กดสูตรติด ! สตาร์นักเตะกับไม้ตายเฉพาะตัว

สตาร์นักเตะกับไม้ตายเฉพาะตัว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับการสับขาหลอก

นักเตะชาวโปรตุเกสรายนี้ คือยอดนักเตะแห่งยุคที่เกิดมาเพื่อเป็นสตาร์อย่างแท้จริง ด้วยคาแรคเตอร์ที่โปรดปรานการทำประตู การเอาชนะคู่แข่ง และพยายามตัดสินเกมด้วยตัวเอง มันคือสิ่งที่ฝังอยู่ในสายเลือดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลยก็ว่าได้

เราอาจจะชินชากับการเข้าฮอร์สบ้าง การลากเลื้อยในพื้นที่ 20-15 เมตรสุดท้ายบริเวณเขตโทษของคู่แข่งจากฝีเท้าอันรวดเร็วของ โรนัลโด้ และด้วยพละกำลัง บอดี้ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ และความเข้าใจเกมสูง มันเลยทำให้ โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งและเบียดปะทะกับนักเตะฝั่งตรงข้ามได้อย่างสบายๆ

แต่จุดที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของกองหน้ารายนี้ก็เห็นจะเป็น การใช้ท่า “ไซส์เซอร์” หรือการสับขาหลอกด้วยขาสองข้าง บวกกับใช้ความเร็วในการครองบอลไปด้วยนั่นเอง

การสับขาหลอกของ โรนัลโด้ ไม่ได้แค่ว่าสับขาอยู่กับที่ แต่เขาสามารถครองบอลเคลื่อนที่จี้เข้าหากองหลังได้ด้วย และเมื่อได้จังหวะ เขาก็จะแตะบอลหลบคู่ต่อสู้ที่ยืนขาตายไปได้อย่างสบายๆ ซึ่งเขาทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่งจนมีฉายาว่า “ปีกจอมสับ” มาแล้วด้วย

จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าด้วยวัยของเจ้าตัวจะโรยราลงไป และการใช้ลีลาอันน่าตื่นตาตื่นใจของ โรนัลโด้ จะหายไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ขอแค่ลองมีโอกาสได้ดวลตัวต่อตัวกับคู่ต่อสู้ รับรองว่าเขาจะงัดทีเด็ดแบบนี้ออกมาใช้แน่นอน

โรนัลดินโญ่ กับการใช้ท่าล็อกหลบ “อีลาสติโก้”

ยอดนักเตะบราซิเลียนนั้น มักจะมีลีลาการเล่นในสไตล์แซมบ้าที่จัดจ้าน ลอกเลียนแบบได้ยาก แม้แต่กองหลังบางทียังทีเทคนิคเฉพาะตัวที่เด็ดดวงไม่แพ้ตัวรุกด้วยซ้ำ ขอแค่ว่าพวกคุณเกิดมาในประเทศบราซิลและเล่นฟุตบอล ยังไงๆลีลาการเล่นด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่เหลือเชื่อ มันเหมือนว่าเป็นยีนส์ตกทอดของชาวบราซิลเลยทีเดียว

และแน่นอนว่านักเตะอย่าง โรนัลดินโญ่ ตำนานจอมทัพทีมชาติบราซิลรายนี้ก็เป็นนักเตะที่มีลีลาบราซิลที่โดดเด่น เพลินตา และเรียกเสียงปรบมือให้กับแฟนบอลได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

R10 ถนัดในการเลี้ยงบอลด้วยความเร็วสูง ลีลายึกยักจับทางยากของเขานั้นทำให้กองหลังที่พยายามจะแย่งบอลจากเท้าของเขา กลายเป็นเข้าพรวด หรือจั่วลมบ่อยครั้งเลยทีเดียว และเขายังเก่งกาจในเรื่องการสร้างสรรค์เกม จ่ายบอล และยิงประตูที่แม่นยำทั้งในจังหวะโอเพนเพลย์ และ เซ็ตเพลย์

แต่ท่าไม้ตายที่ถือว่าเป็นลูกหากินของ โรนัลดินโญ่ ก็คือท่า “อีลาสติโก้” หรือถ้าเรียกในชื่อแบบสไตล์ยุโรปก็คือ “ฟลิปแฟลป” เทคนิคแบบนี้ก็มีอะไรมาก โรนัลดินโญ่ จะใช้เท้าถนัดของเขาในการเกี่ยวล็อกบอล

จากที่ทำท่าจะเลี้ยงบอลออกขวา ก็จะกลายเป็นใช้หลังเท้าผสมผสานกับข้อเท้าหน่อยๆพลิกบอลออกไปอีกทางหนึ่งแทนนั่นเอง ซึ่งทำให้กองหลังที่พร้อมจะดักทางของ R10 มีอันต้องหลังหักกันไปตามๆกัน

ฮูโก้ ซานเชซ จอมตีลังกาในตำนานแห่งทัพจังโก้

นักเตะหลายคนนั้น มีทีเด็ดประจำตัวที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับนักเตะเกมรุก ที่พวกเขาจะต้องติดอาวุธให้กับตัวเองให้มากที่สุดเพื่อเอาไว้งัดกับกองหลังฝั่งตรงข้าม และแน่นอนว่านักเตะที่มีความคมในการทำประตูในเขตโทษอย่างตัวของ อูโก้ ซานเชซ กองหน้าระดับตำนานชาวเม็กซิกัน คือสุดยอดนักเตะที่มีทีเด็ดในการทำประตูชั้นยอดที่น้อยคนจะเลียนแบบ หรือทำได้บ่อยๆเช่นตัวของเขา

กองหน้ารายนี้ มีเท้าซ้ายที่คมกริบในการทำประตูเป็นอย่างมาก ยิงประตูได้ระเบิดเถิดเทิงในการเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเขาได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของลาลีกาถึง 5 สมัยเลยทีเดียว และยังได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของยุโรปมาแล้วในช่วงต้นยุค 90

ว่าแต่นักเตะแบบเขายิงประตูแบบไหน ก็อย่างเช่นการเข้า ฮอร์ส การพาบอลเข้าไปยิงเอง เล่นประสานงานกับคู่พาร์ทเนอร์ในแดนหน้าอย่าง เอมิลิโอ บูตราเกนโญ และซัลโวเข้าข้อด้วยเท้าซ้ายที่เป็นอาวุธเด็ดของเขาเข้าไป

แต่ว่าสิ่งที่ ซานเชซ ทำได้อยู่บ่อยครั้งเลยก็คือ การ “ตีลังกายิงประตู” เจ้าตัวถือว่าเป็นนักเตะที่มีพลังข้อเท้าน่าทึ่งสุดๆ เขาสามารถกระโดดแล้วฟาดบอลเหนือหัวด้วยท่ายิงโอเวอร์เฮดได้เด็ดขาด แม่นยำ กะจังหวะได้ยอดเยี่ยม ทำให้เจ้าตัวทำประตูด้วยลูกยิงตีลังกาได้บ่อยครั้งจนเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาไปแล้ว

ลิโอเนล เมสซี่ กับการเลี้ยงบอลเข้าไปยิง

เราคงไม่ต้องสาธยายกับนักเตะรายนี้ให้มากนัก เมสซี่ ทำดีทุกอย่างเลยในบทบาทเกมรุก เขาสามารถเลี้ยงบอลเข้าไปยิงเองก็ได้ จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้ ยิงได้คมทั้งจังหวะเล่นลูกตั้งเตะและโอเพนเพลย์

แต่สิ่งที่ เมสซี่ ทำได้เด่นมากที่สุดเลยก็คือ การเลี้ยงบอลนี่เอง เจ้าตัวเลี้ยงบอลได้ติดเท้า แย่งยาก สามารถเลี้ยงฝ่าดงแนวรับเข้าไปทำประตูหรือพาสบอลต่อให้เพื่อนทำประตูได้อย่างง่ายดาย และเขาทำแบบนี้มาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้วด้วย

ไมเคิล เลาดรู๊ป กับการเลี้ยงบอลแตะหลบ 2 เท้า

จอมทัพระดับตำนานชาวเดนมาร์ก เป็นยอดนักเตะที่มีลีลาการเล่นอันเหนือชั้น และยังถือว่าเป็นนักเตะที่ “โคตรใจกว้าง” ที่สุดแล้วในวงการลูกหนัง เพราะเขามีสถิติการยิงประตูที่อาจจะน้อยไปบ้าง (แต่ก็แตะหลักร้อยในการเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก) แต่สิ่งที่สวนทางกันก็คือสถิติการแอสซิสต์ของ เลาดรู๊ป มันคือสิ่งที่สร้างผลงานให้กับตัวเขาเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ การเลี้ยงบอลที่ติดเท้า มีความเร็วในตัวเองของ ไมเคิล เลาดรู๊ป ยังถือว่าเป็นทีเด็ดของเขาด้วยเช่นกัน เรียกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถนิยามได้ว่าเป็นนักเตะสไตล์ “จอมทัพหมายเลข 10” มันมีอยู่ในตัวของ เลาดรู๊ป คนพี่ครบถ้วนเลยทีเดียว

แต่ว่าเราจะมาพูดถึงท่าเด็ดที่เจ้าตัวมักจะใช้ให้เห็นจนแทบจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาไปแล้วนั่นก็คือการเลี้ยงบอลแตะหลบจากเท้าข้างหนึ่งไปยังเท้าอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเรียกท่านี้ว่า “เรกัต ควอเกต้า” หรือในชื่อภาษาอังกฤษก็คือท่า “ดับเบิ้ลทัช”

เลาดรู๊ป เวลาเจอคู่ต่อสู้ขวางทางอยู่นั้น ถ้าหากว่าเขาไม่เลี้ยงบอลหลบไปแบบพลิ้วๆล่ะก็ เขาจะใช้วิธีการแตะบอลจากเท้าข้างใดข้างหนึ่ง ไปยังเท้าอีกข้างหนึ่งเพื่อหลบการเข้าสกัดบอลของคู่ต่อสู้ และยังอาศัยความเร็วและความคล่องในการใช้เท้าทั้งสองข้างได้ดีพอกันอีก มันเลยทำให้ท่านี้ดูเนียนที่สุดถ้าหากว่าเป็นตัวของ เลาดรู๊ป ที่เป็นคนใช้มัน

ซีเนอดีน ซีดาน กับท่าหมุนตัว “ซีดานเทิร์น”

ปัจจุบันนั้น เจ้าตัวกำลังทำงานเป็นเทรนเนอร์ให้กับสโมสร เรอัล มาดริด และแน่นอนว่านี่ก็เป็นสโมสรที่เขาระเบิดฟอร์มมาอย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นนักเตะอาชีพอีกด้วย และทุกคนรู้กันบ้างหรือไม่ว่า ซีดาน สมัยเป็นนักเตะ เขาเล่นฟุตบอลสไตล์กันบ้าง

“เพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10” คือบทบาทที่ชัดเจนที่สุดของ ซีดาน เลยทีเดียว เขาเป็นนักเตะตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกที่ครองบอลเหนียว พลิ้วไหวดุจสายน้ำ เลี้ยงบอลติดเท้า แย่งยาก ผ่านบอลคมกริบ จ่ายบอลให้เพื่อนเล่นง่าย และยังยิงได้หนักทั้งสองเท้าอีกด้วย การกำหนดจังหวะของเกมในแบบสไตล์มิดฟิลด์ตัวกลาง หรือการเล่นเป็นตัวเติมขึ้นไปยิง หรือจ่ายบอลคิลเลอร์พาสแบบสไตล์มิดฟิลด์ตัวรุกหลังกองหน้า การอ่านเกมและลงมาช่วยแย่งบอลในแบบมิดฟิลด์ตัวรับ ซีดาน ทำได้ทั้งหมด แถมด้วยรูปร่างที่สูง แข็งแกร่ง อ่านเกมขาด มันทำให้เขากลายเป็นมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเลยก็ว่าได้

แต่ท่าเด็ดที่เขาใช้เล่นงานคู่แข่งเป็นประจำเลยก็คือ ท่าหมุนรอบตัว 360 องศาเหนือบอล และเกี่ยวเอาบอลหลบคู่ต่อสู้ไปแบบเหนือชั้น บางครั้งยังสามารถแหวกคู่ต่อสู้ทีละหลายคนได้เช่นกัน

และท่าไม้ตายของ ซีดาน ท่านี้ แต่เดิมมันมีชื่อว่า “มาร์กเซย รูเลต” แต่เมื่อ ซีดาน ใช้มันจนบ่อยครั้งและหลบคู่ต่อสู้ไปได้แทบทุกครั้งจนมันกลายเป็นที่ติดตาแฟนบอล มันเลยถูกปรับเปลี่ยนชื่อให้กลายเป็นท่า “ซีดานเทิร์น”

โยฮัน ครัฟฟ์ กับการแตะบอลหลอกด้วย ครัฟฟ์เทิร์น

โยฮัน ครัฟฟ์ กับการแตะบอลหลอกด้วย “ครัฟฟ์เทิร์น”

สุดยอดตำนานแข้งดัตช์แมนรายนี้ คือนักเตะที่สมบูรณ์แบบในการเล่นเกมรุกจริงๆ จะเป็นบทบาทของกองหน้าตัวเป้า , กองหน้าตัวกลางที่สร้างสรรค์เกมในตัวได้ , กองหน้าตัวต่ำ , กองหน้าริมเส้น , กองกลางตัวรุก ตัวของ “นักเตะเทวดา” โยฮัน ครัฟฟ์ สามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ การเลี้ยงบอล จ่ายบอล ยิงประตู ใช้เทคนิคผสานความเร็วในการเลี้ยงบอลจี้เข้าหากองหลัง เลี้ยงบอลหลบ หาโอกาสสบช่องแทงบอลให้เพื่อนหลุดเข้าไปยิง หรือพาบอลเข้าไปยิงประตูด้วยตัวเอง มันคือสิ่งที่ครัฟฟ์ทำมาตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา สถิติการซัลโวประตูกว่า 300 ลูกนั้นการันตีเรื่องนี้ได้

แต่สิ่งที่ตัวของ ครัฟฟ์ มีติดตัวจนกลายเป็นทีเด็ดประจำตัวไปแล้วก็คือ การแตะบอลหลบกองหลังชนิดที่กองหลังแทบจะหลังหักกันเลย นั่นก็คือท่า “ครัฟฟ์เทิร์น”

การหลอกคู่ต่อสู้ด้วยท่าดังกล่าวนั้น คือการที่ครัฟฟ์จะทำท่าว่าเหมือนจะเปิดบอล โยนบอล แต่ว่าเขาจะจงใจปักเท้าหลักให้ล้ำหน้าลูกบอลขึ้นมานิดหน่อยเพื่อให้มีพื้นที่หลังส้นเท้ามากพอให้เขาใช้เท้าอีกข้าง แตะบอลลอดหลังเท้าหลักไปได้ และเมื่อครัฟฟ์ใช้ท่านี้ทีไร คู่ต่อสู้มีอันต้องหลักหักหรือจั่วลมแทบทุกราย เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่า เขาจะเปิดบอลนั่นเอง โดยสถิติส่วนใหญ่นั้น ครัฟฟ์มักจะใช้ทีเด็ดด้วยท่าครัฟฟ์เทิร์น เวลาที่ได้ครองบอลอยู่เวลากราบสนามนั่นเอง

จูนินโญ แปร์นัมบูกาโน กับลูกฟรีคิก “นัคเคิลบอล”

จูนินโญ นักเตะชื่อนี้รับประกันเรื่องลูกฟรีคิกได้เลย ในสมัยที่เขาเล่นให้กับโอลิมปิก ลียง เจ้าตัวมีสถิติการยิงฟรีคิกเป็นประตูมากถึง 44 ประตู และส่วนใหญ่นั้นเป็นการสังหารฟรีคิกระยะไกลตั้งแต่เลยวงกลมกลางสนามเป็นต้นมา

สไตล์การยิงฟรีคิกของ จูนินโญ จะเป็นการซัดบอลเต็มหลังเท้า โดยให้หลังเท้าสัมผัสกับตรงจุดที่เป็นหัวสูบลมบนลูกบอลนั่นเอง มันจะทำให้เขาสามารถเตะเข้าที่กลางจุดโฟกัสของลูกบอลได้ และมันยังบังคับให้บอลพุ่งส่ายหลบผู้รักษาประตูได้

เดวิด เบ็คแฮม กับลูกฟรีคิกไซด์โป้งเข้าสามเหลี่ยม

โคตรนักเตะขวัญใจแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษรายนี้ เป็นยอดฝีมือในด้านการสังหารฟรีคิกและการเปิดบอลจากริมเส้นเป็นอย่างมาก

เบ็คแฮม เป็นนักเตะสไตล์ปีกขวาที่มีเท้าขวาระดับชั่งทองมาจากบ้านเลยทีเดียว เขาสามารถวางบอลไปยังจุดต่างๆที่เขาต้องการได้อย่างแม่นยำ จะให้เข้าเท้า เข้าหัว หรือโดนจุดไหนนั้น เบ็คแฮม สามารถเล็งและเปิดบอลให้ได้เลย แม้กระทั่งกับการยิงฟรีคิกก็เช่นกัน

สไตล์การยิงฟรีคิกแบบค่อยๆเอี้ยวตัวของ เบ็คแฮม เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขาไปแล้ว ลูกฟรีคิกที่ตัวของเขายิงนั้น จะวาดเส้นโค้งเป็นแนววิถีโค้งแบบโปรเจคไทล์ในหลักฟิสิกส์ บอลจะพุ่งโค้งด้วยความเร็วและเข้าสู่มุมประตูได้อย่างเด็ดขาดเลยทีเดียว

ดังนั้นแล้ว ขอแค่ว่าได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเถอะ เท้าขวาของ เบ็คแฮม สามารถทำให้ทีมลุ้นในการทำสกอร์ได้เลยจริงๆ

จอร์จี้ ฮาจี้ กับลูกยิงไกลสไตล์ใบไม้ร่วง

นักเตะเท้าซ้ายสุดทรงพลังรายนี้ คือสุดยอดจอมทัพที่มีคลาสบอลเหนือชั้นสุดๆเลยทีเดียว เขามีมันสมองในการบัญชาการเกม จ่ายบอล ทำประตู ยิงไกล เลี้ยงบอล ครองบอล ทำได้ทุกอย่างที่นักเตะสไตล์หมายเลข 10 พึงมีนั่นเอง

สไตล์บอลของ ฮาจี้ เขามักจะเล่นอยู่บริเวณริมเส้นบ้าง ตรงกลางบ้าง หรือดันตัวเองขึ้นสูงเหมือนเป็นกองหน้าตัวที่ 2 อีกรายหนึ่งนั่นเอง เขามีเท้าซ้ายที่หนักหน่วง สามารถบันดาลสกอร์สวยๆได้มานักต่อนักแล้ว

แต่ถ้าถามว่า ลูกไม้ตายที่ ฮาจี้ ใช้งานเป็นประจำจนคนดุต้องถึงกับลุกขึ้นปรบมือให้กับเขามันคืออะไร เราก็ต้องตอบเลยว่า มันคือการยิงไกลด้วยเท้าซ้ายเพชฌฆาตของเขานั่นเอง

ฮาจี้ เป็นนักเตะที่แปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง ระยะใกล้ๆ ไม่ชอบยิง ชอบจ่ายให้เพื่อนทำประตู แต่ขอเป็นระยะสักประมาณ 30 หลาหรือมากกว่านั้น ฮาจี้ พร้อมวางเท้าแล้วยิงเต็มหลอดด้วยเท้าซ้ายสุดฉมังของเขาทันที บอลจะพุ่งโค้งมุบเสียบใต้คานบ้าง เสียบเสาบ้าง หรือถ้าให้เหนือชั้นเลยก็คือการเล็งมุมสามเหลี่ยมไม่มุมใดก็มุมหนึ่ง

อย่างเช่นประตูที่เขายิงใส่ทีมชาติโคลอมเบียในฟุตบอลโลก 1994 ที่เจ้าตัว ยิงจากบริเวณริมเส้นเกือบๆ 40 หลา ส่งบอลพุ่งวาบเสียบหน้าต่างเสาไกลอย่างสุดสวย

และยังมีลูกยิงไกลในลักษณะเดียวกันกับที่ยิงใส่โคลอมเบียอีกลูก เกิดขึ้นในนัดที่ กาลาตาซาราย ต้นสังกัดของ ฮาจี้ เจอกับทีม อาร์เซน่อล มันคือลูกยิงที่งดงามจนคนทั่วไปถึงขั้นต้องร้องว้าวเลยทีเดียว และขาดไม่ได้กับลูกฟรีคิกจากระยะไกล ขอแค่ ฮาจี้ เกิดอยากยิงขึ้นมาก็พอ เขาพร้อมซัลโวประตูทันที !

โรนัลโด้ นาซาริโอ กับการเลี้ยงหลบผู้รักษาประตูแล้วยิง

การยิงประตูให้สวนตัวผู้รักษาประตู หรือยิงผ่านมือผู้รักษาประตูให้เด็ดขาดนั้น บอกได้เลยว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องง่าย คุณจะต้องแม่นทั้งทิศทาง น้ำหนักให้ชัวร์ในการยิง และเลือกด้วยว่าจะยิงแบบไหน

สำหรับนักเตะบางรายนั้น พวกเขามีวิธีในการทำประตูที่แน่นอนว่ามันยากที่จะหาใครสักคนที่จะเลียนแบบได้ เพราะมันต้องผสมผสานทักษะอะไรหลายอย่างในตัวเองเข้าไปเพื่อทำให้เขาสามารถแสดงทักษะดังกล่าวออกมาได้ เรากำลังพูดถึงนักเตะที่ชื่อว่า “โรนัลโด้ นาซาริโอ” หรือที่เรารู้จักในชื่อว่า โรนัลโด้ R9 ตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิลผู้ที่มีทักษะลูกหนังเป็นเลิศเลยทีเดียว

โรนัลโด้ R9 เป็นนักเตะถนัดสองเท้าที่มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ติดเท้า มีความเร็วชนิดหาตัวจับยาก ยิงได้คมกริบทั้งในและนอกเขตโทษอีกด้วย มีเทคนิคจัดจ้านสไตล์แซมบ้าที่หาทางรับมือได้ยาก

แต่สิ่งที่มันทำให้ โรนัลโด้ นั้น น่ากลัวอย่างมากในสายตาของผู้รักษาประตูที่ต้องดวลแข้งกับเขาก็คือ การเลี้ยงบอลหลบผู้รักษาประตูแล้วซัดเข้าประตูไปแบบโล่งๆนั่นเอง ซึ่งการทำประตูในลักษณะนี้นั้น มันจะต้องอาศัยทั้งเทคนิคเฉพาะตัว ความเร็วในการเลี้ยงหลอกล่อผู้รักษาประตูให้ “คว้าลม” (คว้าบอลพลาด) และจากนั้น เจ้าตัวอาจจะต้องเจอกับการเข้ามากวางของกองหลังที่ตามมาซ้อน ซึ่ง โรนัลโด้ ก็สามารถเลือกที่จะยิงลอดขาบ้าง ซัดแสกหน้าบ้าง หรือแปสวนเข้าไปเลยก็ได้

หนักๆเข้านั้น พอเลี้ยงบอลหลบผู้รักษาประตูได้ ก็ไม่มีใครตามเขามาทันแล้ว มันทำให้เขาแปบอลเบาๆเข้าประตูที่ไม่มีใครเฝ้าไปได้แบบชิลๆ ดังนั้นแล้วสำหรับ โรนัลโด้ การเลี้ยงบอหลบผู้รักษาปะตูเข้าไปยิง มันคืออาวุธร้ายที่สุดของเขาเลยจริงๆ

ชาบี้ เอร์นานเดซ กับการแทงบอลทะลุช่อง

มาถึงนักเตะรายนี้ ไม่ต้องถามเลยว่าเก่งกาจแค่ไหนสำหรับชาบี้ เขาคือตำนานจอมทัพทีมชาติสเปนของสโมสร บาร์เซโลน่า ที่ผ่านการคว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการที่สังกัดของเขามีโอกาสลงเล่น

และสำหรับสไตล์บอลของจอมทัพรายนี้ เขามีสายตาที่เฉียบขาด มันสมองเป็นเลิศ อ่านเกมขาด และยังสามารถจ่ายบอลสั้นยาวได้แม่นยำมาก และอาวุธร้ายของเขาก็คือ การจ่ายบอลทะลุช่องให้เพื่อนหลุดเข้าไปทำประตูนั่นเอง

ชาบี้ เอร์นานเดซ กับการแทงบอลทะลุช่อง

เนื้อหาใกล้เคียง