“ความสำเร็จที่ทำได้กับ เชลซี ไม่สามารถปกป้องผมจากการถูกไล่ออกได้” เป็นคำพูดของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตำนานกองกลางของทีมและทำหน้าที่ผู้จัดการทีมในปัจจุบัน แต่กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากในเวลานี้ เมื่อทีมชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้นจากการลงสนาม 6 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก โดยเกมล่าสุดก็เพิ่งถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะได้ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสกอร์ 3-1
แลมพาร์ดรู้ตัวดีว่าสถานะตำนานของทีมไม่ได้การันตีตำแหน่งของเขาในปัจจุบันแต่อย่างใด หลังมีข่าวลืออย่างหนาหู เมื่อ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซียกำลังพิจารณาตำแหน่งนายใหญ่ของทีมในเวลานี้ หากผลงานยังย่ำแย่ต่อไป ก็คงเหลือเวลาอีกไม่นาน แม้แลมพาร์ดจะเข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 2019 และพาทีมจบในตำแหน่งท็อปโฟร์ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก แม้จะเจอกับข้อจำกัดมากมาย เมื่อไม่สามารถเซ็นสัญญานักเตะใหม่ไปร่วมทีมได้ เนื่องจากโดนโทษแบนห้ามลงทะเบียนรายชื่อนักเตะ
ทีมสนับสนุนเงินให้กับแลมพาร์ดไปมากกว่า 220 ล้านปอนด์ สำหรับการยกระดับการเล่นของทีม พร้อมกับการท้าชิงถ้วยแชมป์ แต่สิ่งที่ออกมากลับตรงกันข้ามกันในเวลานี้ เมื่อทีมยังคงไม่มีความแน่นอน รวมถึงฟอร์มการเล่นของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ ในช่วงหลัง แม้ทั้งคู่จะมีค่าตัวรวมกันถึง 120 ล้านปอนด์ ซึ่งแลมพาร์ดก็รู้ตัวดีว่าตัวเขามีโอกาสถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ทุกเมื่อ แม้เขาจะช่วยทีมประสบความสำเร็จมาตลอดระยะ 13 ปี
แลมพาร์ด กล่าวว่า “สิ่งที่ผมต้องการมุ่งมั่นทั้งหมดก็คืองานในมือของผม ผมไม่สามารถควบคุมอะไรได้ทุกอย่าง ผมไม่ต้องการพึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตด้วย สิ่งที่ผมเห็นในตอนนี้กับตำแหน่งของสโมสร หลังจากผ่านมา 1 เดือน ทุกอย่างมันตรงกันข้ามไปหมด ทุกอย่างในตอนนี้ มันเร็วมากๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องดี ผมยังคงมองบวก ผมไม่สามารถไปควบคุมอะไรได้ ผมรู้สึกว่ามันเสียเวลาที่จะไปคิดถึงเรื่องนั้น”
“ผมรู้สึกได้ถึงการสนับสนุนมากมายจากสโมสรแห่งนี้ เมื่อผมกลับมาในฐานะผู้จัดการทีม ในฐานะนักเตะ ผมก็ได้รับการสนับสนุนตลอดระยะเวลา 13 ปี สุดท้ายแล้วผมก็ต้องออกจากสโมสร เมื่อพวกเขาต้องการก้าวไปเจอกับสิ่งอื่น ผมเข้าใจได้เพราะมันคือฟุตบอล ผมเข้าใจถึงความต้องการและความคาดหวัง ดังนั้น ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่ถูกต้องมากนัก หากจะเอาผมออกไปจากสถานการณ์นั้น สิ่งที่ผมทำได้ทั้งหมดในตอนนี้ก็คือความซื่อสัตย์ นั่นคือสิ่งที่ผมทำได้ในเวลานี้ ผมยังมีงานต้องทำที่นี่ แน่นอนว่าผมอายุยังน้อย มันเป็นความท้าทายของผม”
