ดีโอโก้ โจต้า ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งทัพ หมาป่า

โจต้า ได้เปิดเผยความรัก

ดีโอโก้ โจต้า มิดฟิลด์ตัวริมเส้นของ วูล์ฟแฮมป์ตัน สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีความเชื่อมั่น อย่างเต็มเปี่ยมว่า พลพรรค “หมาป่า” สามารถประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลุ้นคว้าถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ

หากลูกทีมของ นูโน เอสปิริโต้ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส คว้าแชม์ฟุตบอลถ้วยเมืองผู้ดีได้ จะนับเป็นรางวัลใหญ่ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ครั้งแรกของสโมสรตั้งแต่ปี 1980 เลยทีเดียว

“ผมเคยได้รับถ้วยรางวัลแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอฟซี ปอร์โต้ 3 สมัย และผมเป็นคนยิงจุดโทษพาทีมคว้าแชมป์” โจต้า กำลังพูดถึงเกมผู้จัดการทีมฟุตบอล หรือ Football Manager ในคอมพิวเตอร์ ที่เขาเล่นด้วยความทุ่มเทเช่นเดียวกับเมื่อเขาสวมรองเท้าสตั๊ดลงสนาม

กองกลางทีมชาติโปรตุเกส กล่าวอย่างภาคภูมิใจต่อว่า “ผมชนะแชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2031 เมื่อใดก็ตามที่ผมเดินทาง ผมก็จะเล่นเกมตลอด ไม่ว่าจะเป็นบนเครื่องบิน หรือรถไฟ ผมไม่รู้ว่าตัวเองใช้เวลากี่ชั่วโมง และผมก็ไม่อยากรู้!”

โจต้า ได้เปิดเผยความรักที่เป็นความลับของเขาหลังจากคำถามที่มักจะตอบด้วยการยืนยันอย่างกะล่อน เขาและเพื่อน รูเบน เนเวส กองกลางทมีชาติโปรตุเกส จะอยู่ที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน หรือไม่หากทีมใหญ่ติดต่อเข้ามา คำตอบของเขานั้นผิดปกติ และแสดงความคิดถึงอนาคต

ปีกวัย 21 กล่าวว่า “ผมชอบเล่น Football Manager และผมชอบที่จะเริ่มต้นในทีมที่ต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น เกมนี้ผมเริ่มต้นด้วยสโมสรแห่งแรกของผม ที่ผมอยู่ในโรงเรียนฟุตบอล Gondomar และผมชอบที่จะไปพาทีมไปถึงระดับสูง”

“แน่นอนคุณต้องรักษาผู้เล่นคนสำคัญเสมอจากฤดูกาลหนึ่งไปยังอีกฤดูกาลหนึ่ง คุณต้องมีตัวตนในสนาม นั่นคือสิ่งที่สโมสรเป็น คุณไม่สามารถสร้างทีมจากศูนย์ทุกฤดูกาลได้” โจต้า กล่าว

ดูเหมือนว่า ดนตรีกับหูของแฟนๆ ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน และมันก็ดังจริงสำหรับทุกสิ่งที่ เอสปิริโต้ ถ่ายทอด เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ได้สร้าง “หมาป่า” อย่างรอบคอบ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการในช่วงฤดูร้อนปี 2560 และเมื่อ โจต้า เข้าร่วมทีมในการยืมตัวเป็นครั้งแรก

โจต้า มีประสบการณ์มากมายในโปรตุเกส กับ ปอร์โต้ และเคยลงเล่นในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว อย่างไรก็ตาม การย้ายมาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายๆคน โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัวตัวเอง

ปีกเลือดฝอยทอง กล่าวว่า “ลุงของผม ริคาร์โด้ พยายามที่จะพูดว่า “ทำไมคุณถึงทำเช่นนี้” หลายคนในโปรตุเกสวิพากษ์วิจารณ์ผมเรื่องการย้ายมาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน พวกเขากำลังพูดว่า “คุณกำลังจะย้ายจากสโมสรแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปยังลีกล่างในประเทศอื่น คุณบ้าเหรอ?”

“ผมพูดว่า “ไม่ ผมเชื่อในโครงการแล้ว ถ้าทุกอย่างไปได้ดีอย่างที่ผมคาดไว้ฤดูกาลหน้าคุณจะมีเหตุผล” โชคดีที่เราอยู่ที่นี่ตอนนี้ และทุกคนเข้าใจ นั่นรวมถึงลุงของผม ริคาร์โด้ ที่จะอยู่ในสนามโมลินิวกราวด์ ในเกมเอฟเอ คัพ วันเสาร์ รอบก่อนรองชนะเลิศกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” โจต้า กล่าว

โจอาคิน พ่อของ โจต้า ก็จะอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน และมีความเชื่อเพิ่มขึ้นที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ว่าสโมสรสามารถจบฤดูกาลนี้ด้วยถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้แชมป์ลีก คัพ ปี 1980 เห็นได้ชัดว่า ยูไนเต็ด มีข้อเสนอที่แตกต่างกันภายใต้กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

เมื่อเดือน ก.ย.ปีก่อน วูล์ฟแฮมป์ตัน สามารถบุกไปยันเสมอ แมนฯยูไนเต็ด 1-1 ถึงสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้พวกเขากลัว นอกจากนี้ พลพรรค “หมาป่า” ยังเขี่ย ลิเวอร์พูล ตกรอบ 3 ศึกเอฟเอ คัพ มาก่อนหน้านี้แล้ว

ดีโอโก้ โจต้า ดาวรุ่งพุ่งแรง

โจต้า ผู้เซ็นสัญญาอย่างถาวรในราคา 13 ล้านปอนด์ กับ “หมาป่า” เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว กล่าวต่อว่า “หนึ่งในเหตุผลที่ผมมาที่นี่คือเล่นในนัดสำคัญกับทีมอย่าง ยูไนเต็ด เรารู้ว่าเราสามารถชนะเกมนี้ได้ แต่เราก็รู้ว่าเราจะต้องทำให้ดีที่สุด”

ปีกโปรตุกีส อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอนภายใต้การคุมทัพของ เอสปิริโต้ และการเล่นในระบบกองหน้า 2 คนนั้น เป็นประโยชน์ต่อ โจต้า ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจที่ยอดเยี่ยมกับ ราอูล ฆิมิเนส หัวหอกทีมชาติเม็กซิโก ทั้งคู่เล่นร่วมกันอย่างน่าอัศจรรย์ที่ในเกมที่บุกไปเสมอ เชลซี 1-1 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ และทำสองประตูกับ คาร์ดิฟฟ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หลังจากการเริ่มต้นฤดูกาลอย่างช้าๆ โจต้า ซัดไปแล้ว 6 ลูก ใน 13 เกมล่าสุด รวมไปถึงการทำ แฮตทริก ในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของผู้เล่นชาวโปรตุเกส นับตั้งแต่ยุคของ คริสเตียโน โรนัลโด้ อดีตปีก แมนฯยูไนเต็ด

โจต้า กล่าวว่า “โรนัลโด้ เป็นข้อมูลอ้างอิงไม่เพียงแต่สำหรับผมเท่านั้น แต่สำหรับทุกคน เพราะเขาเป็นเครื่องหมายแห่งการทำประตู”

ปีก วูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นคนละมิติกับ โรนัลโด้ เขาตัวเล็กกว่า อดีตปีก “ปีศาจแดง” แต่มีความเร็ว เทคนิคการครองบอล และมีความแข็งแกร่งที่ซ่อนเร้นภายในตัว เห็นได้จากการที่เขาทักกระชากบอลผ่านกองหลังต่อสู้ไปอย่างง่ายดาย

โจต้า กล่าว่า “ผมเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในสนามเสมอ และนั่นไม่เคยส่งผลกระทบใดๆ ต่อผมเลย ผมจะหาวิธีอื่นๆในการผ่านคู่ต่อสู้ ทีมแพทย์เคยบอกว่า ให้ผมทำน้ำหนักขึ้นมาอีก ผมพูดว่า “ไม่ได้ครับ มันอยู่ใน DNA ของผม ผมแย่ที่สุดในการยกที่ยิม ผมพยายามทำให้ดีที่สุด และตอนนี้ผู้เล่นคนอื่นก็ตระหนักว่า ผมไม่ใช่จะทำมันง่ายๆ”

ตัวรุก “หมาป่า” เป็นนักฟุตบอลที่หลงใหลในการดูเกมลูกหนัง เขานั่งดูมันมากมายที่บ้าน เพราะเปรียบเหมือนหนังสือที่เราสามารถอ่านได้ทุกวัน และกำลังจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่นศึกแชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง “เจ้าม้าลาย” ยูเวนตุส กับ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด

โจต้า คอยจับตาดู แอตเลติโก้ ทีมเก่าของเขาด้วยเสมอ เขาไม่เคยลงสนามภายใต้การคุมทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือชาวอาร์เจนตินา เลยแม้แต่นัดเดียว ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ลำบากที่สุดระหว่างที่เขาค้าแข้งอยู่กับทัพ “ตราหมี”

โจต้า กล่าวว่า “คุณตื่นนอนเวลา 7 โมงเช้าเพื่อทานอาหารเช้ามื้อเล็กๆ จากนั้นไปสนามกอล์ฟที่วิ่งขึ้น และลงเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่มีใครกำลังเล่นกอล์ฟหรอกนะ! ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชา คุณมีนาฬิกาที่ส่งเสียงบี๊บ และคุณต้องไปถึงจุดที่แน่นอน บางครั้งมีการช้าบ้างและอื่น ๆ เวลาธรรมดา ดังนั้นเราต้องวิ่งวิ่งวิ่งวิ่ง”

“คุณมีอาหารเช้าที่เหมาะสมแล้ว คุณไปที่โรงยิมทำ 20 สถานี อาหารกลางวัน การฝึกอบรมอยู่ในช่วงบ่าย ทำการสัมผัสยุทธวิธี และไปฝึกซ้อม แต่ในตำแหน่งของคุณ ดังนั้น ถ้าคุณเล่นเป็นกองกลางด้านซ้าย คุณต้องไปที่นั่นเพื่อปิดช่องว่าง จากนั้นกลับมาหยุดการโจมตีใน 10 วินาที”

“ผมเป็นชายคนหนึ่งที่เหนื่อยล้ามากในการฝึกซ้อมครั้งแรก มันจะเกิดขึ้นถ้าคุณยังไม่พร้อม กลยุทธ์ของ ซิเมโอเน่ นั้น ได้ถูกนำมาใช้ในการเน้นเกมรับเพื่อรักษาคลีนชีต แน่นอนคุณไม่ชอบวิธีที่พวกเขาเล่น แต่ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้น พวกเขาทำได้ดีมาก” อดีตกองกลาง แอตเลติโก้ กล่าว

โจต้า ยังอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น และกำลังรอตำแหน่งในทีมชุดแรกของทีมชาติโปรตุเกส แต่ไม่ปฏิเสธคำถามว่า วันหนึ่งเขาอยากเป็นผู้จัดการทีมด้วยตัวเองหรือไม่

“ผมคุยเรื่องนั้นกับ รูเบน แล้ว เพราะเขาต้องการเป็นโค้ชเหมือนกัน ผมไม่เห็นตัวเองเป็นโค้ชหลัก แต่อาจเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมก็เป็นได้” ดาวเตะหมาป่า” กล่าวทิ้งท้าย

ปีก วูล์ฟแฮมป์ตัน

เนื้อหาใกล้เคียง