มาร์โก ซิลวา กับอนาคตที่ยากจะคาดเดาในทัพ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน

ซิลวา กับอนาคตที่ยากจะคาดเดาในทัพ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน

มาร์โก ซิลวา กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อธิบายการประชุมของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ก่อนเกมลีกกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ว่าต้องชนะ เขาไม่เพียงแค่ออกมาพูดด้วยถ้อยที่ขึงขัง แต่เขากำลังคิดว่าเก้าอี้ของตัวเองเต็มไปด้วยอันตราย

โค้ชชาวโปรตุเกสวัย 42 ปี กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลังพา เอฟเวอร์ตัน แพ้ไปแล้ว 4 เกม ในลีกซีซั่นนี้ ทั้งที่เป้าหมายของสโมสรคือ การมีความทะเยอทะยานติด 4 อันดับแรก เพื่อไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส ลีก

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในปัจจุบันของ เอฟเวอร์ตัน มันไม่ใช่สิ่งที่ ฟาร์ฮัด โมชิริ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ต้องการ เมื่อเขาอนุมัติค่าใช้จ่ายซื้อนักเตะใหม่จำนวนมหาศาลในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มันหมายถึงเกมกับ เวสต์แฮม จะเป็นการชี้ชะตาของ ซิลวา

เป็นโอกาสสุดท้ายของ ซิลวา หรือไม่ เนื่องจากมีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่เจ้าของ เอฟเวอร์ตัน ต้องการให้ โค้ชชาวโปรตุเกส เอาชนะให้ได้ทุกเกม แต่ความเป็นจริงที่โหดร้าย “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” กลับไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

คำพูดของ ซิลวา ในวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังความพ่ายแพ้ 1-0 ที่ เบิร์นลีย์ ซึ่งแฟนๆ เอฟเวอร์ตัน หลายพันคนก็ทราบดีถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ของสโมสร โดย 11 ตัวจริงของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” นั้น มีมูลค่ารวมกันกว่า 250 ล้านปอนด์ แต่ดูเหมือนจะไม่สร้างผลกระทบใดๆ ต่อ เบิร์นลีย์ ของกุนซือ ฌอน ไดซ์ ได้เลย

ฟอร์มการเล่นที่ไม่แน่นอนของ เอฟเวอร์ตัน ในฤดูกาลนี้ รวมถึงการพ่ายแพ้ต่อ 2 ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง แอสตัน วิลล่า และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด นั้น ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากภายในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค

ซิลวา ถูกตั้งเป้าหมายว่า ต้องพา เอฟเวอร์ตัน ไปเล่นฟุตบอลยุโรปให้ได้ นี่หมายถึงการจบใน 6 อันดับแรก หรือการได้ถ้วยรางวัลรายการใดรายการหนึ่งของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1995 และด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่เขาได้รับ รวมถึงความจริงที่ว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซน่อล กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านนั้น “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ก็ไม่สามารถมาเกาะอยู่ในกลุ่มท็อปซิกส์ได้

ในการเปรียบเทียบเพื่อทำให้ ซิลวา ต้องเครียดนั้น เอฟเวอร์ตัน อยู่ในอันดับใกล้เคียงกันกับเมื่อ โรนัลด์ คูมัน โค้ชชาวดัตช์ ถูกไล่ออกเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ในปี 2017 หลังจากการพ่ายแพ้คาบ้าน ต่อ อาร์เซน่อล 5-2 ซึ่งทำให้พวกเขาตกไปอยู่ในโซนตกชั้น โดยมี 8 คะแนนจาก 9 เกม

ความจริงที่ว่ามันคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว และไม่น่าประทับใจหมายความว่า ซิลวา กำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เอฟเวอร์ตัน ในตอนนี้ได้ระงับความกังวลของพวกเขา ความหวังยังคงอยู่ที่ผลลัพธ์ต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

อาจเป็นไปได้ว่า ซิลวา จะอยู่รอดได้นานกว่าเล็กน้อยแม้ในความพ่ายแพ้ แต่มันก็ชัดเจนมากขึ้นว่า ถ้าเจอกับ เวสต์แฮม เขาก็จำเป็นต้องชนะ และการแข่งขันฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบที่ 4 กับ วัตฟอร์ด ในวันที่ผ่านมา 29 ตุลาคมนี้ ก็คือเส้นทางเพิ่มเติมไปยังฟุตบอลยุโรป

บางคนที่รัก วัตฟอร์ด อาจเพลิดเพลินกับที่ ซิลวา โดนไล่ออกที่ เอฟเวอร์ตัน แม้ว่าท้ายที่สุดทั้งสองสโมสรจะยุติข้อพิพาทที่ยาวนานในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไปแล้วก็ตาม หลังจากที่ วัตฟอร์ด กล่าวหาว่า เอฟเวอร์ตัน แอบเจรจาดึงตัว โค้ชเลือดฝอยทอง ไปคุมทีม

ใครสามารถแทนที่ ซิลวา ที่ เอฟเวอร์ตัน ได้ มันยังคงเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวถึงในเวลานี้ โดยย้อนกลับไปในช่วงที่ คูมัน โดนไล่ออกนั้น เดวิด อันสเวิร์ธ อดีตนักเตะ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นการชั่วคราว

จากนั้น แซม อัลลาไดซ์ โค้ชชาวอังกฤษ เข้ามาคุมทีมเป็นการถาวรในสัญญา 18 เดือน แต่ บิ๊กแซม ถูกไล่ออกหลังจากทำงานได้เพียง 6 เดือน เนื่องจากแฟนๆ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน”แสดงความไม่พอใจต่อสไตล์การเล่นที่โบราณของเขา

มันเป็นบทเรียนที่มีราคาแพงสำหรับ เอฟเวอร์ตัน ที่จะต้องการหลีกเลี่ยงการทำความล้มเหลวซ้ำ ยังมีข้อเสนอแนะอีกว่าถ้า ซิลวา อำลาทีมไป อดีตผู้จัดการทีมอย่าง เดวิด มอยส์ น่าจะกลับมารับหน้าที่จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาลนี้

ในขณะที่ มอยส์ อาจจะรักษาระดับความเชื่อมั่นในห้องประชุมของ เอฟเวอร์ตัน ได้ แต่เราก็รู้กันดีกว่า ความล้มเหลวตั้งแต่ที่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เรอัล โซเซียดาด, ซันเดอร์แลนด์ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ทำให้เจ้าของสโมสรต้องคิดหนัก

โมชิริ ที่ครั้งหนึ่งเคยบรรยายถึงทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษว่า “Hollywood of football” เขาใช้เงินมากกว่า 450 ล้านปอนด์ เพื่อพยายามทำให้ เอฟเวอร์ตัน เป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์นั้น และกลายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ

ขณะเดียวกัน มอยส์ ไม่ได้คว้าแชม์รายการใดเลยในเวลา 11 ปีที่ กูดิสัน ปาร์ค การนำเขากลับมาแทบจะไม่เหมาะกับแผนการของ โมชิริ โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ความสำเร็จที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน นำมาสู่ ลิเวอร์พูล

มิเกล อาร์เตต้า อดีตกองกลาง เอฟเวอร์ตัน ถูกกล่าวถึงเมื่อ คูมัน ถูกไล่ออก แต่ในตอนนี้เขาจะถูกเชื้อเชิญให้เดินออกจากบทบาทในฐานะมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไหม เขายังไม่ได้รับการทดสอบเลยในฐานะผู้จัดการทีม

โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุกีส ซึ่งปัจจุบันไม่ทำงานได้รับการโน้มน้าวจากบางคน แต่สิ่งนี้อยู่ในอาณาจักรแห่งจินตนาการ อดีตผู้จัดการทีมชื่อดังอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ขณะที่ เอ็ดดี้ ฮาว โค้ชของ บอร์นมัธ เป็นแฟน เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่เด็ก ดูเหมือนว่า เขาจะยังสนุกกับชีวิตบนชายฝั่งทางใต้ที่และไม่คิดอำลาสโมสรในเร็วๆนี้

มาร์เซล แบรนด์ส ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของ เอฟเวอร์ตัน มีความรู้ในเกมฟุตบอลยุโรป ดังนั้นตัวเลือกระยะยาวอาจมาจากต่างประเทศหรือไม่ มาร์โค โรส ได้พา โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ทำผลงานได้ดีในศึดบุนเดสลีกา และเคยทำได้ดีที่ เรดบูลล์ ซัลส์บวร์ก และมีการเปรียบเทียบว่า เขามีสไตล์คล้ายกับ คล็อปป์

ไม่มีใครกระโดดออกจากข่าวนี้ได้ ซึ่งตอนนี้อาจเป็นเพียงแค่การประวิงเวลาของ ซิลวา โดย โมชิริ ซึ่งเป็นเจ้าของหุ้น 77.23% ของจำนวนหุ้น 35,000 หุ้นของ เอฟเวอร์ตัน จะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย ซึ่งจะได้รับคำแนะนำจาก แบรนด์ส เช่นกัน

ตอนนี้อาจเป็นเพียงแค่การประวิงเวลาของ ซิลวา

แบรนด์ส ที่มาถึงไม่นานก่อน ซิลวา จะมาคุมทีม เขาเข้าร่วมคณะกรรมการของ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่ออ้างอิงจากผู้บริหารระดับสูงอย่าง เดนิส บาร์เร็ตต์ และ บาแซ็น เดล ซึ่งเขาได้รับการรับผิดชอบงานในวงกว้างมากขึ้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง แบรนด์ส เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดใน เอฟเวอร์ตัน เขามีความแตกต่างกับ โมชิริ เขาเลือกที่จะไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ขณะที่ โมชิริ แสดงความโน้มเอียงที่จะสนับสนุนความต้องการของแฟนบอล โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่พอใจ และได้ไล่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ, คูมัน และ อัลลาไดซ์ ออกจากตำแหน่ง

บิล เคนไรท์ ประธานสโมสร เอฟเวอร์ตัน จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งต่อไป แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นของเขาจะอยู่ที่ 5% อย่างไรก็ตามคำพูดของ แบรนด์ส อาจจะเป็นรูปแบบที่เจ้าของ โมชิริ เลือกเมื่อตัดสินใจอนาคตของ ซิลวา

ซิลวา ดิ้นรนเพื่อแก้ไขความล้มเหลวของตัวเอง เขาทำการฟื้นฟูทีมเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ เอฟเวอร์ตัน จบอันดับที่ 8 พร้อมเก็บชัยชนะในบ้านเหนือทีมอย่าง เชลซี อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด รวมถึงเสมอกับ ลิเวอร์พูล แบบไม่เสียประตู

ในเรื่องของขุมกำลังนักเตะ เอฟเวอร์ตัน เสียหายอย่างมากที่ปล่อยตัว อิดริสซา กานา เกย์ กองกลางชาวเซเนกัล ให้กับ ปารีส แซงกต์ แชร์กแมง รวมถึงต้องปล่อย เคิร์ท ซูม่า กองหลังชาวฝรั่งเศสที่ยืมตัวมา คืนไปยัง เชลซี

ขณะเดียวกัน ซิลวา ก็ล้มเหลวในการคว้าตัว มอยเซ่ คีน หัวหอกดาวรุ่ง จาก ยูเวนตุส มาร่วมทีม โดยดาวยิงวัย 19 ปี ไม่ได้โชว์ฟอร์มได้ตามที่หวังเอาไว้ ทำให้ ซิลวา ต้องพึ่งพา โดมินิก แคลเวิร์ต – เลวิน กองหน้าเด็กปั้นของสโมสรอย่างหนักเพื่อทำประตู

ดูเหมือนว่า ซิลวา จะถูกยึดติดกับระบบ 4-2-3-1 ของเขา ซึ่งยืดหยุ่นและดูเหมือนไม่มีพลังที่จะเปลี่ยนการแข่งขันที่ดีได้ ปัญหาหลักคือ การขาดกองกลางตัวคุมเกม และความล้มเหลวในการป้องกันในแนวรับ

ในพรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน ชนะไปแล้ว 23 เกม และแพ้ไป 19 เกม ซี่ง ซิลวา ดูเหมือนว่า จะได้สร้างทีม เอฟเวอร์ตัน บนรากฐานของความไม่แน่นอนและอัตราการชนะของ เอฟเวอร์ตัน ที่บ้าน ภายใต้การคุมทีมของ ซิลวา นั้น จากการแข่งขัน 26 นัด คือ 53.85% และออกนอกบ้านคือ 26.92%

เอฟเวอร์ตัน เสียไปแล้ว 13 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่แย่ที่สุดร่วมกับ วัตฟอร์ด โดยทีมของ ซิลวา เสียไป 24 ลูก นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018 โดยมีเพียง วัตฟอร์ด ที่เสียมากกว่าพวกเขา คือ 25 ลูก มันแสดงให้เห็นว่าเขากำลังดิ้นรนเพื่อหาทางแก้ไขทั้งในสนามแข่งขันหรือบนสนามฝึกซ้อม

มีข่าวลือออกมาว่า ผู้เล่นบางคนพบว่าการฝึกซ้อมของ ซิลวา ยาวนาน และลำบาก แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับทีมที่ต้องดิ้นรนในฟอร์มที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะจากผู้เล่นที่ไม่ได้เป็นตัวจริง และคำว่าทีมส่วนใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน นั้น สนุกกับงานของ ซิลวา

อย่างไรก็ตามเมื่องานที่ดีดูเหมือนว่า จะหายไปเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างสนามฝึกซ้อมและวันแข่งขัน ในการป้องกันของ ซิลวา เขามักปล่อยให้ผู้เล่น เอฟเวอร์ตัน ยืนคุมโซนและรับผิดชอบพื้นที่ในสนามมากเกินไป ซึ่งมันเป็นงานยากสำหรับกองหลัง

กลยุทธ์ของ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การดูแลของ แบรนด์ส ในขณะนี้คือ การซื้อนักเตะในระยะยาวโดยมีผู้เล่นที่สามารถพัฒนา และมีมูลค่าขายต่อได้ แต่ด้วยสโมสรอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกันในช่วงฤดูร้อนนี้ จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นสำหรับที่นี่

วิธีการระยะสั้นไม่ได้ใช้กับ เอฟเวอร์ตัน ในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า พวกเขาปฏิเสธที่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ และในขณะที่ แบรนด์ส ได้รับเครดิตอย่างถูกต้องสำหรับการเซ็นสัญญาที่ดีหลายครั้ง ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นฤดูกาลด้วยช่องโหว่ในทีม

ไม่มีการเซ็นสัญญาทดแทน หรืออาจจะไม่มีใครเสนอความพึงพอใจของ ซิลวา เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่ ซูม่า ทิ้งเอาไว้ และ เอฟเวอร์ตัน ยังไม่ได้แทนที่อดีตกองหน้าอย่าง โรเมลู ลูกากู ซึ่งย้ายไปยัง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตั้งแต่ในเดือนกรกฎาคม ปี 2017

เซงก์ โทซุน หัวหอกขาวตุรกี และ ธีโอ วัลคอตต์ ปีกชาวอังกฤษ ถูกซื้อมาโดย อัลลาไดซ์ ขณะที่ ริชาร์ลิสัน ดาวยิงแซมบ้า ถูก ซิลวา คว้าตัวมาจาก วัตฟอร์ด ในราคามหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ แต่ก็ถูกจับไปเล่นเป็นปีก
ในขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ขาดผู้เล่นในตำแหน่งสำคัญ พวกเขายังต้องปล่อยนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกจากสโมสร อาทิ อูมาร์ นีอัสส์ หัวหอกชาวเซเนกัล ที่ย้ายมาตั้งแต่ปี 2016 และลงเล่นไปเพียง 32 เกม ยังคงอยู่กับสโมสร

ขณะเดียวกัน ซิลวา ก็เจอกับโชคร้ายจากการบาดเจ็บของนักเตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง กองกลางตัวรับทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ที่ซื้อมาจาก ไมนซ์ 05 เพื่อเป็นตัวแทนของ กานา เกย์ นั้น เจ็บยาวจนถึงปีใหม่หลังจากการผ่าตัดในปัญหาต้นขาที่ร้ายแรงในการฝึกซ้อม

อังเดร โกเมซ กองกลางชาวโปรตุเกส ก็ยังได้ด้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน และนักเตะใหม่อย่าง ฟาเบียน เดล์ฟ กองกลางชาวอังกฤษ ที่ย้ายมาจาก แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ นั้น ก็ไม่ส่งผลกระทบใดต่อทีมเลย

ความล้มเหลวของ เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถวางไว้ที่บนไหล่ของ ซิลวา ได้เพียงคนเดียว แต่เขาจะรู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร ถ้าผลลัพธ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าต่อจากนี้

ความล้มเหลวของ เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถวางไว้ที่ ซิลวา

เนื้อหาใกล้เคียง