ส่อง! ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมตลอดกาล

ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมตลอดกาล

เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งตลอดกาล ความสำคัญของผู้จัดการทีมนั้นมีอิทธิพลต่อทีมเป็นอย่างมาก มากกว่าสตาร์ภายในทีมด้วยซ้ำ เนื่องจากนักเตะระดับสตาร์สามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่สำหรับผู้จัดการทีม ที่มีฝีมือแล้วยากที่จะหาคนใหม่มาทดแทนได้ หน้าที่ของผู้จัดการทีมมีไปตั้งแต่การฝึกสอนนักเตะ วางกลยุทธ์ และผู้จัดการทีมสามารถกำหนดทิศทางของทีมได้ เช่นจากทีมเล็กสู่ทีมระดับท็อป หรือทีมระดับท็อปสู่ทีมเล็ก แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด ตลอดทศวรรษมีผู้จัดการทีมเกิดใหม่มากหน้าหลายตา แต่จะมีเพียงไม่กี่คนที่ เป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ทั้งได้รับการยอมรับโดยแฟนๆและต้นสังกัด

5 ผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

1.ออสม่า ฮิตเฟล

Gottmar เป็นภาษาท้องถิ่นของเยอรมัน ที่แปลว่า”พระเจ้า” คงไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรมากมายสำหรับชายผู้นี้ ฮิตเฟล เป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จที่สุดในวงการฟุตบอลเยอรมัน ฮิตเฟล ในฐานะนักเตะนั้นฝีเท้าของเขาอยู่ในระดับปานกลางกับ สตุ๊ดการ์ท และเริ่มต้นคุมทีมครั้งแรกกับ ดอร์ทมุนด์ ในปี 1983 และในปี 1991 ออสม่า ฮิตเฟล ก็สร้างประวัติศาสตร์โดยพา ดอร์ทมุนด์ เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก และรอบรองชนะเลิศอีก 2 ครั้ง และในปี 1996-97 ออสม่าฮิตเฟล ก็สามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้โดยการเอาชนะ ยูเวนตุส จากนั้นชีวิตของเฮียแกก็ทะยานสู่จุดสูงสุดด้วยการคุมทีม บาเยิร์น มิวนิค และพา บาเยิร์น เข้าชิง 2 ครั้งในรอบ 3 ปี และ 1 ในนั้นคือนัดแพ้ให้กับ แมนฯยูไนเต็ด แบบเจ็บปวดในปี 1999 และในปี 2000-01 ฮิตเฟล ก็พายอดทีมจากเมืองมิวนิคคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ ด้วยกันเอาชนะ บาเลนเซีย ได้สำเร็จ ฮิตเฟล ได้นำ บาเยิร์น เป็นทีมแนวหน้าของยุโรปทันทีด้วยการพาทีมเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ 4 ครั้งในรอบ 5 ปี ไม่ใช่แค่เวทียุโรปแต่บอลลีกในประเทศ ฮิตเฟล คว้าแชมป์ลีกกับ บาเยิร์น ได้ถึง 7 ครั้ง ต่อมา ฮิตเฟล ก็ได้คุมทีมระดับชาตินั้นก็คือสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2008 และพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกถึง 2ครั้งด้วยกัน ปัจจุบันอดีตอาจารย์คณิตศาสตร์ไม่ได้คุมทีมแล้วแต่เขาได้สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์รายการยุโรปได้ทั้ง 2 สโมสร ฮิตเฟล เป็นที่เคารพของคนในวงการฟุตบอลทั้งในและนอกประเทศมากๆ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมหน้าใหม่ได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย

2.บิเซนเต่ เดล บอสเก้

เดล บอสเก้ เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลที่สุดอีกคนหนึ่ง เดล บอสเก้ ประสบความสำเร็จทุกถ้วยรางวัลทั้งระดับทีมชาติและสโมสร บอสเก้ เริ่มต้นค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด และเริ่มเป็นผู้จัดการทีมกับ เรอัล มาดริด ในปี 1994 และได้เริ่มคุมมาดริดแบบจริงจังในปี 1999 บอสเก้ ได้ทำให้ มาดริด เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปในช่วงยุคต้นปี 2000 เรอัล มาดริด คว้าแชมป์เปี้ยนลีกได้ 2 ครั้งในรอบ 3 ปี และยังมีแชมป์ลาลีกาอีก และในปี 2008 เดล บอสเก้ ก็เริ่มขยับมางานคุมทีมชาติสเปนและพาสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 2010 และต่อมาปี 2012 ก็พาสเปนคว้าแชมป์ยูโรด้วยการเอาชนะอิตาลี 4-0เดล บอสเก้ ลาออกจากสเปนในปี 2014 เดล บอสเก้ ขึ้นชื่อในเรื่องของการบริหารจัดการคน เพราะทีมที่ บอสเก้ คุมทีมนั้นล้วนเต็มไปด้วยสตาร์เกือบทั้งหมด อาทิเช่น ซีดาน โรนัลโด้ รามอส ชาบี อินเนียสต้า นักเตะเหล่านี้เจริญเติบโตภายใต้การดูแลของ เดล บอสเก้ ทั้งนั้น

5 ผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

3.มาเชลโล่ ลิปปี้

มาเชลโลโล่ ลิปปี้ เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลอิตาลี และยังเป็นผู้จัดการทีมเพียงไม่กี่คนที่สามารถคว้าแชมป์กับสโมสร และแชมป์ฟุตบอลโลกได้ ลิปปี้ เป็นผู้จัดการทีมที่มีความฉลาดหลักแหลมในการวางแผนและยังเป็นที่เคารพรักในวงการ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ไฟแรงได้อีกด้วย ลิปปี้ ค้าแข้งอยู่กับ ซามพ์โดเรีย ในลีกบ้านเกิดอิตาลี และได้คุมทีมครั้งแรกเมื่อปี 1985 และต่อมาในปี 1994 ลิปปี้ ก็ได้คุมทีม ยูเวนตุส และสามารถพาทีมเข้าถึงนัดชิงUCLได้ถึง 3 ครั้ง แต่สามารถคว้าแชมป์ได้เพียงครั้งเดียว แต่ ลิปปี้ ก็สร้าง ยูเวนตุส ให้เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆในปลายยุค 90 จนถึงยุคต้นปี 2000 ด้วยสถิติพา ยูเว่ เข้าชิงUCL 4 ครั้งใน 8 ปี และ สคูเด็ดโต้ อีก 5 ครั้ง นอกจากความสำเร็จแล้ว ลิปปี้ ยังเป็นผู้จัดการทีมที่ขัดเกลานักเตะในตำนานอย่าง ซีดดาน บุฟฟ่อน เดลปิเอโร่ คันนาวาโร่ และ พาเวล เนดเวด เป็นต้น ส่วนบทบาทในการคุมทีมชาตินั้น ลิปปี้ เริ่มจับงานทีมชาติอิตาลีในปี 2004 และในปี 2006 ลิปปี้ ก็คุมทีมอัซซูรี่คว้าแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นเครื่องยืนยันว่า ลิปปี้ คือ 1 ในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง ปัจจุบัน ลิปปี้ กำลังคุมทีมอยู่ในลีกประเทศจีน พาทีมกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ได้แชมป์ AFCได้ในปี 2013

4.ไรนุส มิชเชล

ไรนุส มิชเชล เป็นผู้บุกเบิกแแนวทางการวางกลยุทธ์ให้กับวงการฟุตบอลได้อย่างน่ามหัศจรรย์ มิเชล เริ่มต้นวิชาปรัชญาฟุตบอลแบบใหม่ของเขากับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลน่า โดยรูปแบบที่ มิชเชล นั้นคิดค้นก็คือระบบการเล่นที่ไร้ตำแหน่งตายตัว นักเตะทุกๆคนสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ด้วยสไตล์ที่จะเน้นการครองบอลให้มากที่สุด เขาทำให้ อาแจ็กซ์ เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปในช่วงปลายทศวรรษ 1960 จนถึงปลายทศวรรษ 1970 พาทีมคว้าแชมป์สโมสรยุโรป และแชมป์ลีกในประเทศถึง 4 ครั้ง มิชเชล ได้สร้างนักเตะเทวดาอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ พวกเขาได้ร่วมงานกันกระทั่งสโมสรและทีมชาติ โดย มิชเชล รับงานคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปลุยฟุตบอลโลกในปี 1974 และพา เนเธอแลนด์ เข้าชิงได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแพ้ให้กับเยอรมันตะวันตก มิชเชล รับผิดชอบด้วยการลาออก และไปคุมทีม บาร์เซโลน่า และก็ได้ร่วมงานกับ ครัฟฟ์ อีกครั้ง มิชเชล พา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์มากมาย และในปี 1988 มิชเชล ก็พา เนเธอแลนด์ เถลิงแชมป์ยูโรอย่างยิ่งใหญ่ และถึงแม้ปัจจุบัน มิชเชล จะลาโลกไปแล้ว แต่เขาก็ได้สร้างบุคคลากรฟุตบอลที่มีคุณภาพเอาไว้เช่น รุด กุลริท, มาร์โก้ ฟานบาสเท่น, โรนัล คูมัน และแฟร้ง ไรดจ์กาด และสไตล์ฟุตบอลที่สวยงามที่เรียกว่า Tiki Taka ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

5.เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน

คงไม่มีผู้จัดการทีมคนไหน ในโลกอีกแล้วที่จะทำได้แบบ เฟอร์กี้ ทั้งความสำเร็จและระยะเวลาในการคุมทีม กับทีมเพียงทีมเดียว เฟอร์กี้ ได้เปลี่ยน แมนฯยูไนเต็ด ให้เป็นสโมสรระดับโลก และทำให้แบรนด์ แมนฯยูไนเต็ดโด่งดังจนมีแฟนๆทั่วโลก เฟอร์กี้ คุม แมนฯยูไนเต็ด ถึง 27 ปี และคว้าถ้วยรางวัลมากมายกว่า 38 รายการ และน้อยคนที่จะรู้ เฟอร์กี้ นั้นเคยคุมทีมชาติสก็อตแลนด์ และสโมสร อเบอร์ดีน ในบ้านเกิดในปี 1986 ก่อนที่จะมาคุมทีม แมนฯยูไนเต็ด เฟอร์กี้ ใช้เวลา 2-3 ปีในการสร้าง แมนฯยูไนเต็ด และในปี 1990 -91 เฟอร์กี้ ก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ครั้งแรกได้สำเร็จ และหลังจากนั้น เฟอร์กี้ ก็โกย 12 แชมป์ลีก และประกาศยุติอาชีพคุมทีมลงในปี 2013 ผลงานระดับยุโรปก็ไม่ธรรมดา คว้า 2 ถ้วย UCL และในช่วง 2007-2010 สามารถพา แมนฯยูไนเต็ด เข้าชิงถึง 3 ครั้งจาก 4 ปี นอกจากผลงานความสำเร็จแล้วเคล็ดลับอีกอย่างก็คือสายตาอันเฉียบแหลม ในการเซ็นผู้เล่น และปลุกปั้นนักเตะธรรมดาๆจนเป็นสตาร์ระดับโลกได้หลายคนอาทิเช่น คริสเตียนโน่ โรนัลโด้, รอย คีน,เนมานย่า วิดิช, เวยน์ รูนี่ย์ และ เอริค คันโตน่า และอีกมากมาย นอกจากนี้เขายังพัฒนาระบบอะคาเดมี่ จนได้นักเตะก้นหม้ออย่าง คลาสออฟ 92 ที่โด่งดัง ซึ่ง คลาสออฟ 92 เป็นแกนหลักส่วนสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน เป็นสโมสรที่โด่งดัง และมีแฟนบอลติดตามเยอะที่สุดในโลกทันที

เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน

เนื้อหาใกล้เคียง