บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก้ มาดริด 3 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ทำคะแนนกลับมาใกล้เคียงกันอีกครั้ง เคราร์ด ปิเก้ เป็นส่วนหนึ่งของพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” ที่เปิดรังคัมป์ นู ไล่ถล่ม เรอัล บายาโดลิด 5-1 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกมจบเขาให้สัมภาษณ์กับ “อีเอสพีเอ็น” ถึงประเด็นที่น่าสนใจต่างๆ
ในวันรุ่งขึ้น ปิเก้ จะเดินไปยังเมืองมาดริดสรุปแผนสำหรับการแข่งขันศึกเทนนิสเดวิสคัพ ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวจะถูกปรับปรุงโดยกลุ่มการลงทุนที่นำโดย กองหลัง บาร์เซโลน่า และในบ่ายวันเสาร์เขาจะไปที่สนามกีฬา Ciutat de Valencia เพื่อทำธุระบางอย่าง ก่อนที่จะกลับไปที่บ้านพักแถบ คาลาโตเนีย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่วุ่นวาย
ปราการหลังทีมชาติสเปน กล่าวว่า “ผมเดินทางไปมาเยอะกว่าที่คิด” หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ เขามีคิวจะต้องเดินทางไปเยี่ยมชมสตูดิโอของวิทยุ Cadena Ser ใน Gran Via เพื่อให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่น่าสนใจในรายการ El Larguero ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิทธิพลในแดนประทิงดุ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะไปทุกที่
ปิเก้ ก็พยายามเดินทางไปทุกแห่ง เพราะเขามีหลายสิ่งที่ต้องทำ โดยดาวเตะวัย 32 ปี มีธุรกิจเกี่ยวกับฟุตบอลมากมายจากในสนามและนอกสนาม และมีธุรกิจส่วนตัว รวมถึงทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส ด้วยเช่นกัน
เมื่อถูกถามว่า คุณจะต้องกระโดดขึ้นเฮลิคอปเตอร์เป็นเวลาหลายครั้งต่อวันใช่ไหม? ปิเก้ ตอบว่า “ก็แค่บางครั้ง ผมเคยนั่งเฮลิคอปเตอร์ แต่มันทำให้ผมกลัวจริงๆ ดังนั้นผมจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น และเมื่อผมมีเวลาไม่มากนัก”
ย้อนกลับไปในฤดูกาลก่อน ปิเก้ ยอมรับว่าเขาเข้าไปพบกับ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ โค้ช บาร์เซโลน่า เพราะเขาต้องเดินทางไปออร์แลนโด ฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมันเป็นครั้งแรกที่ บัลเบร์เด้ ไม่ตอบว่าได้หรือ ไม่ได้
ปิเก้ อธิบายต่อว่า “ผมพูดกับเขาอีกครั้ง และพูดว่า เออร์เนสโต้ จำสิ่งที่ผมบอกคุณได้ไหม ผมแค่คิดถึงการฝึกซ้อมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และผมสัญญาว่า เราจะคว้าแชมป์ลีก คุณไม่ต้องกังวล และนั่นคือสิ่งที่เขายอมรับได้ และเขาถามผมว่าผมจะไปที่ไหน ผมบอกเขาว่ามันคือ ออร์แลนโด”
“เขาก็ตกใจมาก และบอกผมว่านายไม่ต้องคิดเลย นั่นเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก ผมก็บอกเขาว่าผมจะกลับมาแน่นอน และเราจะคว้าแชมป์ด้วยกัน และเมื่อผมกลับมาเราก็คว้าแชมป์จริงๆ” กองหลังชาวสเปน กล่าว
ปิเก้ ชอบทำธุรกิจมา และเขามีแผนต่างๆมากมาย ในขณะที่หลายคนคิดว่า เขาทำงานหนักเกินไป และยังมีปัญหาเรื่องการเดินทางของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่เขาถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง เขาตอบว่า “ผมนอนหลับ และผมก็สบายดีบนเครื่องบิน”
นอกจากนี้ บางครั้งมันก็ดีสำหรับ บาร์เซโลน่า เช่นกัน มันเป็นการเดินทางไป ซานฟรานซิสโก ที่ ปิเก้ จัดการประชุมระหว่าง โจเซฟ มาเรีย บาร์โตมิว ประธานสโมสร และ ฮิโรชิ มิกิตานิ ผู้ก่อตั้ง Rakuten ซึ่งกลายเป็นสปอนเซอร์ติดหน้าอกเสื้อทีม “เจ้าบุญทุ่ม”
มีเหตุผลด้วยเช่นกันที่ว่า ทำไมผู้เล่นบางคนถึงชอบคิดเรื่องการเป็นผู้จัดการทีมเมื่อพวกเขาเลิกเล่นฟุตบอล แต่ ปิเก้ เพ้อฝันถึงตำแหน่งประธานสโมสร และมีผู้คนมากมายที่คิดว่า เขาจะทำได้ดีในตำแหน่งดังกล่าวอย่างแน่นอน
วันหยุดสุดสัปดาห์ของเขา ปิเก้ จะมุ่งหน้าไปดูลูกชายของเขาเล่นฟุตบอลกับโรงเรียนเยาวชนของ บาร์เซโลน่า พร้อมกับลูกชายของเพื่อนร่วมทีมอย่าง ติอาโก้ เมสซี่ และ เบนฆา ซัวเรซ โดยเขาเล่าติดตลกว่า “ลูกชายของฉันเล่นเหมือน อาร์ตูโร่ วิดัล เขาใช้เวลาอยู่บนพื้นสนามมากกว่าครองบอลที่เท้า
“ส่วน ติอาโก้ มีสัมผัสบอลที่ดีและลูกชายของ หลุยส์ นั้นดูดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย เบนฆา วิ่งไปทั่วสนาม และเด็กๆก็เหมือนพ่อของพวกเขา”
หลังจากนั้น ปิเก้ ก็มีเกมอื่นให้เข้าร่วมชมอีก ผู้เล่นมากมายดูเกมระหว่าง 2 สโมสรเก่าแก่ ในวันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาท้องถิ่น เขาจะดูเกมระหว่างสองสโมสรปัจจุบันของเขาเมื่อ บาร์เซโลน่า บี จะเล่นกับ สโมสรฟุตบอล อันดอร์รา
ปิเก้ ซื้อ เอฟซี อันดอร์รา ในเดือนธันวาคม ปี 2018 บริษัท Kosmos ของเขาใช้หนี้ 300,000 ยูโรของสโมสร และเปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชนลงทุนในทีม และปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน แม้ว่าทีมจะเล่นใน ดิวิชั่นท้องถิ่นในแคว้นคาตาโลเนีย หรือที่เรียกกันว่า tercera division ของสเปนในกลุ่มคาตาลัน
แฟนบอลที่เข้าชมมีแนวโน้มที่จะอยู่ที่ประมาณ 450 ต่อเกม ความทะเยอทะยาน คือการพาพวกเขาไปไกลกว่านั้น และสร้างสโมสรขึ้นมาใหม่ กาบรี้ ถูกแต่งตั้งให้เป็นโค้ช โดย อัลเบิร์ต ฆอร์เควรา เป็นผู้ช่วย 2 โดยทั้ง 2 คน ต่างก็เคยเป็นอดีตนักเตะ บาร์เซโลน่า
อันดอร์รา เซ็นสัญญากับ มาร์ติ ริเวโรล่า ซึ่งเคยเล่นในออสเตรีย ในอิตาลี และที่ บาร์เซโลน่า ทีม บี มาแล้ว รวมถึงยังซื้อตัว มิเกล พาลานก้า อดีตนักเตะ เรอัล มาดริด ที่เคยลงสนามพบกับ “เจ้าบุญทุ่ม” ในปี 2008 มาแล้ว
ในช่วงฤดูร้อน อันดอร์รา ได้จ่ายเงินจำนวน 452,000 ยูโร ไปให้ยัง เรอุส สโมสรในเซกุนด้า ของ สเปน ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตการเงิน และกำลังจะถูกไล่ออกจากลีก ตอนนี้ เรอุส อยู่อันดับสามในตารางคะแนน เหนือ บาร์เซโลน่า B ซึ่งเป็นอันดับ 4
อันดอร์รา, เทนนิส เดวิส คัพ และบริษัท Kosmos นี่คือเหตุผลทั้งหมดที่ ปิเก้ บอกว่าเขายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ในตอนนี้ แต่หลายคนก็มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า เขาอาจจะก้าวไปอยู่จุดนั้นในซักวันหนึ่งข้างหน้า และเขาจะเตรียมพร้อมได้เป็นอย่างดี
ในฐานะหลานชายของอดีตผู้อำนวยการสโมสรผู้บอกเล่าเรื่องราวของ หลุยส์ ฟาน กัล อดีตโค้ชชาวดัตช์ ของ บาร์เซโลน่า ที่เดินมารอบๆบ้านของ ปิเก้ และผลักเขาลงบนพื้นพร้อมประกาศว่าเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะเป็นผู้เล่น “เจ้าบุญทุ่ม”
อย่างไรก็ตาม ปิเก้ กลับมายังถิ่นคัมป์ นู อีกครั้ง ด้วยมีประสบการณ์ระดับนานาชาติ และมุมมองระดับระดับสูงในเกม ซึ่งทำให้เขาเป็นอะไรที่มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ และเขาก็ยอมรับว่าบางคนคงจะไม่ชอบเขาจากคำพูดตรงๆก็ตาม
ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ และบ่อยครั้งที่คุณจะไม่เห็นด้วย หรือความชัดเจน และความลึกของการวิเคราะห์ ปิเก้ ความเต็มใจที่จะพูดเลยแม้ว่าบางครั้งมันอาจไม่ฉลาดที่จะทำเช่นนั้น แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่มันอาจจะต่อต้านออกมาจากหลายๆคน
ในคืนวันพุธที่ 13 ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจที่สุดจากการสัมภาษณ์ของ ปิเก้ กับ El Larguero คือ ผู้เล่นบางส่วนได้เตรียมที่จะชะลอการจ่ายเงินเดือนเพื่อช่วยให้ บาร์เซโลน่า ปฏิบัติตามกฎควบคุมการเงินในการหาทางเซ็นสัญญา เนย์ม่าร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ของ ปารีส แซงต์ แชร์แมง กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง
นักเตะ บาร์เซโลน่า รู้สึกกล้าที่จะแนะนำให้ทำตามข้อเสนอดังกล่าวต่อประธานสโมสร แต่เมื่อคุณรู้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่า ปิเก้ อยู่ตรงกลางคอยผลักดัน แนะนำและหาวิธีแก้ปัญหาโดยตรงไปยังประธาน “เจ้าบุญทุ่ม”
ความกล้าหาญของ ปิเก้ ไม่เคยถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ดีเสมอไป เมื่อเร็วๆนี้มีคอลัมน์ใน El Mundo Deportivo หนังสือพิมพ์ชื่อดังแดนกระทิงดุ ที่ระบุว่า เกิดสงครามของสโมสรส่วนหนึ่งของกลุ่มสื่อมวลชนที่มีสถานที่ชัดเจนในการต่อสู้ทางสังคม และการเมืองเช่นกัน
ปิเก้ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “เรารู้ว่าสโมสรเป็นอย่างไร เรารู้ว่าข่าวใดในหนังสือพิมพ์ที่สอดคล้องกับสโมสร เรารู้ว่าใครเขียนบทความบางอย่าง แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความจริง เราจะต้องร่วมมือกันไม่เพียงแต่ผู้เล่น เท่านั้น แต่แฟนๆและบอร์ดของสโมสรด้วย เราต้องอยู่ด้วยกันเพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น เราจะโดนโจมตีได้ง่ายๆ”
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปิเก้ ได้พูดบางสิ่งที่คล้ายกันนี้กับนิตยสารฟุตบอลโลกฉบับหนึ่ง โดยระบุว่า “มีบางสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลง และสภาพแวดล้อมต่างๆเป็นหนึ่งในนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยสำหรับสโมสรที่จะถูกแบ่งแยก สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ มาดริด”
“สื่อที่ มาดริด พวกเขาสนับสนุนทีม และพวกเขาสนับสนุนทีมไปจนวันตาย แต่ใน บาร์เซโลน่า วัฒนธรรมของเรานั้นแตกต่างกัน ผมหวังว่า เมื่อถึงเวลาเราจะตระหนักว่า เราต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกันกับปัญหาอื่นๆ ที่เราผ่านมาได้ แต่ปัจจุบันมันก็ยังมีอยู่”
ในความเป็นไปได้ทั้งหมดที่ ปิเก้ จะไม่พอใจ และบางทีเขาอาจมีโอกาสเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมนั้น และสร้างสะพานที่ยั่งยืน โดยสัญญาของเขากับ บาร์เซโลน่า จะหมดลงในอีก 3 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาจะอายุ 35 ปี แต่เขาก็ยืนยันว่า ตัวเองมีงานหนักมากกว่าที่จะคิดถึงการเป็นประธานสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม” และไม่ใช่เร็วๆนี้อย่างแน่นอน
ปิเก้ ระบุว่า “ผมต้องการที่จะทำมันในเวลาที่ผมสามารถให้หัวใจ และจิตวิญญาณของผมพร้อม” ในระยะยาวธุรกิจที่ห่างไกลอาจป้องกันไม่ให้เขามาถึงตำแหน่งประธานสโมสร แต่เขาอาจจะพร้อมเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ในขณะที่สิ่งนี้อาจเป็นข้อสรุปที่ง่าย หรือง่ายเกินกว่าที่จะดึงดูด แต่ก็อยากจะเห็นว่านี่ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการการศึกษา ทดลองงาน เมื่อ ปิเก้ ได้เจอสัปดาห์ที่วุ่นวายอีกครั้ง เขานั่งอยู่ที่นั่นในบล็อกผู้อำนวยการ บาร์เซโลน่า ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อดูแลสโมสรฟุตบอลทั้ง 2 ทีมของเขาเผชิญหน้ากัน และมันอาจเป็นเพียงการเริ่มต้นของการเดินทางอีกครั้งที่จะพาเขากลับไปที่นั่นซักวันหนึ่งในอนาคต
