วาทะกรรมของสองตำนานนักเตะที่พูดทีเดียว เป็นตราบาปทั้งชีวิต

วาทะกรรมของสองตำนานนักเตะที่พูดทีเดียว เป็นตราบาป

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการลูกหนังที่น่านใจนั้นยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่คุณอาจจะรู้มาแล้ว หรือยังไม่รู้ก็มีอยู่มากมายเลยทีเดียว และแน่นอนว่าสาระด้านลูกหนังวันนี้ ก็มีอีกมากมายที่เราจะนำมาตีแผ่ให้ทุกคนได้ชมกัน !

คาดเดาอนาคตทีเดียว โดนล้อยันลูกบวชของ อลัน แฮนเซ่น

มีหลายครั้งเลยทีเดียวที่เกิดการฟันธงอะไรที่ผิดพลาดจากนักเตะระดับตำนานที่ผ่านศึกเหนือใต้มาอย่างโชกโชน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็เยอะ แต่ก็ใช่ว่าประสบการณ์ในเชิงลูกหนังของพวกเขา มันจะทำให้สามารถวิเคราะห์หรือฟันธงอะไรได้เด็ดขาดหรือแม่นยำเสมอในในวงการลูกหนัง อย่างเช่นสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับ อลัน แฮนเซ่น ตำนานปรากหลังชื่อดังของสโมสรลิเวอร์พูลยุครุ่งเรือง

อลัน แฮนเซ่น คือสุดยอดตำนานกองหลังที่มีโทนจังหวะการเล่นที่แสนจะลาดปราดเปรื่อง ใช้สมองในการเล่นอย่างมาก สามารถจับคู่ร่วมกับเพื่อนได้อย่างลงตัวในการเล่น เขามักจะเป็นนักเตะสไตล์ดักซ้อนเก็บบอลในจังหวะที่ 2 อ่านเกมขาด สุขุม สงบนิ่ง และยังเป็นตัวหลักของทีมชาติสกอตแลนด์มาก่อนด้วย เขาคว้าแชมป์มาแล้วหลายรายการกับลิเวอร์พูล และแน่นอนว่าด้วยมันสมองของเขานั้น ทำให้การวิเคราะห์อะไรแต่ละครั้ง มันเลยทำให้แฮนเซ่นค่อนข้างจะได้รับความเชื่อถืออย่างมาก

หลังจากที่ แฮนเซ่น แขวนสตั๊ด เขาก็ได้ทำงานด้านวิเคราะห์เกมเหมือนที่นักเตะอาชีพหลายคนได้ทำกันหลังแขวนสตั๊ด แต่หัวข้อการวิจารณ์ของเขาก็คือ การวิจารณ์สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ชื่อว่าเป็นอริตัวเป้งของ ลิเวอร์พูล ต้นสังกัดเก่าของ แฮนเซ่น นั่นเอง

แฮนเซ่น วิจารณ์ว่านักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดันขึ้นมาจากทีมเยาวชนชุดแชมป์เอฟเอ ยูธคัพ ในปี 1992 นั้นมันคือสิ่งที่สิ้นคิด และคนอย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (ในเวลานั้น ยังไมได้มียศท่านเซอร์นำหน้า) ไม่มีทางฝากผีฝากไข้เอาไว้กับเด็กพวกนี้ได้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว

กลุ่มนักเตะวัยรุ่นที่ “เฟอร์กี้” ดันขึ้นมาจากทีมเยาวชนของยูไนเต็ดก็คือ พี่น้องตระกูล เนวิลล์ , เดวิด เบคแฮม , นิกกี้ บัตต์ , ไรอัน กิ๊กส์ , พอล สโคลส์ ซึ่งนักเตะเหล่านี้ ได้ก้าวขึ้นมาร่วมงานกับสตาร์รุ่นพี่ในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตัวของ เอริค คันโตนา , ลี ชาร์ป , เดนนิส เอร์วิน , สตีฟ บรูซ , แกรี่ พัลลิสเตอร์

หลังจากนั้นก็ไม่ต้องกล่าวถึงเลย เพราะกลุ่มนักเตะที่แฮนเซ่นเคยค่อนขอดในฝีเท้านั้น สามารถพาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้หลายสมัยเลยทีเดียว มีแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์รายการอื่นๆอีกมากมาย (ขาดไม่ได้กับการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1998-99) และมันก็ทำให้คำพูดที่ แฮนเซ่น เคยวิเคราะห์เอาไว้นั้นกลายเป็นเรื่องตลกที่แฟนบอลและนักวิจารณ์หลายคนในสมัยนั้น เอามาล้อเลียนกันอย่างสนุกเลยทีเดียว !

การโดนไล่ออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติสุดแปลก

การโดนไล่ออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติสุดแปลกของ เกล็น ฮอดเดิ้ล

ปกติแล้วนั้นการไล่ผู้จัดการทีมสักคนออกจากตำแหน่ง หลักๆเลยก็คือผลงานต้องแย่มาจนเกินอภัยแล้ว หรือถ้าหากว่ามีอะไรที่มันมากกว่านี้ก็คืออย่างเช่นมีปัญหากับเบื้องบนอย่างหนัก หรือมีเหตุสุดวิสัยบางอย่างที่ทำให้มีการขอยกเลิกสัญญากันไปแบบนั้น แต่มันมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตำนานจอมทัพทีมชาติอังกฤษอย่างตัวของ เกล็น ฮอดเดิ้ล อดีตมิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 1986 นี่ได้ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติอังกฤษหลังจากแขวนสตั๊ดนั่นเอง !

จอมทัพทีมชาติอังกฤษรายนี้ ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นเทรนเนอร์ของทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และได้พาทีมไปเล่นในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยนักเตะอังกฤษชุดดังกล่าวนั้น มีพวกสตาร์นักเตะดาวรุ่งหลายต่อหลายคนที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับสตาร์ ไม่ว่าจะเป็น พอล สโคลส์ , ไมเคิล โอเวน , นิกกี้ บัตต์ , เดวิด เบคแฮม และอีกหลายคนเลยทีเดียว

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ตัวของ ฮอดเดิ้ล มากกว่า เมื่อตัวของเขาพาทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังจากที่อังกฤษได้พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ว่าทางด้านของ ฮอดเดิ้ล ที่ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก FA ให้ทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ของทีมชาติอังกฤษต่อไป

แต่อารมณ์คนปากตรงและอยู่ไม่สุขของ ฮอดเดิ้ล นี่เองที่พาซวย เมื่อตัวขอเขาดันไปเปิดปากพูดถึง “คนพิการ” ว่า

“คนพิการคือคนที่เกิดมาเพราะมีกรรม”

ด้วยประโยคแบบนี้นี่เอง ทำให้ ฮอดเดิ้ล โดนแฟนบอลจำนวนมาก , สื่อ และนักวิจารณ์โจมตีอย่างหนักถึงคำพูดที่ไม่เหมาะสมของ ฮอดเดิ้ล มันเป็นกระแสกดดันที่ทำให้ FA ต้องพิจารณาแล้วว่าถ้าหากว่ายังปล่อยให้ ฮอดเดิ้ล ทำงานเป็นเทรนเนอร์ของทีมชาติอังกฤษต่อไป ภาพลักษณ์ของนักเตะทีมผู้ดี อาจจะถึงคราวหม่นหมองแน่ เพราะมันเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก

ท้ายที่สุดนั้น ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้ FA จึงตัดสินใจสั่งปลด ฮอดเดิ้ล ออกจากการทำงานเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติอังกฤษ และยังถือว่าเป็นเทรนเนอร์รายแรกที่โดนปลดจากตำแหน่งโดยที่ไม่ได้เกิดจากการที่เขาทำผลงานให้กับทีมได้ไม่ดี แต่เป็นเพราะ “ปาก” ล้วนๆเลยนั่นเอง

FA จึงตัดสินใจสั่งปลด ฮอดเดิ้ล ออกจากการทำงาน

เนื้อหาใกล้เคียง