เรนิเยร์ เฆซุส แข้งแซมบ้าคนล่าสุดของทัพ ราชันชุดขาว

เรนิเยร์ เฆซุส แข้งแซมบ้าคนล่าสุดของทัพ ราชันชุดขาว

จาก โรนัลโด้ – โรบินโญ่ – กาก้า และตอนนี้ เรนิเยร์ เฆซุส ตัวรุกดาวรุ่งชาวบราซิล ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญามูลค่า 26 ล้านปอนด์ ของ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน คือการส่งต่อดาวเตะจากแดนแซมบ้ารุ่นต่อไปของ “ราชันชุดขาว” พร้อมความคาดหวังมหาศาล

เรนิเยร์ วัย 18 ปี ย้ายจาก ฟลาเมงโก ในลีกแดนกาแฟมาเล่นกับ มาดริด ด้วยสัญญายาว 6 ปี ซึ่งเขาจะได้ย้ายมาเล่นกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง เวเนซิอุส จูเนียร์ส และ โรดริโก้ 2 ดาวรุ่งชาวบราซิล ของ “ราชันชุดขาว” ที่ย้ายมาก่อนหน้านี้แล้ว

หลายคนมีคำถามว่า เรนิเยร์ จะคุ้มค่าเงินที่ มาดริด จ่ายหรือไม่ และเขาสามารถเดินตามรอยเท้าของเพื่อนร่วมชาติที่โด่งดังของเขาได้หรือไม่? หรือจะกลายเป็น กาก้า คนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวจะต้องเป็นคนให้คำตอบ

เรนิเยร์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ และศักยภาพมากที่สุดในบรรดานักเตะรุ่นเดียวกัน เขาเซ็นสัญญากับ มาดริด เพียง 2 วันหลังจากอายุ 18 ปี โดยอดีตเด็กปั้น ฟลาเมงโก เป็นลูกชายของ เมาโร บราซิเลีย ตำนานนักฟุตซอลชาวบราซิล

ปัจจุบัน เรนิเยร์ กำลังอยู่ในทีมชาติบราซิลชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ในการทำศึกการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโอลิมปิก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทัพ “เซเลเซา” อนุญาตให้เขาไปยัง มาดริด เพื่อจัดการเอกสารการย้ายทีมต่างๆให้เสร็จสิ้น ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ กำลังฝึกซ้อมอยู่ในประเทศโคลัมเบีย

ในวัย 17 ปี เรนิเยร์ ก็ไม่ให้ทุกคนผิดหวังหลังจากที่เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ ฟลาเมงโก ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 14 เกม และทำไป 6 ประตู พร้อมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนบราซิลร่วมกับสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตาม เรนิเยร์ เป็นตัวสำรองในเกมโคปา ลิเบอร์ตาดิเรส ที่ ฟลาเมงโก เอาชนะ ริเวอร์เพลท จากอาร์เจนตินา ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เขาไม่ได้ถูกส่งลงสนาม และมีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์สโมสรโลกที่กาตาร์ ในเกมที่พ่าย ลิเวอร์พูล ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เรนิเยร์ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความสามารถด้านเทคนิค และพรสวรรค์ที่สร้างสรรค์ของเขานั้น ได้เป็นกัปตันทีมชาติบราซิลในชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี และสไตล์การเล่นของเขานั้น ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ กาก้า อดีตยอดเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติบราซิล ผู้เคยคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เอซี มิลาน และเป็นนักเตะเลือดแซมบ้าคนสุดท้ายที่คว้าบัลลังก์ดอร์ ในปี 2007

ขณะเดียวกัน เรนิเยร์ เป็นดาวรุ่งชาวบราซิลรายที่ 3 ที่ มาดริด คว้าตัวมาร่วมทีมในช่วง 2 ปี่ที่ผ่านมา ต่อจาก เวเนซิอุส จูเนียร์ส จาก ฟลาเมงโก ในปี 2018 และ โรดริโก้ จาก ซานโตส ในปี 2019 ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 ราย มีโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ของ “ราชันชุดขาว” อยู่บ้าง

ย้อนกลับไปในปี 2002 เรอัล มาดริด ทุ่มเงินคว้าตัว โรนัลโด้ อดีตยอดดาวยิงทีมชาติบราซิลในวัย 25 ปี มาจาก อินเตอร์ มิลาน ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของยุค “กาลาคติกอส” ของพวกเขาที่มีนักเตะชื่อดังอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ ปีกทีมชาติโปรตุเกส, ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส, ราอูล กอนซาเลซ หัวหอกทีมชาติสเปน และ เดวิด เบ็คแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษ

โรนัลโด้ ซัดให้ มาดริด ไป 83 ประตู จากการลงสนาม 127 เกม อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ปัญหาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นของเขาทำลายช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมกับ “ราชันชุดขาว” แต่เขาก็ถือว่า ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว

เรนิเยร์ เป็นดาวรุ่งชาวบราซิลรายที่ 3 ที่ มาดริด คว้าตัวมา

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาดริด ได้เซ็นสัญญากับแนวรุกชาวบราซิลถึง 5 ราย โดยพลพรรค “ราชันชุดขาว” ต้องการหาบรรดาแนวรุกที่สร้างความหวั่นเกรงให้กับกองหลังทั่วยุโรป แต่ก็ยังไม่มีนักเตะจากแดนกาแฟคนใดที่ทำผลงานได้ดีนัก

รายแรกคือ โรบินโญ่ หลายสโมสรทั่วยุโรปได้ไล่ล่าตัวเขาหลังจากโชว์ฟอร์มที่น่าทึ่งให้กับ ซานโตส ในฐานะดาวรุ่งมากพรสวรรค์ และ มาดริด ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวเขามายังถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว ในเดือนกรกฎาคม ปี 2005 และเขายิงไป 35 ประตู จาก 137 เกม ให้กับ “ราชันชุดขาว”

ในยุคของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ อดีตเทรนเนอร์ชาวอิตาลี ของ มาดริด นั้น โรบินโญ่ มักถูกมองข้าม และต้องตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง หลังจากนั้นเขาถูกขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงแรกของกลุ่มทุนจากอาบูดาบี ในปี 2008 แต่มันจะกลายเป็นว่า ดาวยิงแซมบ้า ผ่านจุดสูงสุดของเขาไปแล้ว

รายที่ 2 คือ ฮูลิโอ บาปติสต้า ย้ายมาในฐานะจอมถล่มประตูจาก เซบีย่า ในปี 2005 แต่ฟอร์มการเล่นของเขาน่าผิดหวังอย่างยิ่ง หลังยิงไปเพียง 13 ประตู จากการลงสนาม 77 เกม จากนั้นในปี 2006 เขาถูกปล่อยยืมตัวให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

รายที่ 3 คือ กาก้า จาก มิลาน ในปี 2009 อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดได้เหมือนสมัยที่อยู่กับ มิลาน อีกแล้ว นอกจากนี้ เขายังมีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังรบกวนอย่างต่อเนื่อง และอำลาทัพ “ราชันชุดขาว” ในปี 2013

ในปี 2018 มาดริด ทุ่มเงิน 38.7 ล้านปอนด์ คว้าตัว เวเนซิอุส จูเนียร์ส จาก ฟลาเมงโก หลังประทับใจในฝีเท้าของดาวเตะรายนี้ แต่ตลอด 18 เดือนในถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว เขายิงไปเพียง 3 ประตู จากการลงสนาม 31 เกม ซึ่งมันยังไม่น่าประทับใจนัก

ต่อมา โรดริโก้ จาก ซานโตส ในปี 2019 ซึ่งสามารถยิงประตูแรกให้กับ มาดริด ได้ในการเป็นตัวจริงนัดแรกในเดือนกันยายนปีที่แล้ว และ เรนิเยร์ ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองว่า เขาจะเป็นนักเตะชาวบราซิล ที่ประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวกับ “ราชันชุดขาว”

เรนิเยร์ ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเอง

เนื้อหาใกล้เคียง