ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จำได้ว่าเขากำลังเดินทางผ่านการจราจรที่ติดขัดซึ่งทำให้เขามาถึงแมนฮัตตันล่าช้าสำหรับการประชุมที่เริ่มต้นขึ้น
คล็อปป์ ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจนว่าตึกสูงระฟ้าซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมนั้น เนื่องจากขนาดของโครงสร้างเหล็กที่วาดเส้นขอบฟ้านิวยอร์ก แต่เขาเตือนความทรงจำเกี่ยวกับความตื่นเต้นในการเดินเข้าสัมภาษณ์งานที่จะกำหนดชีวิตของเขา และเป็นหนึ่งในสถาบันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ถนนเล็กแห่งหนึ่งในซิงตัน อเวนิว ตึกระฟ้าเป็นสำนักงานกฎหมายของ Shearman & Sterling วันที่คือ 1 ตุลาคม 2015 และ ลิเวอร์พูล ต้องการประเมินวิสัยทัศน์ระยะยาวของชายที่พวกเขาปรารถนาที่จะเป็นผู้จัดการทีมของสโมสร
โค้ชชาวเยอรมัน ใช้เวลาหกชั่วโมงหลังจากลงจอดที่สนามบิน Kennedy เพื่อเดินทางไปยังฝั่งตะวันออกของนิวยอร์ก เนื่องจากการชุมนุมประจำปีของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ คล็อปป์ เดินทางมาถึงสหรัฐฯโดยบังเอิญ
จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ เจ้าของสโมสร ลิเวอร์พูล และประธานกลุ่ม เฟนเวย์ สปอร์ต, ไมค์ กอร์ดอน และ ทอม เวิร์นเนอร์ ทีมงานของเขา รวมถึงอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสโมสรคือ เอียน อายร์ รู้สึกประทับใจกับรายละเอียดที่ลึกซึ่งของ คล็อปป์
อดีตนายใหญ่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ทำให้พวกเขาเริ่มทำข้อตกลงกับเอเย่นต์เพียง 60 นาทีในการพูดคุย โดยที่ คล็อปป์ ไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เขาประกาศในที่ประชุมว่า เขาจะพา “หงส์แดง” กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ที่โรงแรม Lotte New York Palace อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิวยอร์ค คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างพาลูกทีม ลิเวอร์พูล ออกทัวร์พรีซีซั่น และสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของทีมในรอบเกือบ 4 ปี นับตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือ หงส์แดง”
เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน กล่าวกับ ESPN FC สื่อกีฬาชั้นนำเมืองผู้ดีว่า “ความจริงแล้วในวันนั้น เมื่อเราอยู่ที่นี่ และพูดว่าเราเต็มไปด้วยความหวัง เต็มไปด้วยความฝัน เต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดี ทำไมผมจะไม่เป็นอย่างนั้น ผมเซ็นสัญญากับเพื่อเป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เพราะที่แห่งนี้เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม ผมชอบทีมนี้ ผมชอบประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้”
“ดังนั้น ผมจึงเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากๆ ที่เราจะประสบความสำเร็จในความฝันของผม ในช่วงเวลานั้น เราอาจประสบความสำเร็จมากกว่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมามากกว่าที่เราเคยเป็นจริง” คล็อปป์ กล่าวพร้อมกับหัวเราะ
ในขณะที่ความคืบหน้าของ ลิเวอร์พูล ภายใต้นาฬิกาของ คล็อปป์ ถูกขีดเส้นใต้โดยการคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลแรกในการคุมทัพ “หงส์แดง” ของเขานับตั้งแต่เดินเข้ามาในถิ่นแอนฟิลด์
เจ้าหน้าที่ให้บริการที่ Melwood สำนักงานใหญ่ฟุตบอลของสโมสร ลิเวอร์พูล แบ่งปันมุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระดับโลกในทุกๆด้านที่สโมสร ตั้งแต่ด้านโภชนาการจนถึงการคัดเลือกนักเตะ และตั้งแต่คุณภาพของทีม backroom ไปจนถึงบุคลากรที่ยกระดับขึ้นมา
การคว้าถ้วยยุโรปสมัยที่ 6 โดยเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 ในมาดริด ประเทศสเปน และเก็บได้ 97 คะแนนในลีก มากกว่า “Invincibles” ของ อาร์เซน่อล จนเกือบคว้าแชมป์ได้สำเร็จ คล็อปป์ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวอย่างน่าสนใจ
“เราได้ทำการตัดสินใจหลายอย่างจำนวนมาก และจะทำให้มากขึ้นในอนาคต และทั้งหมดนี้อาจไม่ได้ผลในตอนท้าย คุณต้องยอมรับว่าคุณต้องการโชคในสถานการณ์เหล่านี้เช่นกัน ดังนั้นจึงหมายความว่าคุณสามารถล้มเหลวได้”
“แต่คุณต้องพยายาม และคุณไม่ต้องเปลี่ยนสิ่งต่างๆ เพียงเพื่อการเปลี่ยนแปลงมันเป็นเพื่อให้คุณสามารถปรับปรุง และปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก หมายความว่าถ้าคุณมีคนคนเดียวกันทำงานเดียวกันอีกหนึ่งปีเขาก็จะเก่งขึ้นเมื่อเวลา และประสบการณ์มาพร้อมกัน”
“ในขณะนี้มันไม่เกี่ยวกับการนำคนใหม่เข้ามา และสิ่งนั้นมันเกี่ยวกับพวกเราทุกคนที่ใช้ประสบการณ์ที่เราเคยเป็นมาก่อนดีกว่า นั่นหมายความว่าประสบการณ์ทั้งหมดนี้ คนที่ดีกว่าเหล่านี้ทั้งหมดจะได้รับความรู้ ด้วยกัน และเราจะแข็งแกร่งขึ้น มันเป็นเรื่องง่าย และนั่นคือแผน มันเป็นอย่างไรกับนักฟุตบอลเหรอ? มันก็ต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ”
“ผมไม่กลัวที่จะไม่มีอัตราการเข้าชม 100% จากการตัดสินใจหรือคิดค้นสิ่งใหม่ๆ สำหรับฟุตบอลหรืออะไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องกังวล เราแค่ต้องใช้ความรู้ของเรา” อดีตโค้ช ดอร์ทมุนด์ กล่าว
สมัยที่ คล็อปป์ ยังคุมทีม ดอร์ทมุนด์ เด็กปั้นของเขาได้รับการล่าตัวจากทีมชั้นยอดของวงการลูกหนังในตลาดนักเตะ อาทิ นูริ ซาฮิน ย้ายไปยัง เรอัล มาดริด, มาริโอ โกทเซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายไปยัง บาเยิร์น มิวนิค
คล็อปป์ ไม่ต้องการเหตุการณ์เหล่านี้ซ้ำอีกที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งมีความพร้อมมากขึ้นในการขจัดความสนใจในตัวซุปเปอร์สตาร์ของพวกเขาภายใต้การแนะนำของเขา ยกเว้นกรณีของ เฟลิเป้ คูตินโญ่ จอมทัพชาวบราซิลที่ย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคม 2018 ซึ่งถือเป็นค่าตัวสถิติโลกอันดับ 3 เลยทีเดียว
ในเวลาเดียวกัน ลิเวอร์พูล ได้ทยอยต่อสัญญานักเตะหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต เฟิอร์มิโน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ โกเมซ, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์, แอนดี้ โรเบิร์ตสันส์ และ ดิว็อค โอริกี้
ขณะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์, เจมส์ มิลเนอร์ กองกลางจอมเก๋า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ กำลังรอสัญญาฉบับใหม่จาก ลิเวอร์พูล และว่าจะได้ข้อตกลงใหม่เร็วๆนี้
โค้ช “หงส์แดง” กล่าวต่อว่า “นั่นคือการซื้อนักเตะของเราจริงๆ แต่ไม่มีใครสนใจที่จะฟังอย่างนั้นเพราะมันเป็นอย่างนั้น คุณมีผู้เล่นเขาเป็นคนดีคุณต้องการให้เขาถ้าเขาเซ็นสัญญาใหม่แล้วสำหรับคนไม่กี่คนนั่นหมายความว่าเขาจะมีราคาแพงกว่าเมื่อเราขายเขาหรืออะไรก็ตามหรือไม่ได้หมายความว่าทุกวันนี้
“ในกรณีของเรานี่คือการซื้อนักเตะด้วยการมอบสัญญาใหม่ และการเก็บผู้เล่นเหล่านี้ที่นี่เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่ง และแข็งแกร่งสำหรับโลกภายนอก มันเป็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยมที่จะซื่อสัตย์ ผมชอบความจริงที่ว่าเด็กเหล่านี้เป็นฟุตบอลที่ดีจริงๆ หากมองจากอายุพวกเขา และการชนะการแข่งขันยูโรเปี้ยน คัพ ซึ่งดี และแน่นอนว่าช่วยเพิ่มมาตรฐานของคุณได้”
คล็อปป์ บอกกล่าวว่า การคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คงเป็นไปไม่ได้หากขาดการเรียนรู้จากการพ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด ในปีที่แล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ลิเวอร์พูล แพ้การแข่งขันนัดชิงฯฟุตบอลถ้วยรายการต่างๆ อาทิ ลีกคัพ 2016 ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ยูโรป้า ลีก ต่อ เซบีย่า ในฤดูกาลเดียวกัน และฉากที่เศร้าใจในเคียฟ ประเทศยูเครน ในเดือนพฤษภาคม 2018 จนประสบความสำเร็จในที่สุด
คล็อปป์ อธิบายว่า “เราอยู่ที่นี่ และเราทำได้ดี แต่คุณเป็นผู้ชนะหรือไม่ผู้คนจะตั้งคำถามกับคุณ และเราทุกคนล้วนได้รับอิทธิพลจากโลกภายนอก ดังนั้นหากคุณไม่ชนะอะไรเลย คุณไม่สามารถพูดได้ว่า ฉันเป็นผู้ชนะ แต่มันก็ยังไม่ได้ผล ดังนั้นการมีถ้วยช่วยให้แต่ละคน และในอีกด้านหนึ่งการผ่านช่วงเวลาที่มืดมนเข้าด้วยกัน มันจึงสำคัญมาก”
“คุณต้องสูญเสียครั้งใหญ่เพื่อตระหนักว่า คุณไม่ใช่ผู้แพ้ คุณยอมรับว่ามันเกิดขึ้น ใช่ แต่คุณยังสามารถเป็นผู้ชนะได้ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้พวกเราทุกคนแข็งแกร่งขึ้น และผมมีความสุขที่มีเด็กเหล่านี้ในทีม ผมเก็บเด็กเหล่านี้ไว้ด้วยกันเพราะพวกเขาผ่านทุกสิ่งเหล่านี้มาแล้ว”
“นักเตะกลุ่มนี้ รวมถึงผู้เล่นที่เราเซ็นสัญญาเมื่อปีที่แล้วได้ผ่านความพ่ายแพ้อย่างมากมายในแชมเปี้ยนส์ ลีก จนมาถึงช่วงเวลาที่สดใสมากที่มาดริด และเราแพ้กับ เรอัล มาดริด แต่เราชนะในมาดริด มันเหมือนว่ามันจะต้องเป็น”
วิธีการที่ ลิเวอร์พูล ตอบโต้การเอาชนะผ่านด่าน บาร์เซโลน่า ในเกมรอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น คล็อปป์ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของเขากับพลพรรค “หงส์แดง” โดยระบุว่า “ผมรู้มาก่อนแล้วว่าเราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด”
“แต่เราเป็นมนุษย์ ดังนั้นบางครั้งมันก็ออกมาว่า เราออกมาข้างบน และคุณสามารถมีวันหยุดได้ แต่นี่เป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบสำหรับ บาร์เซโลน่า อลิสสัน เบ็คเกอร์ ต้องทำการเซฟให้ดี แต่มันก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าอะไรเป็นไปได้”
“ไม่ว่าเราจะทำอะไร ถ้าเราไม่ทำอย่างกล้าหาญมันก็ไม่ได้ผลในระดับสูงสุด วิธีที่เราเล่นในวันนั้นนั่นคือข้อพิสูจน์ว่า ว้าวทุกอย่างคืออะไรที่เป็นไปได้ แต่ละทีมเอาชนะได้ในวันที่กำหนด เป็นวลีที่ผมใช้เมื่อเข้าร่วมสโมสรแห่งนี้”
“เราต้องทำให้แน่ใจว่า พวกเขาต้องเจอกับเราในฟอร์มที่ดีที่สุดในวันนั้ นการมีประสบการณ์ในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลที่มีส่วนร่วมในเกมนี้ ผมรู้สึกภูมิใจมาก ผมภูมิใจในช่วงเวลานั้นจริงๆ ผมคิดว่า “ว้าวนั่นเป็นสิ่งที่พิเศษ” นายใหญ่ “หงส์แดง” กล่าว
ในคืนที่แทบจะไม่น่าเชื่อที่ คล็อปป์ คิดและพูดถึงบ่อยที่สุดคือ การเปิดลูกเตะมุมที่รวดเร็วของ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ ที่ทำให้ทุกคนเกิดความประหลาดใจ ยกเว้น โอริกิ ที่เปลี่ยนการเปิดลูกนั้นเป็นประตูชัยให้กับ ลิเวอร์พูล
“เมื่อผมบอกคนเกี่ยวกับ บาร์เซโลน่า คุณต้องพูดถึงลูกเตะมุม มันเป็นสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่ผมเคยเห็นมาในฟุตบอลแล้ว ผมบอกคนอื่นว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือ เทรนต์ อายุเพียง 20 ปี ละยิ่งกว่านั้นเขาเติบโตขึ้น เขาเกิดในระยะห่างแค่ 200 หลาจาก Melwood และผมรู้ว่าผู้คนกำลังรอคอยคนท้องถิ่นเหล่านี้อย่างมีความหวัง ตัวเลขบางครั้งอาจเกิดแรงกดดันมากเกินไป แต่ก็ไม่ใช่สำหรับ เทรนต์”
ภาพจิตรกรรมฝาผนังของ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ ซึ่งได้รับหน้าที่ และจ่ายเงินให้กับแฟนบอล The Anfield Wrap กำลังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ใกล้กับสนามของ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำหนดอาชีพการงานของแบ็คขวาดารุ่งชาวอังกฤษรายนี้
ในขณะเดียวกัน คล็อปป์ ที่มีภาพวาดฝาผนังในบริเวณ Baltic Triangle ของ ลิเวอร์พูล แสดงความตลกขบขันว่า รูปวาดของ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ น่าจะอยู่ใกล้ๆเขา ก่อนที่จะบอกให้ว่าเขาคาดหวังว่าจะมีภาพกับเพื่อนๆ และครอบครัววางอยู่ข้างๆบ้าง
เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน กล่าวว่า “ผมหวังว่ามันจะใหญ่พอที่ เทรนต์ จะชอบมัน และเขาก็มีเพื่อนและครอบครัวใน ลิเวอร์พูล พอที่จะมีความสุขกับมัน ผมหวังว่าพวกเขาจะถ่ายรูปไว้ข้างหน้า มันเหมือนกับว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาพวาดเล็กๆของผม”
การดูแลอย่างใกล้ชิดและจริงใจของ คล็อปป์ กับผู้เล่นของเขาไปไกลในการอธิบายว่า มีคนจำนวนมากในการจัดการที่จะมีส่วนร่วมในช่วงฤดูกาลมหัศจรรย์สำหรับ ลิเวอร์พูล แม้จะมีนักเตะบางรายผิดหวังจากการไม่ค่อยมีโอกาสลงสนามในปีที่ผ่านมา
นักเตะอย่าง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าชาวอังกฤษ, แชร์ดาน ชากิรี ปีกทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, เดยัน ลอฟเรน กองหลังทีมชาติโครเอเชีย และ อัลแบร์โต โมเรโน แบ็คซ้ายชาวสเปน ต่างไม่ค่อยได้โอกาสจาก คล็อปป์ เท่าที่ควร
คล็อปป์ กล่าวว่า “ไม่มีใครเลยที่ไม่ได้ทำงาน และนั่นก็ยอดเยี่ยม ตอนนี้ผมได้ยินจาก Vicky Jepson ผู้จัดการทีมหญิงของเราว่าเธอเรียกผู้เล่นของตัวเองว่าเป็นตัวจริงทั้งหมด ผมชอบความคิดนั้น การตัดสินใจที่ดีที่สุด และผมก็คิดว่าสำคัญมากสำหรับ ยูฟ่า ฟีฟ่า และใครก็ตามที่เราพูดถึงกำหนดการคือ ให้ผู้เล่นทุกคนอยู่บนม้านั่งในรอบสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ลีก ได้รับอนุญาตและนั่นก็ยอดเยี่ยม”
“ตามจริงแล้วหนึ่งในไฮไลท์ส่วนตัวของผมคือช่วงเวลาที่ อัลเบอร์โต โมเรโน กระโดดที่หลังของผมเพราะผมไม่รู้ว่ามันคือเขา มันไม่สำคัญเลยที่เขาจะกระโดดบนหลังของผม มันสำคัญมากที่จะเห็นว่าเขามีความหมายมากแค่ไหน อัลเบอร์โต โมเรโน ผมไม่สามารถคิดถึงเขาที่สูงกว่านี้ได้ ผมหวังว่าเขาจะได้สิ่งที่ดีที่สุดจากก้นบึ้งของหัวใจผม ผทส่งข้อความยาวๆ ให้เขาหลังจากเขาจากไป”
“ผมอยากจะช่วยเขามากขึ้น แต่ผมก็ทำไม่ได้ นั่นคือความเป็นจริงในวงการฟุตบอล เขาชอบที่จะเล่นมากขึ้น เขาอยู่รอบๆทีม และในการเฉลิมฉลองนั้น ไม่น่าเชื่อเลย นั่นแสดงให้เห็นทุกอย่างเกี่ยวกับเขา เราตัดสินใจด้วยตัวเองว่ามันมีความหมายต่อเราอย่างไร และเห็นได้ชัดว่า มันหมายถึงทุกสิ่งที่เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมและเป็นตำนาน ลิเวอร์พูล ว่าตอนนี้เขาอยู่กับทีมตลอดกาล”
คล็อปป์ มีความยินดีที่ สเตอร์ริดจ์ และ โมเรโน สามารถกล่าวคำอำลากับ ลิเวอร์พูล ได้ในระดับสูงในฐานะแชมป์ยุโรปในช่วงที่มีขบวนแห่ถ้วยรางวัล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมฉลองกว่า 700,000 คน ในวันครบรอบปีที่สามของเขาที่แอนฟิลด์
โค้ชวัย 52 ปีทำนายไว้ว่า “เมื่อเราชนะบางสิ่งเมืองจะระเบิดในทางที่ดีที่สุด มันไม่เหมือนอะไรที่ผมสามารถจินตนาการได้ ไม่มีใครสามารถจินตนาการอะไรแบบนั้นได้ นั่นเป็นสิ่งที่ดีเพียงอย่างเดียวที่ไม่ชนะอะไรมานาน มันเหมือนกับคุณรวบรวมความปรารถนา และสิ่งของทั้งหมด และความฝันทั้งหมดมารวมกัน”
“คุณรอจนกว่าคุณจะสามารถใช้มันได้ในวันที่คุณชนะบางสิ่ง และมันจะยากเกินกว่าที่ในอนาคตมันจะยาก เพราะมันรุนแรงมาก และผมจะรักถ้านักวิทยาศาสตร์คนใดสามารถอธิบายให้ผมได้ว่า 700,000 คนสามารถรักษาโทนเสียงดังกระหึ่มตลอดสี่ชั่วโมง”
“ผมไม่มีเงื่อนงำว่ามันทำงานอย่างไร ไม่น่าเชื่อ แฟนบอลเสียงดังอย่างไม่น่าเชื่อ และวิธีที่พวกเขาทำต่อไปนั้น ไม่น่าเชื่อ และการสบตาช่วงเวลาเล็กๆ กับผู้คนที่แตกต่างกันก็โดดเด่น และเรารู้มาก่อนว่ามันแตกต่างกันมากเมื่อได้เห็นหน้ากันและนั่นเป็นวันสำคัญในชีวิตของเรา”
ลิเวอร์พูล เป็นราชาแห่งยุโรปเป็นครั้งที่ 6 แต่ คล็อปป์ ต้องการมากกว่านี้ เขาต้องการพา “หงส์แดง” กลับไปป้องกันแชมป์อีกครั้ง หลังจากทัวร์อุ่นเครื่องของสโมสรในสหรัฐอเมริกา เพื่อพร้อมเตรียมฤดูกาลใหม่ที่จะทวีความรุนแรงขึ้น ในระหว่างการฝึกซ้อมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองเอเวียง ประเทศฝรั่งเศส
ในระหว่างการประชุมเบื้องต้นที่ คล็อปป์ ยืนยันว่าคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ ลิเวอร์พูล จะเป็นตัวของตัวเองเสมอ การเพิ่มขึ้นของความโลภ และการเติบโตโดยรวมจึงเป็นไม่ใช่ความต้องการ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไปในอนาคต
