเลิศนัดที่สองที่พบกับซันเดอร์แลนด์เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2014 ดาบิด เด เคอา ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุที่นำปู่การเสียประตูจากการปล่อยให้ฟิลด์ บาร์สลี่ย์ยิงในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซจะยิงประตูช่วยให้ผลรวมประตูเสมอกันที่ 3-3 ในช่วงของการดวลจุดโทษนั้นดาบิด เด เคอา สามารถป้องกันลูกยิงของสตีเว่น เฟล็ทเชอร์และอดัม จอห์นสันไว้ได้แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้แมนฯยูผ่านเข้ารอบตอ่ไปหลังจากแพ้ 2-1
วันที่ 19 มีนาคม ในช่วงที่แข่งกับทีมโอลิมเปียกอสในรอบน็อคเอาท์รายการยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ซึ่งทางยูไนเต็ดขึ้นนำไป 2-0 และเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2 ดาบิด เด เคอา ได้ป้องกันสองลูกยิงสำคัญในเกมส์ไว้ได้ในช่วงก่อนหมดเวลาในครึ่งแรก ด้วยการทำลายกฏต่างๆของฟิสิกส์และสรีระวิทยาในนัดสามารถอธิบายได้สั้นว่า”ช่างงดงาม” โดยที่ฟิล โจนส์เพื่อนร่วมทีมของเขาออกมายกย่องว่า “ดาบิด เด เคอา กำลังจะเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก” ซึ่งจากการโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาลทำให้ดาบิด เด เคอา มีชื่อติดหนึ่งในผู้เล่นแห่งปีของสโมสรจากการออกเสียงของเพื่อนร่วมทีมและของแฟนบอล
ดาบิด เด เคอา ยังคงช่วยยูไนเต็ดในการป้องกันประตูอย่างต่อเนื่องซึ่งภายในทีมได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีมโดยมีหลุยส์ ฟานกัลเข้ามาทำหน้าที่แทน โดยในนัดที่เล่นในบ้านพบกับเอฟเวอร์ตันในวันที่ 5 ตุลาคม 2014 ในเกมส์นั้นดาบิด เด เคอา ป้องกันลูกยิงสำคัญไปสามลูก โดยหนึ่งนั้นคือลูกจุดโทษของเลห์ตัน เบนส์ ซึ่งช่วยให้ยูไนเต็ดเอาชนะไปได้ 2-1 เขาได้รับการโหวตให้เป็นแมนอ็อฟเดอะแมทช์ในเกมส์นั้น ซึ่งการป้องกันประตูจากจุดโทษลูกนั้นทำให้เขากลายเป็นคนแรกที่สามารถป้องกันลูกยิงจากเบนส์ได้โดยเขายิงเข้ามาแล้ว 14 ครั้ง และหลังจากที่ดาบิด เด เคอา ช่วยทีมในการเอาชนะคู่แข่งอย่างเอฟเวอร์ตัน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนและเชลซีได้ทำให้เขามีชื่อเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมภายในทีมของเดือนตุลาคม
วันที่ 14 ธันวาคม เขาได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมทช์จากการป้องกันลูกยิงไปได้ถึงแปดครั้งและการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมช่วยให้ทีมเอาชนะลิเวอร์พูลไป 3-0 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดในตำแหน่งของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้น เขาได้รับการยกย่องจากฟานกัลว่าสามารถทำหลายสิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้ในการลงเล่นแต่ละครั้ง และได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ป้องกันได้อย่างสวยงาม เนื่องจากเขาเป็นนักเตะที่ฟอร์มการเล่นคงที่ตลอดทั้งฤดูกาล และท่ามกลางข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของเขา เขาได้ออกมากล่าวว่าเขาภูมิใจที่ได้เล่นให้ยูไนเต็ดและได้รับแจ้งจากชไมเคิ่ลและเนวิลล์ให้ต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร
หลังจากจบฤดูกาล เขามีชื่อเข้าชิงในตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมและดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA ก่อนจะแพ้ให้กับเอเด็น ฮาร์ซาร์และแฮร์รี่ เคนตามลำดับ ในวันที่ 26 เมษายน 2015 ดาบิด เด เคอา มีชื่อในทีมยอดเยี่ยมแห่งปีในตำแหน่งผู้รักษาประตูและเป็นผู้เล่นเพียงหนึ่งเดียวจากฝั่งของยูไนเต็ดที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม ดาบิด เด เคอา ได้รับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรจากการลงคะแนนเสียงของเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลสองฤดูกาลติดต่อกัน โดยลูกที่สามารถป้องกันประตูได้ในนัดที่พบกับเอฟเวอร์ตันได้รับคะแนนเสียงให้เป็นลูกป้องกันยอดเยี่ยมแห่งปีในพรีเมียร์ลีกจาก Match of the Day ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันที่เขาได้รับรางวัล
ในวันที่ 7 สิงหาคม 2015 ผู้จัดการทีมของยูไนเต็ดออกมายืนยันว่าดาบิด เด เคอา จะไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมในนัดที่พบกับสเปอร์ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของตัวเขาเอง วันที่ 13 สิงหาคม ฟานกัลเปิดเผยว่าดาบิด เด เคอา ได้ร้องขอโค้ชผู้รักษาประตูอย่างฟร๊านซ์ โฮ๊กอย่าตัดชื่อเขาออกจากทีม ซึ่งทางดาบิด เด เคอา ออกมากล่าวว่าเขาไม่เคยแสดงความต้องการที่จะไม่ลงสนามให้ทีม ในภายหลังเขาได้กลับมาซ้อมกับทีมอีกครั้ง วันที่ 31 สิงหาคมก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงฤดูร้อนจะปิด ทางรีลมาดริดได้ยื่นข้อเสนอในการคว้าตัวดาบิด เด เคอา ไปร่วมทีมสูงถึง 29 ล้านปอนด์ แต่ได้เปลี่ยนเป้าหมายไปคว้าตัวเคย์เลอร์ นาวาสแทนและข้อตกลงนั้นได้ถูกยกเลิกไปเพราะเอกสารในการซื้อขายนักเตะถูกส่งไปไม่ทันก่อนช่วงปิดตลาดซื้อขายในสเปน โดยหลังจากนั้นหัวหน้าโค้ชของทีมชาติสเปนอย่างเดลบอสเก้ได้ออกมากล่าวว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่เลือกดาบิด เด เคอา มาเป็นมือหนึ่งในทีมชาติไปสู้ศึกยูดรเปี้ยนคัพหากว่ายูไนเต็ดไม่ยอมเลือกดาบิด เด เคอา ลงสนาม
วันที่ 11 กันยายน ดาบิด เด เคอา ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมเป็นระยะเวลา 4 ปี ด้วยเงื่อนไขที่สามารถขยายสัญญาออกไปได้อีกหนึ่งปี 12 วันต่อมาในลีกคัพรอบที่สาม ดาบิด เด เคอา ได้รับตำแหน่งเป็นกัปตันทีมครั้งแรกให้ยูไนเต็ด โดยเขาได้สวมปลอกแขนในช่วงเก้านาทีสุดท้ายในนัดที่เอาชนะอิปสวิทช์ทาวน์
ในช่วงเดือนเมษายนโดยในตอนนั้นดาบิด เด เคอา มีลุ้นรับรางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกด้วยการรักษาคลีนชีตได้ 14 นัด และดาบิด เด เคอายังคงเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวของยูไนเต็ดที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA วันที่ 23 เมษายน ในนัดที่เอาชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ 2-1 ในรายการเอฟเอคัพ เขาสามราถป้องกันลูกจุดโทษจากลูกากูไว้ได้
ในเดือนพฤษภาคมปี 2016 ดาบิด เด เคอา เป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของยูไนเต็ดสามสมัยติด และช่วงเดือนเดียวกันเขาได้รับรางวัลจาก BBC Match of the Day จากการป้องกันประตูแห่งปีสามสมัยติดอีกด้วย โดยเป็นการป้องกันลูกยิงจากทีมวัตฟอร์ดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะบอร์นมัธไปได้ 3-1 แต่ดาบิด เด เคอา หมดสิทธิ์รับรางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกจากที่สูสีกันกับปีเตอร์ เช็ค ผู้รักษาประตูของอาเซน่อล จากการที่คริส สมอลลิ่งทำเข้าประตูตัวเองในช่วงทดเววลา
ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างโจเซ่ มูรินโญ่ ดาบิด เด เคอา ได้ลงสนามนัดแรกในฤดูกาลเป็นการเอาชนะเลสเตอร์ไป 2-1 ในเกมส์ เอฟเอคอมมูนิตี้ชิลด์ ซึ่งเลสเตอร์ซิตี้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่แล้ว
วันที่ 20 เมษายน 2017 ดาบิด เด เคอา ได้รับเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA เป็นครั้งที่สี่
วันที่ 17 กันยายน 2017 ซึ่งเป็นนัดที่ห้าของพรีเมียร์ลีกที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องพบกับเอฟเวอร์ตัน ดาบิด เด เคอา สามารถรักษาคลีนชีตครั้งที่สี่ในฤดูกาลและเป็นครั้งที่ 100 ของสโมสร
วันที่ 2 ธันวาคม 2017 นัดที่ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะอาเซน่อลไปได้ 3-1 ดาบิด เด เคอา ทำสถิติในการป้องกันประตูไปถึง 14 ครั้งเทียบเท่ากับทิม ครูว์ และวิโต้ มาโนเน่ ซึ่งเป็นสถิติในการป้องกันประตูจำนวนมากในหนึ่งนัดทำให้เขาดีรับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมทช์ในนัดนั้น
วันที่ 18 เมษายน 2018 ดาบิด เด เคอา ได้มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA อีกครั้งในตำแหน่งผู้รักษาประตูและยังเป็นหนึ่งเดียวที่มีชื่อจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันที่ 11 พฤษภาคม 2018 หลังจากเสมอกับเวสต์แฮมไป 0-0 ดาบิด เด เคอา ได้รักษาคลีนชีตเป็นครั้งที่ 18 ในฤดูกาลและได้รับรางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมยูไนเต็ดในปี 2011
ในนัดที่เอาชนะสเปอร์ไปได้ 1-0 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2019 ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงป้องกันประตูไปถึง 11 ครั้งในนัดนั้น
ในปี 2007 ดาบิด เด เคอา สามารถช่วยพาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยุโรปในรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี และยังคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นเยาวชนในปีเดียวกัน โดยช่วงต้นเดือนพฤษภาคมปี 2010 จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกับแอตเลติโก้ มาดริด ทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ของบิเซนเต้ เดลบอสเก้ในรอบคัดตัว 30 คนเพื่อไปแข่งในฟุตบอลโลกปี 2010 แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ผ่านการตัดตัวรอบสุดท้าย ในปี 2011 ดาบิด เด เคอา เป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติสเปนชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ในการคว้าแชมป์ยุโรป
วันที่ 15 พฤษภาคม 2012 ดาบิด เด เคอา มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่สองนัดในนัดที่พบกับทีมชาติเซอร์เบียและทีมชาติจีนซึ่งเขายังได้รับโอกาสจากเดลบอสเก้ แต่ก็ยังไม่สามารถยืนหยัดในทีมชาติชุดใหญ่ได้ในรายการยูโร 2012 และในรายการโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2012 เขาได้รับโอกาสลงสนามสามนัดแต่น่าเสียดายที่สเปนต้องตกรอบตั้งแต่รอบคัดเลือก โดยดาบิด เด เคอา พาทีมชาติสเปนรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี คว้าแชมป์ยูโรได้อีกครั้งในปี 2013
ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2014 ได้รับเลือกให้ติดทีมในการคัดตัว 30 คนในบอลโลกปี 2014 และมีชื่อในผู้เล่นที่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย เขาลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่อย่างเต็มตัวนัดแรกพบกับเอลซัลวาดอร์ในการอุ่นเครื่องและชนะไป 2-0 ในวันที่ 8 มิถุนายน โดยลงไปแทนคาซิยาสช่วงเจ็ดนาทีสุดท้ายที่สนามเฟ็ดเอ็กซ์ฟิลด์ในวอชิงตันดีซี โดยดาบิด เด เคอา เป็นมือสามในทีมชาติรองจากคาซิญาสและเปเป้ เรน่า ซึ่งดาบิด เด เคอา เป็นนักเตะเพียงคนเดียวในทีมชาติที่ไม่ได้ลงสนามเลยซักนัดในฟุตบอลโลกจากการที่สเปนต้องตกรอบตั้งแต่รอบคัดเลือก วันที่ 4 กันยายน 2014 เขาได้รับโอกาสลงเล่นเต็มเวลา 90 นาทีเป็นครั้งแรกในนัดกระชับมิตรกับทีมชาติฝรั่งเศส แต่ต้องแพ้ไป 1-0 จากลูยิงของโลอิค เรมี่ ต่อมาในนัดที่สเปนสามราถเอาชนะทีมชาติลักเซมเบิร์กไปได้ 4-0 ดาบิด เด เคอาได้โอกาสลงสนามและรักษาคลีนชีตไว้ได้ในรายการยูโร 2016 รอบคัดเลือก
ดาบิด เด เคอา ได้รับคำแนะนำมากมายจากคาซิยาสผู้ที่เป็นนายประตูมือหนึ่งของทีมชาติสเปนมาอย่างยาวนาน โดยเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2016 เขามีชื่อติดหนึ่งใน 23 คนของเดลบอสเก้ในรายการยูโร 2016 ในนัดแรกที่สเปนพบกับสาธารณรัฐเช็คและเอาชนะไปได้ 1-0 เขาสามารถรักษาคลีนชีตไว้ได้ ต่อมานัดที่พบกับตุรกีสเปนยังเอาชนะตุรกีไปได้ 3-0 ดาบิด เด เคอา ยังคงรักษาคลีนชีตได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในนัดต่อมาสเปนต้องแพ้ให้กับโครเอเชียไป 2-1 ซึ่งในภายหลังสเปนต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในการแพ้ให้กับอิตาลีไป 2-0 ในวันที่ 27 มิถุนายน
ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2018 ดาบิด เด เคอา มีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งในนัดแรกเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ดาบิด เด เคอา พลาดท่าทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นของโปรตุเกสก่อนที่จะเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะเป็นผู้สังหารจุดโทษในลูกที่สองของโปรตุเกส โดยในนัดนั้นโรนัลโด้ทำแฮตทริคได้โดยประตูแรกมาจากจุดโทษ ซึ่งจบเกมส์เสมอกันไป 3-3 ในนัดที่สองที่พบกับทีมชาติอิหร่าน ดาบิด เด เคอา รักษาคลีนชีตได้ซึ่งสเปนเอาชนะไป 1-0 ซึ่งในนัดสุดท้ายนั้นทั้งทีมชาตสแปนและดาบิด เด เคอา ต้องพยายามดิ้นรนอย่างมากในการพาทีมเข้ารอบซึ่งจะต้องพบกับโมร็อคโค เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ผลจบลงด้วยการเสมอกันไป 2-2 จากฟอร์มการเล่นของเขาที่ไม่คงที่ในทีมชาติทำให้เขาถูกวิจารณ์จากสื่ออยู่บ่อยครั้งโดยมีผู้สังเกตุเห็นว่าดาบิด เด เคอา ป้องกันประตูได้เพียงลูกเดียว วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นนัดที่สเปนต้องพบกับรัสเซีย ในนัดนี้ดาบิด เด เคอา ได้พลาดในการป้องกันจากการดวลจุดโทษและสเปนต้องแพ้ไป 4-3 จากการเสมอกันในเวลาและช่วงต่อเวลาพิเศษที่ 1-1 จากการเสียลูกจุดโทษและเป็นอาร์เต็ม ซูบ้ายิงเข้าไป หลังจากจบฟุตบอลโลก เดเกเสียไปถึงหกประตูจากการยิงเข้ากรอบเจ็ดครั้ง ซึ่งไม่รวมในการดวลจุดโทษอีกสี่ประตูและป้องกันได้เพียงครั้งเดียว ซึ่งเขาป้องกันประตูได้น้องกว่าคนอื่นๆที่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งดาบิด เด เคอา ได้วิพากษ์วิจารณ์ลูกบอลของอาดิดาสรุ่นเทลสตาร์ 18 ที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ว่ามันค่อนข้างจะแปลกๆและอ้างว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่านี้มาก
ดาบิด เด เคอา เป็นผู้เล่นที่มีความสามารถสูงและมีแนวโน้มจะติดระดับโลกตั้งแต่เยาวชน และเขาก็ทำได้สำเร็จในการขึ้นมาติดอันดับในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ผู้คนต่างพากันยกย่องว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านความสง่างามและความแรง ยิ่งทำให้ดาบิด เด เคอา มีชื่อเสียงในด้านปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีเลิศ รวมไปถึงความคล่องแคล่วว่องไวในการป้องกันลูกยิงได้จากหลายๆตำแหน่งซึ่งเป็นความสามารถที่โดดเด่นของเขาเช่นเดียวกับการใช้เท้าของเขาในการป้องกันประตูอยู่บ่อยครั้ง
จากตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วยกันอย่างเชย์ กิฟเว่น ได้ออกมายกย่องดาบิด เด เคอา ว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ป้องกันได้ดีที่สุดในโลกของปี 2018 ซึ่งเขายืนหยัดด้วยความมั่นคง ไม่ประหม่าในเกมส์ที่ลงเล่น รวมไปถึงความเป็นผู้นำและการยืนตำแหน่งได้ถูกที่ถูกเวลา แต่ในความอมบางของเขาทำให้เขาต้องออกแรงพยายามจากการป้องกันลูกกลางอากาศ ซึ่งเห็นได้บ่อยครั้งที่เขาเลือกชกบอลทิ้งมากกว่าจะรับไว้ติดมือ แต่เขาก็แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงลูกกลางอากาศเช่นการพยายามใช้มือเล่น การออกคำสั่งต่อเพื่อนร่วมทีมในพื้นที่ของเขา การตัดสินและการออกมาตัดบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการที่เขาพัฒนาร่างกายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเขามากขึ้น นอกจากนี้ดาบิด เด เคอา ได้รับการชื่นชมในเรื่องของความเร็ว โดยสามารถวิ่งออกจากเส้นในกรณีเจอกับคู่แข่งฝั่งตรงข้ามเพื่อตัดจังหวะการเล่น ซึ่งเขาสามารถตัดบอลจากนอกกรอบเขตโทษได้บ่อยครั้ง นอกเหนือจากความสามารถในการป้องกันประตูแล้ว เขายังเป็นผู้ควบคุมลูกบอลได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงวิสัยทัศน์และการเล่นบอลได้ทั้งสองเท้าของเขา ทำให้เขาสามารถวางบอลจากแดนหลังได้อย่างแม่นยำ
ในเดือนมกราคม 2012 ดาบิด เด เคอา ได้รับการยืนยันว่าเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางสายตา คือเป็นคนสายตายาว แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเล่นของเขา ดาบิด เด เคอาเป็นคนที่ชอบฟังดนตรีแนวเฮฟวี่เมทัล ซึ่งหนึ่งในวงโปรดของเขาคือ Avenged Sevenfold และแฟนสาวของดาบิด เด เคอา เป็นนักร้องชาวสเปนชื่อ Edurne
