ลาร์ส ริคเค่น กล่าว “ที่ ดอร์ทมุนด์ เราจะไม่ซื้อซุเปอร์สตาร์ แต่เราจะสร้างพวกเขาขึ้นมา”

ริคเค่น เชื่อว่าแฟนๆ เสือเหลือง จะยังคงให้กำลังใจทีมต่อไป

มันเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่ จาดอน ซานโช่ ตัวรุกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ที่ย้ายมาจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ได้ลงเล่นในเกมลีกเป็นนัดแรกให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน

ดูจากสถิติผลบอล 7m ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซานโช่ กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ 22 ประตูในลีกโดยใช้เวลาเร็วที่สุดให้กับ ดอร์ทมุนด์ และเป็นอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ 10 ประตู ใน 1 ฤดูกาล ในปี 2018-19 ซึ่งอดีตเด็กปั้น แมนฯซิตี้ กลายเป็นการทำธุรกิจที่คุ้มค่าอย่างยิ่งของ “เสือเหลือง”

ลาร์ส ริคเค่น ตำนานอดีตมิดฟิลด์ ดอร์ทมุนด์ และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาเยาวชนของสโมสร กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “วิธีการที่เราทำสิ่งต่างๆ มันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือไม่ได้ตั้งใจแต่อย่างใด มันเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจน และแน่วแน่ว่า เราจะไม่ซื้อซุปเปอร์สตาร์ แต่เราจะสร้างพวกเขาขึ้นมา”

ดอร์ทมุนด์ สามารถทำกำไรได้มหาศาลตามที่คาดไว้หากพวกเขาปล่อย ซานโช่ ออกจากถิ่นเวสต์ฟาเลนสตาดิโอน โดยดาวเตะวัย 19 ปี ซึ่งย้ายมาจาก แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์นั้น ถูกประเมินราคาค่าตัวไว้มากกว่า 100 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน ในเดือนมกราคมปี 2019 ดอร์ทมุนด์ ขายนักเตะดาวรุ่งอีกคนหนึ่งได้กำไรอย่างมหาศาล นั่นคือการปล่อย คริสเตียน พูลิซิส ปีกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ให้กับ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 58 ล้านปอนด์

เมื่อไม่นานมานี้ ดอร์ทมุนด์ ได้ทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่งด้วยการปาดหน้า “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัว เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ หัวหอกดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ ของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมดังแห่งลีกออสเตรีย ไปล่าตาข่าย

ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดอร์ทมุนด์ ก็ได้ตัวผู้เล่นอายุน้อยฝีเท้าดีอีกรายหนึ่งมาร่วมทีม นั่นคือ โจวานนี เรย์นา มิดฟิลด์ตัวรุกดาวรุ่งชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นลูกชาย เคลดิโอ เรย์นา อดีตกองกลางของ แมนฯซิตี้ และดาวเตะวัย 17 ปี ก็ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ “เสือเหลือง” เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

“เราพัฒนาพวกเขาให้เป็นซุปเปอร์สตาร์” ปรัชญาของ ดอร์ทมุนด์ เกิดขึ้นจากวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ทำให้สโมสรต้องเผชิญกับปัญหาในปี 2004 ซึ่งเป็นเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ ริคเค่น ซัดประตูในคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร และพา “เสือเหลือง” คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรก

ดอร์ทมุนด์ ชุดสุดท้ายที่คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเมื่อปี 2012 ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้น มีนักเตะที่ถูกปั้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสรอย่าง มาริโอ เกิตเซ่ และ มัทส์ ฮุมเมิลส์ และต่อมาดาวเตะทั้ง 2 รายถูกขายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในราคารวมกัน 60 ล้านปอนด์

ริคเค่น กล่าวต่อว่า “อุสมาน เดมเบเล่ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์เมื่อพวกเขาย้ายมาที่ ดอร์ทมุนด์ และเราพัฒนาพวกเขาให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับสโมสร”

“เหตุผลที่บรรยากาศในสนามของเรานั้นดี เพราะเรามีเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมระหว่างตัวนักเตะกับแฟนบอล และแฟนบอลก็แสดงให้นักเตะได้เห็นว่า มันเป็นของขวัญอันล้ำค่าสำหรับพวกเขาที่ได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้”

“เราได้เซ็นสัญญากับผู้เล่นที่ดีจริงๆ แต่เราก็ยังมีดาวรุ่งฝีเท้าดีอีกหลายคน ฮาแลนด์ อายุ 19 ปี จีโอ อายุ 17 ปี พวกเขามีฝีเท้าที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นพวกเขาเล่นในสโมสรของเรา” อดีตกองกลาง ดอร์ทมุนด์ กล่าว

ลาร์ส ริคเค่น ตำนานอดีตมิดฟิลด์ ดอร์ทมุนด์

ความรวดเร็วเป็นกุญแจสำคัญที่ไม่เป็นความลับเลยสำหรับนโยบายการค้นหานักเตะของ ดอร์ทมุนด์ โดยที่ ริคเค่น, ทีมงานแมวมอง และสตาฟฟ์โค้ช ช่วยกันมองหานักเตะที่เหมาะสมกับทีม และพยายามที่จะคว้าตัวนักเตะอายุน้อยมาพัฒนา

ริคเค่น เล่าต่อว่า “ทักษะทางเทคนิคมีความสำคัญมาก และรวมไปถึงความรวดเร็วในการเคลื่อนไหว ซึ่งผู้เล่นในทีมชุดแรกของเรานั้น มีความเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรามีผู้เล่นย้ายมาจากต่างประเทศ ซึ่งกำลังเล่นให้กับอายุต่ำกว่า 17 ปีของเรา และเขายังไม่เร็วพอ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะไม่เร่งเขาเข้าไปซ้อมกับทีม มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำแบบนั้น”

“สิ่งต่อมาคือ เรื่องจิตใจ ซึ่งเราใส่สิ่งนี้ไปในตัวผู้เล่นเยอะมาก โรงเรียน,ฟุตบอล,ทีมชาติ เรื่องทั้งหมดนี้ใช้เวลา 70 หรือ 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สำหรับเด็กเหล่านี้ พวกเขาต้องโตขึ้น มีสมาธิ และมีวินัยทั้งที่พวกเขาอายุยังน้อยมาก เป้าหมายของเราคือ การให้ความรู้แก่ผู้เล่นจาก ดอร์ทมุนด์ และพื้นที่ใกล้เคียง”

“แต่ถ้าเราพบผู้เล่นจากต่างประเทศที่มีศักยภาพ เราพร้อมเสี่ยงที่จะลอง และเซ็นสัญญากับพวกเขา แต่เราจะไม่นำพวกเขาจาก อเมริกา, อังกฤษ หรือ สเปน เพื่อทำให้ทีมชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือต่ำกว่า 19 ปีของเราดีขึ้น เราต้องการค้นหาสิ่งพิเศษ เราค่อนข้างประสบความสำเร็จกับนักเตะอย่าง พูลิซิส, จิโอวานี่ เรย์น่า และ ยาค็อบ บรูน ลาร์เซ่น” ริคเค่น กล่าว

ลาร์เซ่น เป็นนักเตะชาวเดนมาร์ก ซึ่งย้ายมาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 2015 ด้วยวัยเพียง 16 ปี และถูกขายให้กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร และตอนนี้ “เสือเหลือง” ยังมีดาวรุ่งฝีเท้าดีหลายคนที่รอขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ อาทิ แบรดลี่ย์ ฟริงค์ หัวหอกชาวสวิตเซอร์แลนด์, อิมมานูเอล เปห์ไรย์ กองกลางชาวดัตช์ และ ยูสซูฟา มูโกโก้ กองหน้าชาวแคเมอรูน

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งที่กล่าวมานั้น เรย์น่า ได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เร็วกว่าคนอื่นๆ โดย ริคเค่น อธิบายว่า “เมื่อ จิโอ มาถึง ดอร์ทมุนด์ เรารู้ทันทีว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นชั้นยอด นั่นไม่ใช่คำถามเลย คำถามคือว่า เมื่อไหร่เขาจะเล่นให้กับทีมชุดแรก จะเดือนนี้หรืออีกครึ่งปี แต่ทุกคนแน่ใจว่า เขาจะได้เล่นแน่นอน”

ดอร์ทมุนด์ มองว่าพวกเขาเป็นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ และใช้มาตรฐานระดับสูงในระดับฟุตบอลอาชีพ และนอกจากนี้ พวกเขายังตระหนักถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับการพาผู้เล่นเยาวชนเข้ามาร่วมทีมผ่านระบบของพวกเขา

ริคเค่น กล่าวว่า “หากพวกเขามีปัญหาในโรงเรียนหรือในส่วนอื่นๆของชีวิต พวกเราต้องการแก้ปัญหาให้พวกเขาทันที เรามีนักจิตวิทยาคอยช่วยเหลือ และที่นี่เราไม่เพียงแต่เลือกโค้ชของเราเพราะทักษะการฝึกซ้อมเท่านั้น แต่เราเลือกเพราะพวกเขามีความสามารถด้านอื่นๆอีกมาก”

ดอร์ทมุนด์ มีแฟนบอลเข้าชมเกมในสนามเฉลี่ยสูงสุดในยุโรปเกือบ 80,000 คน ต่อเกม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาคว้าแชมป์รายการล่าสุดตอนย้อนกลับไปถึงปี 2012 ในยุคของ คล็อปป์ ที่พาทีมคว้าถ้วยฟุตบอลเยอรมัน คัพ

ลูเซียน ฟาฟร์ กุนซือชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นโค้ชคนที่ 4 จาก 5 ซีซั่นของ ดอร์ทมุนด์ ก็พยายามอย่างยิ่งในการพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และ ริคเค่น เชื่อว่าแฟนๆ “เสือเหลือง” จะยังคงให้กำลังใจทีมต่อไป

“ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลสุดท้ายภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในปี 2014-15 เราอยู่อันดับที่ 17 ในตารางคะแนน แต่แฟนๆก็ยังให้กำลังใจเรา และเมื่อเราแพ้ พวกเขาก็ยังคงให้กำลังใจนักเตะเพื่อทำให้พวกเขาสู้ในเกมต่อไป”

“ถ้วยรางวัลมีความสำคัญมากกับทุกสโมสร แต่สำหรับ ดอร์ทมุนด์ ทัศนคติที่คุณเล่น ความหลงใหลอารมณ์ และการไม่ยอมแพ้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด” ริคเค่น กล่าว

ริคเค่น อธิบายว่า เมื่อ จิโอ มาถึง ดอร์ทมุนด์ เรารู้ทันทีว่าเขาเป็นผู้เล่นชั้นยอด

เนื้อหาใกล้เคียง