แซร์จ นาบรี้ จากความล้มเหลวที่ เวสต์บรอมวิช สู่การแจ้งเกิดกับ บาเยิร์น

แซร์จ นาบรี้ จากความล้มเหลวที่ เวสต์บรอมวิช สู่การแจ้งเกิดกับ บาเยิร์น

“คุณสามารถด่าผมได้เลย เขาพัฒนาศักยภาพของเขาได้อย่างแท้จริง” โทนี่ พูลิส อดีตผู้จัดการทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน กล่าวกับ “สกาย สปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีหลังจากที่ แซร์จ นาบรี้ ปีกทีมชาตเยอรมันของ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา ซัดไปคนเดียว 4 ประตู ในเกมที่พลพรรค “เสือใต้” บุกไปถล่ม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 7-ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

ความคิดเห็นนั้นแตกต่างจากที่ พูลิส เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2015 เมื่อ หลังจากที่ นาบรี้ ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ เวสต์บรอมวิช โดยอดีตนายใหญ่ “เดอะ แบ็กกี้ส์” กล่าวไว้ว่า “แซร์จ มาที่นี่เพื่อหาโอกาสลงสนาม แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เล่นอยู่ในระดับที่ผมต้องการ”

หลังจากเล่นกับ เวสต์บรอมวิช ด้วยสัญญายืมตัวได้เพียงครึ่งซีซั่น และมีโอกาสได้ลงสนามเพียง 1 นัดเท่านั้น นาบรี้ ถูกส่งตัวกลับไปยัง อาร์เซน่อล ก่อนที่ “ไอ้ปืนใหญ่” จะขายเขาต่อให้กับ แวรเดอร์ เบรเมน ในศึกบุนเดสลีกา ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์ ในปี 2016

ตั้งแต่นั้นมา ตัวรุกวัย 24 ปี ได้พัฒนาฝีเท้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ บาเยิร์น คว้าตัวเขาไปเสริมทัพในปี 2017 ก่อนจะปล่อยให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ยืมตัวไปใช้งานเป็นเวลา 2 ซีซั่น ก่อนที่ นาบรี้ จะกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งกับทัพ “เสือใต้”

ในสมัยเป็นดาวรุ่งนั้น นาบรี้ เป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของ อาร์เซน่อล หลังจากที่เขาย้ายจาก “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท ในบ้านเกิด มาเล่นกับ “ไอ้ปืนใหญ่” ในวัยเพียง 16 ปี โดนมีค่าตัวเพียง 100,000 ปอนด์ เท่านั้น

นาบรี้ เป็นผู้เล่น อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือ อาร์เซน่อล คาดหวังเป็นอย่างมาก โดยโค้ชชาวฝรั่งเศส กล่าวหลังเซ็นสัญญาในปี 2011 ว่า “แซร์จ นาบรี้ เป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่สำหรับอนาคตของสโมสร ผมให้คะแนนกับเขาสูงมาก ถ้าเขายังคงพัฒนาต่อไป ผมคิดว่าเขาสามารถเล่นในทีมชุดแรกในฤดูกาลนี้ได้”

ในขณะเดียวกัน กองกลาง “อินทรีเหล็ก” ต้องทำงานหนัก และทำให้แน่ใจว่าเขายังคงพอดี นั่นเป็นปัญหาสำหรับ นาบรี้ ที่ อาร์เซน่อล อยู่เสมอ ซึ่งเขาได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2012 ด้วยวัยเพียง 17 ปี โดยถูกส่งลงสนามในเกมลีก คัพกับ โคเวนทรี

หนึ่งเดือนต่อมา นาบรี้ ได้กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดลำดับ 2 ของ อาร์เซน่อล ต่อจาก แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางชาวอังกฤษ ที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีก และได้ลงเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนที่เขาจะมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ฤดูกาลของเขาต้องปิดฉากลงอย่างน่าเสียดาย

อาการบาดเจ็บทำให้ นาบรี้ ต้องพักทั้งฤดูกาล 2014/15 แต่ เวนเกอร์ ปฏิเสธที่จะยอมแพ้กับความหวังยิ่งใหญ่ของเขา โดยอดีตโค้ช “ไอ้ปืนใหญ่” กล่าวว่า “เราเซ็นสัญญากับ แซร์จ นาบรี้ เพราะผมเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เขาเกือบจะถึงจุดนั้นแล้ว และเขาจะได้ลงแข่งขันในพรีเมียร์ลีกเป็นประจำ เขาเป็นผู้เล่นที่มีพลัง และผมเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม สำหรับสโมสร อาร์เซน่อล”

แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่ เวนเกอร์ ยังเชื่อใน นาบรี้ อยู่เสมอ โดยอดีตเด็กปั้น สตุ๊ตการ์ท เซ็นสัญญาระยะยาวกับ อาร์เซน่อล ในเดือนตุลาคม 2013 และเขากลับมาฟิตร่างกายอย่างเต็มที่ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 2015/16 ก่อนที่ “ไอ้ปืนใหญ่” จะส่งเขาให้กับ เวสต์บรอมวิช ยืมตัวเพื่อหาประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่

ปีกชาวเยอมัน กล่าวว่า “ผมใจมากกับการย้ายทีมครั้งนี้” ขณะที่ พูลิส ระบุว่า “เรามีความยินดีที่จะเพิ่ม แซร์จ นาบรี้ มาเป็นตัวเลือกในทีมชุดแรกของเรา เขาเป็นผู้เล่นชั้นยอด และเขาจะทำให้เรามีคุณภาพในบางพื้นที่ของสนาม”

ดูเหมือนว่าจะเป็นการย้ายทีมดีสำหรับทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คืออะไร ช่วงเวลาของ นาบรี้ ที่ เดอะ ฮอว์ธอร์น นั้น เขาได้เล่นในพรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทีมของ พูลิส พียง 12 นาทีเท่านั้น ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมายัง อาร์เซน่อล หลังจากผ่านไปเพียง 6 เดือน

พูลิส อธิบายเมื่อปี 2015 ว่า ““แซร์จ มาที่นี่เพื่อหาโอกาสลงสนาม แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เล่นอยู่ในระดับที่ผมต้องการ เขามาจากทีมเยาวชน และไม่ได้เล่นฟุตบอลในลีกมากนัก และสถาบันเยาวชนเหล่านั้น เตรียมผู้เล่นให้พร้อมกับฟุตบอลลีกจริงๆ หรือไม่”

“เรากำลังพูดถึงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่แข็งแกร่ง ในฐานะผู้จัดการทีมคุณต้องเลือกทีมที่จะชนะในทุกๆเกม คุณต้องเลือกทีมที่ดีที่สุดของคุณ คุณจะไม่ปล่อยให้นักเตะย้ายออกไป เพราะเหตุผลที่ว่า คุณไม่ชอบพวกเขา เพราะสิ่งนี้ สิ่งนั้น และสิ่งอื่น ๆ หรืออะไรก็ตามแต่” พูลิส กล่าว

นาบรี้ กลับมาที่ อาร์เซน่อล ในช่วงฤดูร้อนปี 2016

3 เดือนต่อมา นาบรี้ กลับมาที่ อาร์เซน่อล ในช่วงฤดูร้อนปี 2016 ด้วยเหรียญเงินโอลิมปิกกับทีมชาติเยอรมัน และได้เป็นดาวซัลโวร่วมการแข่งขันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2016 ที่ริโอ ประเทศบราซิล โดยแข้ง “อินทรีเหล็ก” ได้พูดคุยกับ เวนเกอร์ ซึ่งแนะนำให้เขาอยู่กับ “ไอ้ปืนใหญ่” ต่อไป

เวนเกอร์ ระบุว่า “เราไม่ต้องการขาย นาบรี้ เราต้องการเก็บเขาไว้ แต่เขาอยู่ในช่วงปีสุดท้ายของสัญญาของเขาแล้ว เราใกล้จะต่อสัญญากัน แต่ในที่สุดเขาก็เปลี่ยนใจ และย้ายไปที่ แวรเดอร์ เบรเมน แต่ผมคิดว่า เราได้สอนสิ่งดีๆเขาไปเยอะมาก และผมคิดว่า ถ้าคุณถามเขา เขาจะเห็นด้วยกับที่ผมบอกไป”

นาบรี้ ย้ายกลับไปเยอรมนีเพื่อเล่นกับ เบรเมน และพิสูจน์แล้วว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดยอดีตดาวเตะ อาร์เซน่อล กล่าวว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่จะย้ายออกจาก อาร์เซน่อล ทุกคนที่เปรียบเทียบการพัฒนาของผมในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมากับเวลาของผมในอังกฤษก่อนที่จะได้ข้อสรุปที่แตกต่างออกไป”

“นั่นเป็นเหตุผลหลักสำหรับการย้ายทีม ผมต้องการที่จะได้รับโอกาส แลเเวลาในการลงเล่นมากขึ้น และมันก็ได้ผล อาร์เซนอล ต้องการให้ผมอยู่ต่อ แต่ผมต้องย้ายออกมาเพื่อพัฒนาตัวเอง”

หลังจากย้ายออกจาก อาร์เซน่อล ในปี 2016 ไปเล่นกับ เบรเมน นั้น นาบรี้ ซัดไป 11 ประตูจาก 27 เกมในลีกซีซั่นแรกให้กับ “นกนางนวล” ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อเล็กซานเดอร์ นูริ ก่อนจะพาทีมจบอันดับ 8 ในศึกบุนเดสลีกา

ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ นาบรี้ ช่วยให้เขาได้รับการเรียกตัวจาก โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังหลังจากที่ยิงแฮตทริกในการเปิดตัวทีมชาตินัดแรกในเกมกับ ซาน มาริโน

แต่มันไม่ใช่แค่ทีมชาติเยอรมันที่ต้องการตัว นาบรี้ สโมสรยักษ์ใหญ่ในเมืองเบียร์อย่าง บาเยิร์น ไม่รีรอที่จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านยูโร พร้อมเซ็นสัญญายาว 3 ปี หลังจากย้ายมายัง เบรเมน ได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น

อาชีพของ นาบรี้ ที่ บาเยิร์น ไม่ได้เริ่มต้นทันที เนื่องจาก “เสือใต้” ส่งตัวเขาไปยัง ฮอฟเฟ่นไฮม์ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในทีมชุดแรก อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างจากการยืมตัวที่ เวสต์บรอมวิช โดยอดีตแข้ง อาร์เซน่อล ลงสนามให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไปมากถึง 22 เกม และซัดไป 10 ประตู พร้อมพาทีมจบอันดับ 3 ในซีซั่น 2017/18

นาบรี้ กลับมาที่ บาเยิร์น ในช่วงฤดูร้อนปี 2018 และเขามั่นใจว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะลงสนามให้กับ “เสือใต้” โดยระบุว่า “ผมจะไม่มานั่งที่นี่ถ้าผมยังไม่พร้อมสำหรับความท้าทาย” เขาพูดพร้อมกับ นิโก โควัช โค้ชคนใหม่ชาวโครเอเชีย ในงานแถลงข่าวครั้งเปิดตัวแรกของเขาในฐานะผู้เล่น บาเยิร์น

“ผมคิดว่า วิธีที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะเห็นสิ่งที่ผมทำได้ นั่นก็คือแค่เฝ้าดูผมลงสนาม ผมสนุกกับเวลาในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เพราะผมได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้ผมพร้อมที่จะนำความรู้สึกนั้นมาที่ มิวนิค”

นาบรี้ พูดถูกต้องอาชีพของเขาที่ บาเยิร์น ไปได้สวยนับตั้งแต่นั้นมา ในฤดูกาลแรกของเขาที่ถิ่น อลิอันซ์ อารีน่า เขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเป็นครั้งแรก เมื่อ “เสือใต้” คว้าแชมป์เหนือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2 คะแนน

ปีกเยอรมัน จบฤดูกาลด้วยสถิติทำประตูสูงสุดของ บาเยิร์น กับผลงาน 10 ประตู ใน 30 เกม ตามหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์เพีงคนเดียว และยังคงสร้างความประทับใจในเวทีระดับชาติกับทัพ “อินทรีเหล็ก” อีกด้วย

ในวันอังคารที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ นาบรี้ แสดงให้ทุกคนเห็นว่า เขายอดเยี่ยมเพียงใด หลังจากที่สร้างสถิติเป็นนักเตะชาวเยอรมันคนที่ 2 ที่ทำประตูได้ 4 ลูกในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

ในการกลับมาครั้งแรกของ นาบรี้ ที่ลอนดอนเหนือ ตั้งแต่ย้ายออกจาก อาร์เซน่อล นั้น เขามีคำพูดของ เวนเกอร์ ดังก้องอยู่ในหูของเขา ในขณะที่เขาแสดงความเร็วที่จัดจ้าน ทักษะที่ยอดเยี่ยม และการจบสกอร์ที่คมกริบ

“ผมประหลาดใจเห็นเขาเล่นได้ดีบนเวทียุโรป ผมเคยมีเขาอยู่ในทีมที่ เวสต์บรอมวิช เรายืมตัวเขามา และเราไม่สามารถทำให้เขาฟิตพร้อมลงสนามได้ เขาถูกส่งลงไปเล่นในทีม U21 จากนั้น เขาถูกส่งกลับไปที่ อาร์เซน่อล ก่อนจะถูกขายออกจากทีม”

“เขาเป็นเด็กดี เขาพัฒนาศักยภาพของเขาได้ยอดเยี่ยม คุณสามารถด่าผมได้เลยในช่วงที่ผมได้ทำงานกับเขาที่ เวสต์บรอมวิช สิ่งที่เขาทำนั้นยอดเยี่ยมมาก เขาแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เขาสุดยอดมาก” พูลิส กล่าว

นาบรี้ แสดงให้ทุกคนเห็นว่า เขายอดเยี่ยมเพียงใด

เนื้อหาใกล้เคียง