ทำไมฟอร์มสากของ ลูกากู ในหลุมผีไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

ผลงานของ ลูกากู หลังจากย้ายมาอยู่ผีแดง

มีหลากหลายความคิดเห็นและทฤษฎีที่อธิบายถึงสาเหตุที่ โรเมลู ลูกากู โชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายในฤดูกาลปัจจุบัน แต่หากลองมองข้ามหลักการต่างๆที่ผู้คนกำลังพยายามถกเถียงกันในประเด็นนี้ออกไป บางทีความจริงทั้งหมดอาจมีเพียงแค่เขากำลังทำผลงานได้ตามมาตรฐานที่เป็นมาก็เท่านั้น หรือบางทีมันอาจเป็นเพียงเพราะ โซเซ่ มูรินโญ่ และ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหารของ ปีศาจแดง ที่ดันเห็นพ้องต้องกันในเรื่องที่ยอมหน้ามืดควักกระเป๋าเป็นมูลค่าที่พุ่งขึ้นสูงถึง 90 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไขที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 เพื่อแลกกับนักเตะที่พวกเขาต้องการจริงๆ? แม้จะยากกับการปฏิเสธว่า ลูกากู คือดาวยิง ตัวเลข 31 ประตูจาก 64 เกมกับ ยูไนเต็ด บ่งบอกความเป็นตัวเขาได้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาก็คือฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาของเขาที่จู่ๆก็พร้อมจะหายไปจากเกมดื้อๆแบบหลายๆนัดติดต่อกัน อย่างที่เขากำลังประสบปัญหาอยู่ในเวลานี้

หัวหอกวัย 25 ปี กำลังเตรียมตัวที่จะออกสตาร์ทในการเผชิญหน้ากับ เอฟเวอร์ตัน ต้นสังกัดเก่าในเกมวันอาทิตย์นี้ หลังอยู่ในสภาวะปืนฝืดจากการยิงประตูให้ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลยตลอด 8 นัดหลังสุดที่ผ่านมา โดยประตูสุดท้ายที่เขาทำได้ต้องย้อนกลับไปยังชัยชนะ 2-1 เหนือ วัตฟอร์ด เมื่อวันที่ 15 กันยายน และจากระยะเวลาที่เนิ่นนานกว่า 1 เดือนมานี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เขาจะถูกโจมตีจากรอบๆด้าน บางคนเชื่อว่า ผลงานที่ดร็อปลงไปของ ลูกากู มีสาเหตุจากความทุ่มเทของเขาที่ไม่มากพอ แต่ พอล สโคลส์ ตำนานแข้งปีศาจแดง กลับเห็นต่างและหยอดทัศนะไว้กับสำนักข่าว อีเอสพีเอ็น ว่า คุณภาพในการเล่นนอกกรอบเขตโทษของ ลูกากู ต่างหากที่ยังไม่ดีพอ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความขยันของเขา ในขณะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตยอดกองหลังของ ยูไนเต็ด ก็ชี้ให้เห็นถึงจุดบอดของ ลูกากู ว่า เขาเป็นคนที่เล่นได้แค่มิติเดียวเท่านั้น และควรจะทำอะไรให้ได้มากกว่านี้ “การครองบอลและการสัมผัสบอล คือสิ่งที่ดึงฝั่งตรงข้ามเข้ามาหาคุณ และการวิ่งของคุณจะช่วยเปิดช่องว่างให้กับคนอื่น มันคือเรื่องของความฉลาดในเกม”

คำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมือน ไม้ตีเทนนิส

นอกจากนี้ ลูกากู ยังเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องความถึกบึกบึนและร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่มากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อน้ำหนักตัวและทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ว่องไวตามที่ต้องการ ในขณะที่การสัมผัสบอลแรกของเขาก็กลายเป็นเรื่องตลกขบขันไปทั่วทั้ง โซเชี่ยล มีเดีย โดยที่มีแฟนบอลคนหนึ่งล้อเลียนเรื่องเท้าของเขาไว้ว่า “เหมือนกับไม้ตีเทนนิส”

อดีตกองหลังในพรีเมียร์ลีกคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยม ไว้ว่า เขาจะทำตัว”ขี้เกียจ”ในยามที่ฟอร์มของตนเองเริ่มดร็อปลง และสิ่งเดียวที่ชวนให้ท้าทายในการเผชิญหน้ากับเขาก็คือการหาทางรับมือกับสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาเท่านั้น อย่างในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปราการหลังของ ยูเวนตุส ก็อาจประสบปัญหาเล็กน้อยในการรับมือกับศูนย์หน้าหมายเลข 9 ของ ปีศาจแดง จากการเผชิญหน้ากันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หากแต่ผลงานโดยรวมของ ลูกากู ที่ออกทะเลไปไกล ก็ทำให้ มูรินโญ่ ถึงกับออกมายอมรับหลังการพ่ายแพ้ 1-0 คาบ้านว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพและต้องการจะมอบทุกสิ่งอย่างให้กับทีม หากแต่ผมก็เห็นด้วยว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีเอาซะเลยสำหรับเขา”

ยังมีแหล่งข่าวรอบๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ระบุว่า ลูกากู กลายเป็นคนที่เก็บตัวมากขึ้นในฤดูกาลนี้ รวมถึงความมั่นใจที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยรุ่งเรืองกับ เอฟเวอร์ตัน ก็เริ่มถดถอยลงทุกที แต่ทางฝั่งคนที่เคยร่วมงานกับเขาในถิ่น กูดิสัน พาร์ค กลับมองว่าฟอร์มการเล่นที่ดูเหมือนขึ้นๆลงๆของเขากับ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเมื่อตอนที่เขายังอยู่กับ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เพียงแต่การลงเล่นอยู่ในรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทุกๆรายละเอียดจะกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนได้มากกว่าก็เท่านั้น เมื่อสมัยที่ยังค้าแข้งอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งนอกเหนือจากฤดูกาลสุดท้ายที่มีระยะเวลาคลำเป้าไม่เจอติดต่อกันนานที่สุดเพียงแค่ 4 เกม โดยปกติแล้ว ลูกากู ก็จะมีช่วงเวลายาวๆที่เขาจะถูกวิญญาณของสากกระเบือเข้าสิง

ในซีซั่น 2013-14 เขาเคยทำได้แค่ประตูเดียวจากการลงสนาม 10 นัดระหว่างฤดูกาล หรือแม้แต่ในซีซั่นถัดมา เขาก็เคยทำประตูไม่ได้ติดต่อกันนาน 6 นัด และยิงได้เพียงแค่ 4 ประตูไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และระหว่างฤดูกาล 2015-16 ลูกากู ลงสนามไป 9 เกมโดยที่ยิงไม่ได้เลยซักลูกและจบโควตาการทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่เมื่อถึงคราวที่เขาตัดสินใจแยกทางกับ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เขากลับมีตัวเลือกมารออยู่ถึง 2 ทาง ในการย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี ต้นสังกัดเก่า เนื่องจากสถิติ 68 ประตูจาการลงสนาม 147 เกมใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งก็ดูดีไม่น้อยเมื่อคิดออกมาเป็นค่าเฉลี่ยที่ 2.15 นัดต่อประตู

ทำไมฟอร์มสากของ ลูกากู ในหลุมผีไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

ผลงานของ ลูกากู หลังจากย้ายมาอยู่ผีแดง

อันที่จริงภายหลังการย้ายมาอยู่กับ ยูไนเต็ด เขาก็ยังทำผลงานได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่เคยทำไว้กับต้นสังกัดเก่าด้วยค่าเฉลี่ย 2.07 เกมต่อประตู หากแต่การเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในแดนหน้าที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คุณก็จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับสุดยอดดาวยิงในอดีตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะด้วยตัวเลข 2.07 ของเขาไม่ได้ถือว่าน่าประทับใจซักเท่าไร เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ รุด ฟาน นิสเตลรอย (1.58) และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (1.79) แต่อย่างน้อยก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่ด้อยไปกว่า เวย์น รูนี่ย์ (2.15) และ แอนดี้ โคล (2.10) และตามหลัง ดไวท์ ยอร์ค (2.00) อยู่ไม่ไกลนัก

หากพิจารณาตามนี้แล้วก็อาจคลายความสงสัยในตัวเขาออกไป แต่หากเมื่อไรก็ตามที่ อเล็กซิส ซานเชซ กลับมาฟิตสมบูรณ์และเริ่มเรียกฟอร์มเก่าๆกลับมาได้ ก็น่าจะช่วยเพิ่มความกดดันให้กับ ลูกากู ในการพยายามรักษาฟอร์มของตนให้ดีกว่านี้ และยังช่วยเปิดโอกาสให้ มูรินโญ่ สามารถสลับสับเปลี่ยนให้เขาได้มีโอกาสพักบ้างหลังจากที่มีส่วนช่วยให้ เบลเยี่ยม ไปได้ไกลจนถึงรอบรองชนะเลิศในศึก ฟุตบอลโลก ที่ผ่านมา

ล่าสุดความผิดหวังของเขาก็เริ่มแสดงออกมาให้เห็นเด่นชัด จากภาษากายที่ไม่อาจซุกซ่อนเอาไว้ได้อีกเวลาที่อยู่ในสนาม รวมถึงการที่เจ้าตัวเริ่มออกมาระบายความรู้สึกข้างในกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า “ทุกคนจำเป็นจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวผมบ้าง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของผม” แต่ก็อย่างที่ สโคลส์ และ เฟอร์ดินานด์ ได้กล่าวเอาไว้ ลูกากู ก็ต้องพยายามที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้นด้วยการปรับปรุงเรื่องการประสานงานกับผู้อื่นในสนาม แต่ก็เป็นที่เชื่อเหลือเกินว่า สุดท้ายแล้วเขาก็จะสามารถผ่านพ้นจากช่วงเวลาฝืดๆและกลับมาทำประตูเป็นกอบเป็นกำได้อีกครั้ง และมันก็เป็นเรื่องยากเช่นกันที่จะจินตนาการว่าปัญหาเดิมๆจะไม่วนกลับมาเกิดซ้ำขึ้นอีกในวันข้างหน้า หาก แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าใจดีว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของ ลูกากู ผู้ที่มีทั้งช่วงเวลาร้อนแรงและเย็นชืดอย่างนี้เสมอไป ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการอดทนรอคอยให้เขากลับมาเข้าฝักอีกครั้ง หรือในฐานะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมกระเป๋าหนักก็แค่เริ่มต้นมองหาใครซักคนมาเพิ่มในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวที่จะถึงนี้

คำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมือน ไม้ตีเทนนิส

เนื้อหาใกล้เคียง