“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ไปครองได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเขาบุกไปถล่ม ไบรท์ตัน 4-1 ที่สนามเอเมกซ์ สเตเดี้ยม เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มหากาพย์การแข่งขันกับ ลิเวอร์พูล จบสิ้นลงแล้ว ความสำเร็จของพวกเขาคือเรื่องราวของความทนทานทางจิตใจ และความสามารถทางเทคนิคในสนาม
ตลอด 3 เดือนครึ่งที่ผ่านมาสำหรับการแข่งขันที่ยาวนาน ในตอนเย็นของวันที่ 29 มกราคม ปรากฏว่าสื่อกีฬาอังกฤษต่างพากันพาดหัวข่าวว่า ความหวังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อาจจบลงแล้ว หลังจากที่ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือชาวสเปน บุกไปพ่าย นิวคาสเซิล ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค 2-1 ในชณะที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสทำแต้มทิ้งห่าง 7 คะแนน ในวันถัดไปที่ “หงส์แดง” จะพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้
สำหรับช่องว่าง 7 แต้ม จะรู้สึกว่า ไม่สามารถใช้งานได้ในการแข่งขันของมาตรฐานที่สูงพิเศษเช่นนี้ แต่โชคไม่ดีที่ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสของพวกเขา หลังทำได้แค่เสมอกับ เลสเตอร์ 1-1 ที่สนามแอนฟิลด์ มันจะถูกจดจำว่า เป็นจุดหักเหในขณะที่โมเมนตัมโน้มเอียงไปทาง แมนฯซิตี้ พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ทำโชคของตัวเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
3 เกมถัดไปของ แมนฯซิตี้ ต้องเจอกับ อาร์เซนอล, เอฟเวอร์ตัน และ เชลซี พวกเขาชนะทั้ง 3 เกม และทำประตูได้ 11 ลูก โดยเสียงเพียงประตูเดียวเท่านั้น ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ทำแต้มหล่นในเกมกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนฯซิตี้ เดินหน้าเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง 14 นัดรวด ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ก็ตีคู่ทำคะแนนกดดันไล่ตามมาอย่างสูสี แต่ในท้ายที่สุดแล้ว “เรือใบสีฟ้า” เป็นฝ่ายเข้าวินไป
แมนฯซิตี้ ดูสงบเงียบในบางครั้ง ในระหว่างการวิ่งเข้าปะทะเอาชนะคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ ลิเวอร์พูล พึ่งพาชัยชนะที่ไม่ได้ลงแรงมากขึ้นในเกมอื่น แต่ความจริงก็คือความสำเร็จของพวกเขาเป็นไปตามความเชื่อ และความแข็งแกร่งของนักเตะ
ชัยชนะที่ต่อเนื่องของ แมนฯซิตี้ นั้น เกิดขึ้นมาจากการสร้างสรรค์เกมเพื่อมุ่งหน้าทำประตูคู่แข่ง และความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกเขา ไม่เพียงแค่ทดสอบชะตากรรมในมือของพวกเขาเอง แต่ยังได้เล่นเกมล่าสุดของ ลิเวอร์พูล อีกด้วย
กวาร์ดิโอล่า เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมืองผู้ดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “นักเตะของ ลิเวอร์พูล เล่นโดยไม่มีแรงกดดัน เพราะพวกเขารู้ว่า แชมป์ลีกมันไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขา มันเป็นเรื่อ’ง่าย แต่สำหรับเรามีความกดดันเกือบทุกนัด”
“ความกดดันนั้นแทบจะไม่รุนแรงไปกว่านี้อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงชัยชนะในเกมที่ยาก ลูกทีมของผมเล่นต่อไป พวกเขาไม่ตื่นตระหนก” เทรนเนอร์ “เรือใบสีฟ้า” กล่าว
แกรม ซูเนสส์ อดีตตำนานนักเตะ ลิเวอร์พูล ซึ่งรับบทกูรูให้กับ “สกาย สปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำของประเทศอังกฤษ กล่าวในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “พวกเขาแค่ทำในสิ่งที่พวกเขาเคยทำในช่วงที่ผ่านมา นั้นคือการเดินหน้าคว้าชัยชนะ”
ในเกมกับ ไบรท์ตัน นั้น แมนฯซิตี้ ใช้เวลาเพียง 11 นาที ในการพลิกกลับมาขึ้นนำ พลังในการฟื้นฟูของพวกเขานั้นน่าประทับใจที่สุด หลังจากการตกรอบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยฝีมือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ในด้านเดียวกันนั้น “เรือใบสีฟ้า” ได้ขจัดความกลัวใดๆ ที่อาจทำให้พวกเขาหลุดออกจากเส้นทาง
แมนฯซิตี้ ทำตามวิธีของพวกเขาโดยยึดมั่นในปรัชญาของ กวาร์ดิโอลา แต่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสมบูรณ์ของพวกเขาว่า แม้ในโอกาสหนึ่งครั้งที่วิธีการปกติของพวกเขาใช้งานไม่ได้พวกเขาพบเส้นทางสู่ชัยชนะในแนวทางของ อดีตโค้ช บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน
ประตูของ แวงซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีม แมนฯซิตี้ ที่ยิงใส่ เลสเตอร์ นั้นยอดยเยี่ยมมาก ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม ไม่เคยยิงประตูนอกกรอบเขตโทษมานานมาก และไม่ได้ทำประตูในลักษณะนี้มาตั้งแต่ปี 2013 แต่ในอีกแง่หนึ่งมันเหมาะสมแล้ว ใครเป็นผู้รวบรวมวิญญาณ และความเชื่อของ “เรือใบสีฟ้า” ให้ดีกว่า กัปตันที่ให้รับใช้ทีมมาอย่างยาวนาน
กอมปานี ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้กับ แมนฯซิตี้ ในซีซั่นนี้เพียงแค่ 13 เกมเท่านั้น แต่เขาไม่ได้เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ก้าวขึ้นมาเมื่อทีมต้องการเขา ริยาด มาห์เรซ ปีกชาวแอลจีเรีย เป็นแข้ง “เรือใบสีฟ้า” อีกราย ซึ่งมักช่วยทีมทำประตูได้ในจังหวะสำคัญ อาทิ ในเกมกับ ไบรท์ตัน เป็นต้น
เบอร์นาร์โด ซิลวา จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส มั่นใจว่า แมนฯซิตี้ จะไม่พลาดแชมป์ การบาดเจ็บของ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียม ในความเป็นจริง การ์ดิโอลา ให้คะแนนเขาในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้
ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็คซ้ายชาวยูเครน ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับ แมนฯซิตี้ ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกัน แฟร์นานดินโญ่ ห้องเครื่องชาวบราซิล ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง อิลคาย กุนโดนกัน กองกลางทีมชาติเยอรมัน ก็ทำหน้าที่แทนได้เป็นอย่างดี
กวาร์ดิโอลา สามารถใช้การบาดเจ็บของนักเตะ แมนฯซิตี้ เป็นข้ออ้างได้ง่ายๆ มันไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะสูญเสียผู้เล่นที่ดีที่สุด และมีอิทธิพลมากที่สุดของคุณไปมากมายในฤดูกาล แต่เมื่อถูกถามในเรื่องระหว่างการสัมภาษณ์พิเศษกับ “สกาย สปอร์ต” เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายใหญ่ชาวสเปน ไม่แคร์ และพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าว
“ถ้าคุณไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ คุณต้องใช้ผู้เล่นคนอื่นทดแทน” กวาร์ดิโอล่า กล่าวคำตอบนั้นได้รวมหนึ่งในมนต์ที่เป็นหัวใจของความสำเร็จของ แมนฯซิตี้ โดยโค้ชชาวสเปนวางกลุ่มไว้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งและความไว้วางใจของเขาก็มีไว้เพื่อทำให้ผู้เล่นของเขากล้าลงมือ
แบร์นาโด กล่าวไว้ว่า “การได้รับความไว้วางใจจาก กวาร์ดิโอลา นั่นคือ หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเล่นให้กับเขา เขาทำให้คุณรู้สึกสำคัญกับทีม”
ชัยชนะของ แมนฯซิตี้ นั้น ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น แต่ก็น่าประทับใจในบริบทของสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ไว้ในรอบทศวรรษ คะแนนสุดท้ายของพวกเขารวมกันน้อยกว่า 2 คะแนนจากการทำลายสถิติเมื่อปีที่แล้ว 100 คะแนน และพวกเขาก็อยู่ไม่ไกลจากการทำประตูด้วยเช่นกัน ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนเช่นนี้ต้องการระดับความปรารถนาที่ไม่น่าเชื่อ
แกร์รี่ เนวิลล์ อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งรับบทกูรูให้กับ “สกาย สปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำของประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “ปีที่แล้วเมื่อ ซิตี้ ได้ 100 คะแนน และ 100 ประตู เราบอกว่ามันเป็นฤดูกาลที่เหลือเชื่อ”
“สิ่งที่พวกเขาทำได้รับการพิสูจน์แล้วในขณะนี้ โดยการคว้าแชมป์แบบยอดเยี่ยม คือพวกเขาเป็นทีมพิเศษหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดที่เราเคยเห็นในฟุตบอลอังกฤษ พวกเขาต้องทนต่อความท้าทายที่ไม่น่าเชื่อจาก ลิเวอร์พูล พวกเขามีความยืดหยุ่นความทรหดที่ กวาร์ดิโอลา ต้องการ”
ในที่สุดมันเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องสมบูรณ์แบบ ลิเวอร์พูล เรียกร้องสิ่งนั้น และพวกเขาก็เป็นอย่างนั้น คืนอันน่าสะพรึงกลัวที่สวนสาธารณะเซนต์ เจมส์ ปาร์ค เมื่อความหวังของ “เรือใบสีฟ้า”ดูเหมือนจะผ่านมือของพวกเขาไปแล้ว แต่แรงกระตุ้น และความมุ่งมั่นทำให้พวกเขาทำมันสำเร็จได้ในท้ายที่สุดของซีซั่น
