เปาโล ดิบาล่า : Paulo Dybala

ประวัติ นักเตะ ดิบาล่า

เปาโล บรูโน เอ็กซีเคลียว ดิบาล่า เกิดวันที่ 15 พฤศจิกายน 1993 คือนักฟุตบอลทีมชาติอาเจนตินาและสโมสรยูเวนตูส ในตำแหน่งศูนย์หน้า เขาได้ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่มีมูลค่าเป็นอันดับที่ 11 ของโลกจากองค์กรศึกษาด้านกีฬาแห่งชาติ หรือ CIES และด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร ฝีเท้า พรสวรรค์และเทคนิคในการยิงประตู เขาจึงได้รับสมญานามว่า ลาโจย่า(เพชรเม็ดงาม)

เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งที่บ้านเกิดกับสโมสร อินสตี้ตูโต้ เดอ คอร์โดบา ในปี 2011 และย้ายไปเล่นในอิตาลีกับทีม ปาแลร์โม่ ในปี 2012 เขาเล่นในซีรีย์เออยู่สองฤดูกาลและได้แชมป์ซีรีย์บีในปี 2013-2014 กับสามฤดูกาลกับปาแลร์โม่ ในปี 2015 เขาย้ายร่วมทีม ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวกว่า 32 ล้านยูโร และลงเล่นไปแล้วกว่า 100 นัด สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ซีรีย์เอ สองครั้ง และ โคปป้า อิตาเลีย ได้ทั้ง สามฤดูกาล เขายังได้รับเลือกให้ติดในทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกซีรีย์เอด้วย ดิบาล่าลงเล่นให้กับทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นครั้งแรกในปี 2015 และมีชื่อติดทีมชาติในศึกฟุตบอลโลกปี 2018

ดีบาล่า วัยเด็ก

เปาโล ดิบาล่า เกิดที่เมืองลากูน่า ลาก่า ประเทศอาร์เจนตินา คุณตาของเขา โบเลสลาว ดิบาล่า อพยพมาจากหมู่บ้าน คลาสเนียว หมู่บ้านเล็กๆในโปแลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ครอบครัวของดิบาล่ามีเชื้อสายอิตาเลี่ยนซึ่งมาจากคุณยาของเขาที่ชื่อว่า ดา เมสซ่า ในเมืองเนเปิล นั่นทำให้ดิบาล่าได้รับสัญชาติอิตาเลี่ยนในวันที่ 13 สิงหาคม 2010

ดีบาล่า เยาวชน

ที่อินสตี้ตูโต้ เดอ คอร์โดบ้า ฉายา “ลา โจยา” หรือ “เอล ไพบ ดี สฟ เพนชั่น” ดิบาล่าเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในลีกเดวิชั่น 2 ของ อาร์เจนตินากับสโมสรบ้านเกิดของเขาที่ อินสตี้ตูโต้ เดอ คอร์โดบ้า ตั้งแต่อายุ 17 ปี เขาลงเล่นไป 40 นัด และยิงไป 17 ประตู ซึ่งเขายังทำลายสถิติของ มาริโอ้ เคมเป้ส สำหรับนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ ดิบาล่ายังเป็นนักเตะคนแรกที่ลงเล่นติดต่อกันมากสุดถึง 38 นัด และทำแฮตทริกได้ถึง 2 ครั้ง ดิบาล่ายังทำประตูได้ถึง 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งทำลายสถิติก่อนหน้านี้ที่ทำไว้ที่ 4 นัด

ดีบาล่า ปาแลรืโม่

ในวันที่ 29 เมษายน ปี 2012 ประธานสโมสรปาแลร์โม่ เมารูซิโอ้ แซมปารินี่ ได้ประกาศคว้าตัว เปาโล ดิบาล่า เขาคือกุน อเกวโร่คนใหม่” อย่างไรก็ตาม ในวันรุ่งขึ้นเลขานุการสโมสร อินสตี้ตูโต้ โจเซ่ ทอสก์ ยืนกรานว่าจะไม่ขายดิบาล่าออกจากสโมสร แต่ถึงกระนั้น ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2012 ปาแลร์โมได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับดิบาล่าด้วยสัญญา 4 ปี ด้วยค่าตัวราวๆ 8.64 ล้านยูโร

ดิบาล่าลงเล่นนัดเปิดตัวกับสโมสรในซีรีย์เอพบกับ ลาซิโอ หลังจากนั้นเขาสามารถทำสองประตูแรกในอิตาลีได้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2012 กับ ซามโดเรีย ในปี 2014-2015 ฟอร์มการเล่นของเขาโดดเด่นมากจากการทำได้ถึง 10 ประตูหลังจากผ่านไปเพียงครึ่งฤดูกาล โดยได้คู่ขาเพื่อนร่วมชาติอย่าง ฟรานโก้ วานเควส และจบฤดูกาลด้วย 13 ประตูกับ 10 แอซซิส ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ส่งบอลให้เพื่อนยิงมากที่สุดในลีก

เปาโล ดีบาล่า ย้ายมายูเว่

วันที่ 4 มิถุนายน ปี 2015 สโมสรยูเวนตุส ประกาศคว้าตัว ดิบาล่า ด้วยสัญญา 5ปี ด้วยจำนวน 32 ล้านยูโร (พ่วงโบนัสอีก 8 ล้านยูโร) เขาได้รับหมายเลข 21 ซึ่งเดิมเคยเป็นของ อังเดร ปรีโล ที่เลิกเล่นไปในช่วงซัมเมอร์ ในวันที่ 8 สิงหาคม เขาถูกเปลี่ยนตัวลงที่สนามในนาที่ที่ 61 แทนที่ของ คิงสลีย์ โคแมน ในนัดที่พบกับ ลาซิโอ ในปี 2015 ในศึกซุปเปอร์โคปป้าอิตาเลี่ยนนา โดยเขาทำประตูที่2 ได้ในนาทีที่ 73 ช่วยให้ทีมเอาชนะลาซิโอได้ 2-0 ที่เซี้ยงไฮ้

วันที่ 30 สิงหาคม ปี 2015 ดิบาล่าทำประตูแรกให้กับยูเวนตุสได้ในนาทีที่ 87 ในนัดที่ชนะโรม่า 2-0 ดิบาล่ายิงได้ 6 ประตูกับ 2 แอซซิส กับการลงเล่น 16 นัด ด้วยค่าเฉลี่ย ยิ ง1 ประตูทุกๆ 151 นาที ซึ่งเป็นค่าที่มากกว่า คาร์ลอส เตเบส กับ อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร่ ของนักเตะที่ลงเล่นในฤดูกาลแรกกับสโมสร มีเพียงแค่ โรแบร์โต บาจจิโอ้เท่านั้น ที่มีค่าเฉลี่ยที่ดีกว่าเขา

ดิบาล่า ยิงประตูแรกในถ้วย โค้ปป้า อิตาเลีย ในนัดที่เอาชนะ โตริโนไปได้ 4-0 ในวันที่16 ธันวาคม ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2016 ดิบาล่ายิงประตูแรกในรายการ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในนัดที่เสมอกับ บาเยิร์น มิวนิค ไป 3-2
วันที่ 15 มีนาคม

เขาได้รับบาดเจ็ญที่กล้ามเนื้อน่องข้างซ้ายจึงทำให้ไม่สามารถลงสนามได้ในนัดที่สองที่จะต้องเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ในวันที่ 16 มีนาคม แต่เขากลับมาลงสนาม 4 วันหลังจากนั้นในนัดที่เอาชนะ โตริโน่ไปได้ 4-1 แต่ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดี วันที่ 21 เมษายน ดิบาล่ายิง 2 ลูก ในนัดเปิดบ้านเอาชนะลาซิโอ 3-0 ซึ่งเขายิงทั้งหมด 16 ประตูกับการลงเล่น 31 นัด และโดยรวมเขายิง 20 ประตูในทุกรายการ เขาช่วยยูเวนตุสเป็นแชมป์ลีกซีรีย์เอกับการยิงสูงสุดในทีม ที่ 23 ประตูทุกรายการ โดยเป็นการยิง 19 ประตูในลีก

สไตล์ ดิบาล่า

การจากไปของ พอล ป็อกบา ที่ย้ายไปเล่นให้กับ แมนยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ทำให้เขาได้รับเสื้อหมายเลข 10 แทน แม้ตัวเขาเองนั้น อยากจะใส่หมายเลข 21 แบบเดิมมากกว่าก็ตามทีและการทำทีมของ แมสซีมิเลียนโน่ แอลกรี ที่หันมาใช้ระบบ 4-2-3-1 ซึ่งขยับดิบาล่ามาเล่นต่ำ ในตำแหน่งเพลย์แมคเกอร์ คอยประสานงานกับ ศูนย์หน้าตัวใหม่ที่สโมสรซื้อมาอย่าง กอนซาโล่ อีกัวอิน ซึ่งทำให้เขาทำประตูได้น้อยลงเนื่องจากต้องคอยสร้างสรรค์เกมและเล่นเกมรับด้วย แต่เขาก็สามารถทำประตูแรกในฤดูกาล 2016-2017 ในวันที่ 27 กันยายน ในนัดที่เอาชนะ ไดนาโม ซาเกรปไป 4-0 ในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก และเขาทำประตูแรกในลีกได้ในวันที่ 2 ตุลาคม ในนัดที่เอาชนะ เอมโปลีไปได้ 3-0

วันที่ 11 เมษายน ดิบาล่า ยิงสองลูกให้กับยูเวนตุสในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกนัดแรก รอบรองชนะเลิศกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งยูเวนตุสเอาชนะไปได้ 3-0 ในบ้าน
วันที่ 13 เมษายน ปี 2017 เขาต่อสัญญากับยูเวนตุสไปถึงปี 2022 และวันที่ 3 มิถุนายน ดิบาล่าลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดชิงแชมป์ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกแต่ก็แพ้ให้กับ เรียล มาดริดไป 4-1
วันที่ 4 สิงหาคม ปี 2017 ดิบาล่าได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในสามผู้เข้ารอบสุดท้ายสำหรับรางวัลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกฤดูกาล 2016-17 สำหรับตำแหน่งศูนย์หน้า
วันที่ 9 สิงหาคม ดิบาล่าได้รับเสื้อหมายเลข 10 จากสโมสร
วันที 13 สิงหาคม เขายิงสองประตู ในศึกซุปเปอร์โคปป้า
วันที่ 15 สิงหาคม ดิบาล่าถูกจัดให้อยู่ที่ 6 ของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่าปี 2017
วันที่ 26 สิงหาคม ดิบาล่ายิงแฮตทริกแรกในซีรีย์เอในแมต์ที่ชนะเจนัว 4-2 และอีกแฮตทริคในวันที่ 17 กันยายนในนัดที่ชนะ ซาสซูโอโล่ 3-1 ฉลองการลงเล่นครบ 100 นัดให้กับยูเวนตุส
วันที่ 11 มีนาคม 2018 ดิบาล่ายิงประตูแรกได้ซึ่งทำให้เขายิงได้ครบ 100 ลูกในการค้าแข้งของเขาในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะ อูดิเนเซ่ไปได้ 2-0
ดิบาล่าลงเล่นนัดที่ 150 ในซีรีย์เอในนัดที่เสมอกับ เอส.พ.เอ.แอล ในวันที่ 17 มีนาคม

วันที่ 1 กันยายน ปี 2018 ดิบาล่าลงเล่นครบ 100 นัดให้กับยูเวนตุส ซึ่งเป็นการลงเป็นตัวสำรองในนัดที่เอาชนะ ปาร์มาไปได้ 2-1
วันที่ 2 ตุลาคม ดิบาล่ายิงแฮตทริกในนัดที่พบกับ ยังบอย ในศึกแชมป์เปี้ยนลีกไปได้ 3-0
วันที่ 23 ตุลาคม ดิบาล่าทำประตูได้ในการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการเอาชนะไปได้ 1-0

ดีบาล่า อาร์เจติน่า

ผลพวงจากชาติกำเนิดของครอบครัวของดิบาล่า ทำให้เขาสามารถเลือกเล่นได้ให้กับทั้ง โปแลนด์ และ อิตาลี แต่ตัวเขาเองมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าอยากจะเล่นให้กับ อาร์เจนติน่า ซึ้งเป็นความฝันมาตลอด และความผูกผันที่แรงกล้าต่อชาติกำเนิดของคุณตา ดิบาล่าถูกเรียกติดทีมชาติ อาร์เจนตินาชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ในศึก เอ็กซ์วีไอ แพน อเมริกัน เกมส์ แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นสักนัด และในวันที่ 19 กรกฎาคม ปี 2012 เขาถูกเรียกติดทีมชุด 20 ปี แต่ก็ปฏิเสธไป

วันที่ 22 กันยายน 2015 ดิบาล่าติดทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่โดยผู้จัดการทีม เกราโด้ มาติโน้และลงเล่นนัดแรกในวันที่ 13 ตุลาคม ปี 2015 ซึ่งลงมาแทน คาร์ลอส เตเบส ในนาทีที่ 75 ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ในนัดที่พบกับ ปารากวัย เดือนพฤษภาคม ปี 2016 เขาไม่ได้ถูกเรียกตัวติดใน 23 คนแรก ในรายการ โคป้า อเมริกาถึงแม้ทางยูเวนตุสยืนกรานว่าจะไม่ปล่อยเขาไปเล่นในรายการ โอลิมปิกในปี 2016 ที่ริโอ เด จาเนโรเขามีชื่ออยู่ใน 35 คนแรกของกุนซือ มาติโน่ แต่ก็ไม่ได้มีชื่อสำหรับผู้เล่นชุดสุดท้ายของรายการอยู่ดี

วันที่ 1 กันายน ปี 2016 ดิบาล่าถูกไล่ออกในครึ่งแรกในนัดที่เอาชนะ อุรุกวัยไปได้ 1-0 และวันที่ 13 มิถุนายน ปี 2017 เขาส่งบอกให้ โจอาควิน คอเรีย ทำประตูในนัดกระชับมิตรกับสิงคโปร์ ซึ่งอาร์เจนตินาชนะไป 6-0 ในเดือน พฤษภาคม ปี 2018 ดิบาล่า มีชื่อติดทีมชาติอาร์เจนตินาสำหรับผู้เล่น 35 คนแรก ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย 1 เดือนหลังจากนั้น ชื่อเขาติดทีมชุด 23 คนแรกของกุนซือ ยอรเก้ ซามเปาลี่ และเขาลงเล่นในนัดแรกวันที่ 21 มิถุนายน ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเป็นการลงเล่นในครึ่งหลัง เป็นตัวสำรองลงมาแทน เอนโซ่ เปเรซ ในนาทีที่ 68 โดยนัดนั้น อาร์เจนตินาแพ้ให้กับโครเอเชียไป 3-0 ซึ่งเป็นการลงเล่นเพียงนัดเดียวของเขาในรายการนี้เนื่องจากอาร์เจนตินาตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในวันที่ 30 มิถุนายน และหลังจากนั้นก็แพ้ฝรั่งเศส 4-3 เขายิงประตูแกในนามทีมชาติชุดใหญ่ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ในนัดกระชับมิตรที่เอาชนะแม็กซิโกไปได้ 2-0

ดีบาล่า แฟนสาว

ศูนย์หน้าสารพัดประโยชน์ เขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก เขาเริ่มจากการเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า เป็นตัวสนับสนุน เป็นกองกลางตัวรุกหรือเพลย์เมคเกอร์หรือในรูปแบบ false9 หรือแม้แต่ในตำแหน่งปีกขวาซึ่งเขาสามารถเลี้ยงตัดเข้าในและยิงประตูด้วยเท้าซ้ายที่ทรงพลัง เขายังยิงจุดโทษและฟรีคิกได้อย่างแม่นยำ สไตล์การเล่นแบบนี้ทำให้ถูกเปรียบเทียบ เซอจิโอ้ อเกวโร้,จาเวียร์ ปาสโตเร่,คาร์ลอส เตเบส,โอมาร ซิวอรี่,ดิเอโก้ มาราดอนน่า และ เลโอเนล เมซซี่ รวมไปถึงแนวรุกอิตาเลี่ยนอย่าง วินเซนโซ่ มอนเตล่า,อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร่ และ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ซึ่งเป็นคนที่ดิบาล่าได้รับเลือกให้ส่งต่อตำนานหมายเลข 10 ให้ในปี 2017 และเขายังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งแห่งปี 2014 และนิตยสาร ดอน บารอน เลือกเขาให้ติด 1 ใน 100 ผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดที่เกิดหลังปี 1993

เปาโล ดีบาล่า ท่าดีใจ

ทุกครั้งที่ดิบาล่าทำประตูได้ เขาจะมีท่าประจำตัวเป็นที่รู้จักว่า มาสก์ หรือ หน้ากาก ซึ่งเขาเคยพูดว่า “ท่าประจำตัวนี้ไม่ใช่เป็นการฉลองการทำประตูแต่มันคือข้อความมากกว่า เพราะมันคือสัญลักษณ์ของนักรบ เกลดิเอเตอร์ที่จะใส่หน้ากากในการต่อสู้ โดยความคิดนี้เริ่มมาจากการที่โดฮาในนัดที่พบกับมิลาน หลังจากที่พวกเราแพ้ในรายการ ซุปเปอร์โค้ปป้า”