เมื่อ เรือใบสีฟ้า ไม่สามารถรับมือกับการโต้กลับเร็วได้

เมื่อ เรือใบสีฟ้า ไม่สามารถรับมือกับการโต้กลับเร็วได้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นทีมที่ทำประตูสูงสุดในลีกฤดูกาลนี้ แต่ “เรือใบสีฟ้า” ต้องพบว่า กำลังเจอปัญหาหลังจากที่แพ้ไปแล้ว 4 จาก 16 เกม และมีคะแนนตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงถึง 14 แต้มแล้ว

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน ของ แมนฯซิตี้ ได้สร้างความสำเร็จในการป้องกันโดยการครอบครองบอลตลอดทั้งเกม พร้อมกับความสามารถอย่างไม่หยุดยั้งในการรักษาจังหวะการเล่นเกมรุก และป้องกันการเคาน์เตอร์แอทแทคของคู่แข่ง แม้มันจะเป็นความกังวลในช่วงฤดูกาลแรกของเขากับ “เรือใบสีฟ้า” แต่เขาก็ทำให้ทีมมีความสมดุลดีขึ้นในปีต่อมา

Opta ระบุว่า แมนฯซิตี้ มีการป้องกันที่ดีที่สุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และแม้กระทั่งฤดูกาลที่แรกภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า เองก็ตาม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ท้าทายในบางครั้งเมื่อพวกเขาถูกกดดันหนักจากคู่แข่ง โดยตัวเลขพื้นฐานของพวกเขายังคงแข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ในเวลานี้

ในฤดูกาลนี้ แมนฯซิตี้ มีการป้องกันที่ดีที่สุดอันดับ 4 ในลีก พวกเขาเสียไปแล้ว 19 ประตู ซึ่งเกือบสองเท่าของ เลสเตอร์ ทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดจนถึงตอนนี้ กวาร์ดิโอลา ไม่เคยมีแต้มน้อย และเสียประตูมากเท่านี้มาก่อนในการคุมทีมเมื่อผ่านไป 16 เกม สิ่งเหล่านี้สามารถอธิบายได้ด้วยความยากลำบากของ “เรือใบสีฟ้า” ในการรับมือจากการโต้กลับเร็วของคู่แข่ง

ขณะเดียวกัน ระดับการเล่นเกมรุกที่ แมนฯซิตี้ เชี่ยวชาญนั้น แทบจะไม่ได้ผลเหมือนกับที่ผ่านๆมา และความสามารถในการป้องกันเมื่อโดนคู่แข่งบุกเข้าใส่ก็ลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงปัญหาในเกม

มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แทบจะไม่สามารถปิดบังความคับข้องใจของเขากับสโมสรเก่าหลังจากพา “ขุนค้อน” พ่ายแพ้ “เรือใบสีฟ้า” 5-0 ที่สนามลอนดอน สเตเดี้ยม เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

เปเยกรินี่ กล่าวว่า “ทุกครั้งที่เราพยายามบุกมาถึงกรอบเขตโทษของพวกเขา นักเตะ แมนฯซิตี้ จะทำฟาวล์อยู่เสมอ ผมคิดว่าเราเล่นแบบทื่อๆไปหน่อย เราต้องฉลาดพอที่จะรู้ว่าเมื่อไรที่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมบ้าง ถ้าคุณพิจารณาเกมวันนี้เหตุผลที่เราไม่ได้สร้างโอกาสมากเกินไปก็เพราะวิธีการโจมตีที่ไม่เหมาะสมทั้งหมดของเราเอง”

นั่นเป็นส่วนหนึ่งของมัน แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด อายเมริค ลาปอร์เต้ กองหลังตัวเก่งชาวฝรั่งเศส ของ แมนฯซิตี้ เป็นตัวหลักในแนวรับก่อนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ โรดรี้ ห้องเครื่องทีมชาติสเปน โชว์ฟอร์มได้อย่างประทับใจในการเปิดตัวเกมแรก ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามมาได้เผยให้เห็นช่องโหว่ที่มีน้อยคนที่คาดการณ์ไว้ ความพ่ายแพ้ต่อ นอริช ซิตี้ 2-3 ที่สนามแคร์โรว โร้ด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาจถูกมองว่าเป็นความผิดปกติ ซึ่งตรงกันข้ามกับการพ่ายแพ้ 1-3 ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งแทบจะไม่น่าประหลาดใจเพราะ “หงส์แดง” กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด

ย้อนกลับไปในเกมที่ แมนฯซิตี้ เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม พ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ 0-2 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น แฟร์นานดินโญ่ และนิโคลัส โอตาเมนดี้ ยืนคู่กันในแนวรับ แต่พวกเขาไม่สามารถรับมือกับ ราอูล ฆิมิเนส และ อดาม่า ตราโอเล่ 2 แนวรุกของ “หมาป่า” ได้

ข้อสรุปที่ง่ายในเวลานั้นคือ บุคคลที่จะตำหนิในการคิดว่า หาก ลาปอร์เต้ หรือ แวงซองต์ กอมปานี อดีตกองหลังกัปตันทีมชาวเบลเยียม อยู่ในสนามคงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น บางทีนั่นอาจเป็นเรื่องจริง เพราะพวกเขาอาจทำได้ดีกว่านี้ แต่ กวาร์ดิโอล่า รู้ถึงปัญหาว่ามาจากระบบการเล่น

แมนฯซิตี้ เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

กวาร์ดิโอล่า อธิบายว่า “มันเกิดขึ้นเพราะเราไม่มั่นคงในการสร้างเกมของเรา มันไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน แฟร์นานดินโญ่ และ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ทำได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่พวกเขาต้องเจอปัญหาเพราะเราสูญเสียการครอบครองบอลในตำแหน่งที่เราไม่สามารถทำพลาดได้ ไม่มีกองหลังคนใดในโลกที่สามารถจัดการกับจังหวะแบบนี้ได้ พวกเขาทำได้ดีมากแล้ว”

ในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่ แมนฯซิตี้ เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ปัญหาเดียวกันได้ชัดเจนขึ้นกับ โดย “ปีศาจแดง” ไม่ได้ครองบอลมากนัก แต่เมื่อพวกเขาสวนกลับเร็วมันสร้างปัญหาให้กับแนวรับ “เรือใบสีฟ้า” ได้เกือบทุกครั้ง

สิ่งที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมากนั้น อยู่ที่การป้องกัน แฟร์นานดินโญ่ วัย 34 ปี ที่ถูกจับมายืนในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ความช้าของเขา และการยืนตำแหน่งที่ผิดพลาดก่อให้เกิดปัญหาในแผนการเล่นของ กวาร์ดิโอล่า

โรดรี้ เป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมของ แฟร์นานดินโญ่ ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และสัญชาตญาณการป้องกันของดาวเตะสเปนยังคงได้รับการยกย่อง แต่เขาก็ไม่ได้มีพละกำลังเหมือนกับ แฟร์นานดินโญ่ สมัยพีคๆ และอดีตแข้ง แอตเลติโก้ มาดริด ดูช้ากว่าที่จะไล่ตัดเกมจากบรรดานักเตะแนวรุกของ แมนฯยูไนเต็ด

มันเป็นไปได้ที่ปัญหาจะเกิดขึ้นต่อไปอีก การขาดความเร็วจากการเล่นโดยไม่มีลูกบอลของ แมนฯซิตี้ นั้น ทำให้ฝ่ายตรงข้ามกลับมาตั้งแนวป้องกันได้ โดยเฉพาะการเล่นของ ดาบิด ซิลบา จอมทัพชาวสเปน ที่ดูช้าลงไปเนื่องจากอายุมากขึ้น และสถิติแสดงให้เห็นว่า เขาได้ครอบครองบอลน้อยกว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา

ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อ ซิลบา ครอบครองบอล และคุมจังหวะได้ มันก็ทำให้คนอื่นเล่นง่ายไปด้วย แต่ก็เป็นเรื่องจริงสำหรับพวกเขาในเวลานี้หากไม่มีลูกบอล คุณภาพในเกมรุกก็จะลดลงไป ซึ่งระบบที่ กวาร์ดิโอล่า วางไว้ขึ้นอยู่กับทุกคนที่คิด และเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกัน มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะสมบูรณ์แบบ และดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะผิดพลาดเช่นกัน

การกลับมาของ ลาปอร์เต้ จะสร้างความแตกต่าง และถ้านั่นทำให้ แฟร์นานดินโญ่ กลับสู่ตำแหน่งกองกลางตัวรับ ไม่ว่าจะเป็นข้างๆ โรดรี้ หรือให้ดาวเตะแซมบ้ายืนเป็นตัวคุมเกมคนเดียว และบางทีการให้ดาวรุ่งอย่าง ฟิล โฟเด้น ช่วยไล่บอลในแดนกลางก็อาจมีประโยชน์

แม้ว่า กวาร์ดิโอล่า จะหาทางแก้ไข แต่มันมีแนวโน้มที่จะสายเกินไปที่จะกอบกู้แนวรับที่อ่อนแอในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการป้องกันตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งนี้ แต่พวกเขายังคงมีถ้วยรางวัลอื่นๆ ที่ยังไล่ล่าต่อไป

ชัยชนะที่รอคอยมานานของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังคงอยู่ในความสามารถของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องจัดการสิ่งนั้นให้ได้ และสิ่งที่ชัดเจนคือ พวกเขาต้องหาวิธีจัดการกับการโจมตีของคู่ต่อสู้ก่อนเป็นอันดับแรก

แม้ว่า กวาร์ดิโอล่า จะหาทางแก้ไข แต่มันมีแนวโน้มที่จะสายเกินไป

เนื้อหาใกล้เคียง