ช่วงนี้แฟนบอล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อาจรู้สึกเหงาหงอยไปเสียหน่อยเพราะนอกจากทีมรักของพวกเขาจะเจอกับช่วงเวลาสุดเหนื่อยล้าด้วยโปรแกรมอันแสนหนักหน่วง นักเตะตัวความหวังอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มกระฉูดแตกแบบเมื่อซีซั่นก่อนออกมาให้ได้เห็นเท่าไหร่ด้วย เพราะเวลานี้ก่อนเกมเจอกับแมนฯ ซิตี้ สุดสัปดาห์ เขายิงในพรีเมียร์ลีกไปแค่ 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ กับตำแหน่งดาวซัลโวซีซั่นที่ผ่านแล้ว เรามาวิเคราะห์เจาะประเด็นสาเหตุที่ ซาลาห์ ฟอร์มดันไม่เปรี้ยงเหมือนเดิม
สไตล์การเล่นของ ซาลาห์
ข้อแรกที่มองเห็นได้ชัดมาก ๆ คือ คู่แข่งเริ่มจับทางของเขาได้หมดแล้ว สไตล์การเล่นของ ซาลาห์ เวลาได้บอลเขาจะเลี้ยงจี้เข้าหาประตูด้วยความเร็วที่ตนเองมี ก่อนจะดึงเข้าซ้ายแล้วปั่นโค้ง ๆ ตามสเต็ป ซึ่งจังหวะเหล่านี้บรรดาแนวรับของคู่แข่งขันโดยเฉพาะแบ็กขวาหลายคนถูกเทรนนิ่งให้ปิดลูกลักษณะนี้โดยเฉพาะ พอ ซาลาห์ ไม่สามารถทำบอลได้ดังที่เคย ส่งผลให้การยิงประตูของเขาก็น้อยลงตามไปด้วย
ประเด็นต่อมาคือการถูกประกบติดในฐานะของตัวอันตราย เรื่องนี้เป็นธรรมชาติที่ดาวเตะระดับโลกทุกคนต้องเจอ ทั้งการตามประกบเป็นเงารวมถึงการเข้าบอลหนักเพื่อหวังให้เจ้าตัวเกิดอาการแหยงและไม่อยากเล่นบอลไว้กับตัวมาก เมื่อมีบอลไว้กับตัว นั่นก็หมายถึงโอกาสทำประตูลดลงไปด้วย และผลก็เป็นดังที่เราเห็นกันอยู่ในเวลานี้กับสถิติอันแสนน้อยนิดที่เจ้าตัวทำได้
เรื่องที่สาม จริง ๆ แล้วก็มีหลายจังหวะที่เขามีโอกาสทำประตู แต่ดันยิงแบบ “หมูหก” เยอะเหมือนกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าบางทีความมั่นใจอาจหายไปบ้าง เนื่องจากความกดดันของการเป็นดาวซัลโวเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซึ่งความกดดันตรงนี้ยอมรับว่าส่งผลกับนักเตะหลายรายที่ฟอร์มเปรี้ยงขึ้นมาอย่างน่าตกใจ จนทำให้ตนเองรู้สึกว่ายิ่งต้องทำให้ดีมากกว่าเดิม การยิงไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเพราะตั้งใจเกินไปในหลาย ๆ ครั้ง
ประเด็นสุดท้ายมองไปยังเรื่องความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมโดยเฉพาะ ซาดิโอ มาเน่ ที่เหมือนจะแอบเคืองกันเล็ก ๆ เนื่องจากดาวเตะชาวเซเนกัลรายนี้ชอบหวงบอลและพยายามฝืนเล่นเองมากกว่า บางจังหวะ ซาลาห์ โล่ง ๆ ก็ไม่จ่าย แบบนี้ทำให้ดาวเตะอียิปต์เองก็ลดจังหวะที่จะทำประตูได้ตามไปด้วยเหมือนกัน
บางทีเราอาจต้องรอเวลาให้เขากลับมาเจิดจรัสอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลเองคงรอคอยให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ เพื่อพวกเขาจะได้สมปรารถนาดังความตั้งใจ
