ในโลกของฟุตบอลหมายเลขเสื้อที่ด้านหลัง มักจะบ่งบอกตำแหน่งและหน้าที่ของนักเตะนั้นๆได้ เช่นหมายเลข 7 ของ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ นักเตะระดับตำนานมักจะสวมใส่ หมายเลข 7 และ 10 แต่หมายเลข 8 มักจะถูกสวมใส่โดยผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ โดยผู้เล่นหมายเลข 8 มักจะมีบทบาท ในเกมแดนกลางและมักจะทำประตูได้ด้วย
เรามาดูสุดยอดนักเตะหมายเลข 8 กัน
1.จูนิญโญ่ แปร์นัมบูรกาโน่ ทีม โอลิมปิก ลียง
จูนิญโญ่ เริ่มค้าแข้งในลีกบราซิลบ้านเกิดของตนเอง จนกระทั่งปี 2001 ย้ายมา ลียง ฝรั่งเศส จากทักษะและดิวิชั่นที่ยอดเยี่ยมในการบัญชาเกมส์แดนกลางและเป็นสุดยอดลูกนิ่ง โดยเฉพาะฟรีคิก ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งเขายิงให้ ลียง ไป 100 ประตูในฐานะกองกลาง ก่อนหน้า ลียง ไม่เคยเป็นแชมป์ลีกเอิงมาก่อนจนกระทั่ง ในยุคของ จูนิญโญ่ เขาพา ลียง เป็นแชมป์ลีกเอิงถึง 7 ปีติด ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ลีกฝรั่งเศส เขาติดทีมยอดเยี่ยมของลีกเอิง 3 ครั้ง และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม อีก 1 ครั้งในปี 2005/06
2.เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ทีม เอซี มิลาน
นี่คือนักเตะที่ทำให้ อังเดรีย ปีย์โร่ มีอิสระในเกมส์รุกมากๆ เพราะ กัตตูโซ่ คือสุดยอดกลางรับ คนหนึ่งแห่งยุค เขามีส่วนสำคัญทำให้อิตาลีเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2006 และยังมีส่วนสำคัญในการพา เอซี มิลานประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในเกมส์ลีกกัลโช่เซเรียเอ และในเกมส์ยุโรปอีกมากมายด้วยเช่นกัน ด้วยความดุดัน อาจถึงขั้นป่าเถื่อน ทักษะที่ดีและความแข็งแกร่งมากๆ ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับที่เก่งกาจ
3.ฮริสโตร สตอยคอฟ ทีม บัลแกเรีย และ บาร์เซโลน่า
สตอยคอฟ คือนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาลของ บัลแกเรีย เลยก็ว่าได้ เขาย้ายมา บาร์เซโลน่า ในปี 1990 เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม โยฮัน ครัฟฟ์ ได้แชมป์ลีก 4 สมัยติดและ แชมป์ยุโรปอีก เขาพา บัลแกเรีย จบอันดับ 4 ฟุตบอลโลกปี 94 กดไป 6 ประตู คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของฟุตบอลโลกไปครอง ด้วยความสุดยอดของพี่แก ในปี 1994 เขาได้รับรางวัลบัลลงดอร์อีกตั้งหาก เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของ บัลแกเรีย 5 ครั้ง ถูกเสนอชื่อเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีฟีฟ่าถึงสองครั้ง
4.แฟร้ง แลมพาร์ด เชลซี
แลมพาร์ด ย้ายมา เชลซี เมื่อปี 2001 ตลอดระยะเวลา 13 ฤดูกาล นับตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่น เขาเป็นกองกลางที่ทำประตูเยอะสุดตลอดกาล โดยกดไป 163 ประตู แลมพาร์ด พา เชลซี ได้แชมป์พรีเมียร์ถึง 2 ครั้ง FA Cup 3 ครั้ง UCL และยูโรป้าอย่างละครั้ง รางวัลส่วนตัวผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ 2 ครั้ง ติดทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่าหนึ่งครั้ง และได้รับการเสนอชื่อ PFA ถึง 5 ครั้งด้วยกัน
5.สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ทีม ลิเวอร์พูล
เด็กหนุ่มจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ ลิเวอร์พูล ครั้งแรกในปี 1998 ตลอดระยะเวลา 17 ฤดูกาลด้วยความภักดีและฝีเท้าที่โดดเด่น เขาได้รับเลือกให้เป็นกัปตันเมื่อปี 2003 หลังจากนั้น เจอร์ราร์ด ก็แสดงความเป็นผู้นำ โดยพา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ UCL ในปี 2005 ได้อย่างมหัศจรรย์ FA CUP 2 ครั้ง ลีกคัพ 3 ครั้ง และรู้หรือไม่ เจอร์ราร์ด เป็นนักเตะที่ทำประตูในนัดชิงได้ทุกๆ รายการบอลถ้วย ทั้งเกมส์ลีกและเกมส์ยุโรปเลย
6.อันเดรส อินเนียสต้า บาร์เซโลน่า
อินเนียสต้า เป็นผู้เล่นหลักของ บาร์เซโลน่า มาตั้งแต่ ปี 2004 จนถึงปี 2018 ได้แชมป์ลาลีกาถึง 8 ครั้งโคปาเดลเรย์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก มีส่วนสำคัญในการกวาด 6 แชมป์ในปี 2009 ให้กับ บาร์เซโลน่า และแชมป์โลก แชมป์ยูโร เป็นที่รู้กันดีว่าเขาคือผู้เล่นที่มีดิวิชั่นยอดเยี่ยม ความสามารถในการอ่านเกมส์ การผ่านบอล การเคลื่อนที่ เรียกได้ว่าเป็นนักเตะไอดอลให้ดาวรุ่ง หลายๆคนเลยทีเดียว นอกจากแชมป์กับสโมสรแล้ว รางวัลส่วนตัวของเฮียแกก็เบอะบานทั้งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีลาลีกา รางวัลเพลย์เมกเกอร์ยอดเยี่ยมของลาลีกาถึง 5 ครั้ง ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลก IFFHS ถึง 2 ครั้ง ได้รับการเสนอชื่อชิงบัลลงดอร์ถึง 3 ครั้ง
7.เฟดดริก ลุงเบิร์ก ทีม อาร์เซน่อล
เขาทำประตูได้ในนัดแรกที่ลงเล่นในเกมส์ที่พบกับ แมนฯยูไนเต็ด ในปี 1998 เขาสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งปีก และตำแหน่งอื่นที่เป็นเกมส์รุกได้เป็นอย่างดี มีส่วนสำคัญในการพา อาร์เซน่อล เป็นแชมป์พรีเมียร์ถึง 2 ครั้ง FA CUP และได้เข้าชิง UCL ในปี 2006 อีกด้วย ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ 1 ครั้ง นักเตะยอดเยี่ยมสวีเดน 2 ครั้ง และเป็นผู้เล่นอันดับที่ 11 จากผู้เล่น 50 คนที่ดีที่สุดตลอดการของ อาร์เซน่อล อีกด้วย
8.มาร์กเซล เดอไซญี่ ทีม ฝรั่งเศส,เอซี มิลาน
นักเตะเชื้อสายกาน่าที่ตัดสินใจเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสในปี 1993 แต่ติดทีมชาติในปี 1996 เดอไซญี่ ผนึกกำลังแดนกลางร่วมกับ ซีเนอดีน ซีดาน ในแดนกลาง เขาพาฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง หลังจาก ดิดิเยร์ เดชองส์ ประกาศเลิกเล่น เดอไซญี่ ได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีม และก็สวมเสื้อหมายเลข 8 ที่ เอซี มิลาน พา มิลาน เป็นแชมป์สคูเด็ดโต้ถึง 2 ครั้ง และอีก 2 ครั้งกับ โคปา อิตาเลีย และแชมเปี้ยนส์ลีก เขาได้รับเกียรติจาก เอซี มิลาน โดยถูกบรรจุชื่อลงในหอเกียรติยศของ เอซี มิลานด้วย