เสือเหลือง ขึ้นแท่นทีมสุดฮ็อทอันดับต้นๆแห่งยุโรป

เสือเหลือง ขึ้นแท่นทีมสุดฮ็อทอันดับต้นๆแห่งยุโรป

นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2018-19 มาจนถึงเกมที่ 11 ทีมจ่าฝูง บุนเดสลีกา สร้างสถิติยิงประตูเฉลี่ยได้นัดละ 3 ประตู ซึ่งไม่เพียงแต่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะสร้างผลงานเหล่านั้นจากผู้เล่นตัวหลัก แต่มันคือการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของทั้งทีมที่รวมไปถึงบรรดานักเตะตัวสำรองอีกด้วย 3 สิ่งที่กลายเป็นความแน่นอนภายในชีวิตประจำวันของคอบอลในตอนนี้ก็คือ ความตาย การเผือกเรื่องชีวิตรักๆเลิกๆของดารา และ ทีมเสือเหลืองจะยิงประตูได้ในช่วงครึ่งหลัง คงไม่มีใครปฏิเสธว่าสิ่งแรกเป็นเรื่องที่ใครๆก็หนีไม่พ้น ในขณะที่เรื่องที่สองถึงเราอาจจะอยู่เฉยๆแต่สุดท้ายคนใกล้ตัวก็ต้องเอามาเมาท์ให้ฟังเช่น พี่ ส. แอบกินกันกับ น้อง ม. มานานแล้ว แต่กับเรื่องสุดท้ายนั่นกลับกลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำกับทีมของ ลูเซียง ฟาฟร์ ในซีซั่นนี้

ดอร์ทมุนด์ ลงเล่นในฤดูกาลนี้ไปแล้วทั้งหมด 17 เกมและยิงประตูในช่วง 45 นาทีหลังไปแล้วทั้งหมด 16 ลูก และจากผลงานอันน่าสะพรึงในช่วงหลังพักเบรคก็ทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกดุดันที่สุดของยุโรป จากผลงานในเกมลีกทื่กดไปแล้ว 33 ประตูจาก 11 นัดที่ผ่านมา และในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเท่าไร เริ่มต้นจากประตูโทนในช่วงท้ายเกมของ คริสเตียน พูลิซิช ที่ช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนจาก คลับ บรูช ก่อนจะเดินหน้าไล่ถล่ม โมนาโก และ แอตเลติโก มาดริด ด้วยการรัวไปอีก 7 เม็ด จนขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม แม้ล่าสุดจะพึ่งเพลี่ยงพล้ำเป็นครั้งแรกในเกมที่ มาดริด

เหนียวแค่ไหนก็โดนเสือถล่มไปราบคาบ

แอตเลติโก ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่ขึ้นชื่อในด้านเกมรับอันเหนียวแน่นอันดับต้นๆของทวีปยังเคยถูก ดอร์ทมุนด์ ฉีกเป็นชิ้นๆมาแล้วในการพบกันครั้งแรกที่ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เมื่อลูกทีมของ ฟาฟร์ ต่างดาหน้าเข้าใส่ทุกทิศทุกทางและเป็นฝ่ายกุมชัยชนะไปด้วยสกอร์ถล่มทลาย 4-0 และนั่นก็เป็นการพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดของ กุนซือจอมเขี้ยวชาวอาร์เจนไตน์ นับตั้งแต่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งในปี 2011 ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เขายังไม่เคยพาทีมพ่ายแพ้ให้กับคู่ต่อสู้ใน ลา ลีกา ที่มีทั้ง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ขาดลอยเช่นนี้มาก่อน โดย ซิเมโอเน่ ยังรู้สึกประทับใจไปกับคู่ต่อสู้ของพวกเขา

“มันเป็นผลการแข่งขันที่ชัดเจน เราต้องขอแสดงความยินดีต่อคู่แข่งของเรา พวกเขามีเกมบุกที่รวดเร็ว พวกเขาเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการครอบครองบอลและพวกเขาก็ทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากในเวลานี้ และมันก็เป็นอะไรที่น่าติดตาม”

แฟนบอลที่คอยติดตามผลงานของ เสือเหลือง ในซีซั่นนี้น่าจะคุ้นตากับเกมบุกอันมีประสิทธิภาพของพวกเขา ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ ปีเตอร์ สโตเกอร์ อดีตกุนซือที่พยายามเน้นสร้างทีมจากแนวรับขึ้นมา ในขณะที่ ฟาฟร์ เน้นการยิงประตูให้ได้มากกว่าคู่ค่อสู้เป็นหลัก แม้มันอาจจะเป็นการเปิดช่องโหว่ให้กับฝั่งตรงข้ามไปด้วยก็ตาม นอกจากนี้ เฮดโค้ชวัย 61 ปี ยังสามารถรีดผลงานอันยอดเยี่ยมจาก 2 ผู้เล่นที่พึ่งเซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อย่าง โธมัส เดลานี่ย์ และ อักเซล วิตเซล จนทำให้แดนกลางของทีมแน่นปึ๊ก ในขณะที่ 2 นักเตะยืมตัวทั้ง ปาโก้ อัลกาเซร์ และ อัชราฟ ฮาคิมี่ ก็ช่วยเสริมกำลังให้กับพวกเขาได้อย่างเต็มเปี่ยมและทำให้การแข่งขันภายในทีมเข้มข้นยิ่งขึ้น

ฟาฟร์ ใช้เวลาไปไม่น้อยกับผู้เล่นแต่ละคนในการให้คำแนะนำถึงการรับมือกับคู่ต่อสู้ การพัฒนาเกมของตนเอง และการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างเจ้านายกับลูกน้องซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่ขาดหายไปจาก 2 กุนซือคนก่อน โดยที่เราจะสังเกตเห็นได้จากบรรยากาศในการฝึกซ้อมที่เขาสามารถจะเล่นตลกและหัวเราะไปกับลูกทีมได้ แต่จะเปลี่ยนเป็นท่าทีที่ขึงขังและจริงจังระหว่างการวางแผนเรื่องแทคติก

เหนียวแค่ไหนก็โดนเสือถล่มไปราบคาบ

“มันเป็นเรื่องดีเสมอสำหรับนักเตะอย่างเราเมื่อมีแผนการที่ดี ลูเซียง ฟาฟร์ จะมีแผนการใหม่ๆในแต่ละเกมและมันก็เป็นสิ่งที่ดีเสมอ” มาร์โก้ รอยส์ ให้สัมภาษณ์ไว้กับ แดร์ สปีเกล นสพ.ชื่อดังภายในประเทศ

ส่วนทาง วิตเซล ก็เชื่อมั่นว่า เกมบุกอันน่าสะพรึงของพวกเขาคือแนวทางที่ ฟาฟร์ ตั้งใจให้ทีมแสดงออก ในขณะที่เจ้าตัวก็กำลังทำผลงานในซีซั่นเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมหลังพึ่งมีส่วนช่วยให้ ทีมชาติเบลเยี่ยม ไปได้ไกลในศึก เวิลด์ คัพ 2018 แม้จะใช้เวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค้าแข้งอยู่ใน รัสเซีย และ จีน ก็ตาม

“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะความบังเอิญจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวภายในเกม แต่คุณรู้ดีว่านี่เป็นสไตล์การเล่นของพวกเรา เรามีนักเตะที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง ทุกๆคนมีเทคนิคที่ดีและมันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ บางครั้งเราทำในเรื่องที่เสี่ยงมากๆแม้แต่กับผู้รักษาประตู แต่นั่นก็คือสไตล์การเล่นของพวกเรา และอย่างที่ผมเคยพูดไว้เราจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงมันไม่ว่าในการเผชิญกับใคร”

ย้อนกลับไปในปี 2012 เมื่อตอนที่ รอยส์ แยกทางกับ ฟาฟร์ ที่ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เขาได้กล่าวยกย่อง กุนซือชาวสวิส ไว้ว่า “เขาเป็นผู้ที่ช่วยให้ผมได้เรียนรู้มากที่สุดในช่วงชีวิตค้าแข้งของตนเอง”

6 ปีที่รอคอย ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

หลังจากผ่านไป 6 ปี ทั้งคู่ได้โคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง โดยที่ รอยส์ ก็ยังคงได้เรียนรู้และพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกเคียงข้างกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆที่ ดอร์ทมุนด์ ทั้ง จาดอน ซานโช่ และ ยาค็อบ บรุน ลาร์เซ่น ผู้ที่อาจไม่ได้รับโอกาสเลยแม้แต่น้อยกับทีมระดับชั้นนำอื่นๆในยุโรป แต่พวกเขากลับเปล่งประกายเจิดจรัสอยู่ในเวที บุนเดสลีกา และ แชมเปี้ยนส์ ลีก จากบรรดาทีมใน 5 ลีกระดับท็อปของทวีป มีเพียง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เท่านั้นที่ทำประตูเฉลี่ยต่อนัดได้มากกว่าพวกเขาในเวลานี้ แต่จากบรรดาผู้เล่นแนวรุกที่ประกอบไปด้วย เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เอดินสัน คาวานี่ ที่คอยบุกทะลวงแนวรับฝั่งตรงข้ามใน ลีกเอิง ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ หรือกับ แมนฯ ซิตี้ และ ยูเวนตุส ที่ต่างก็มี เซร์คิโอ อเกวโร่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหัวหอกตัวหลักในการถล่มประตูคู่แข่ง แต่กับ ดอร์ทมุนด์ แล้วพวกเขามีวิธีเข้าโจมตีจากทุกทิศทุกทาง ด้วยการปรับเปลี่ยนแทคติกและการแก้เกมของ ฟาฟร์ ก็ได้สะท้อนผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนประตูมากมายที่ทีมทำได้ในลีกจาก 14 ผู้เล่นที่แตกต่างกันภายในซีซั่นนี้ โดยที่ไม่มีชื่อของ ราฟาเอล เกร์เรโร่ ฮีโร่ผู้เหมาคนเดียว 2 ประตูจากเกมถล่ม แอตเลติโก 4-0 รวมอยู่ด้วยซ้ำ และล่าสุดพวกเขาก็ยังสามารถรักษาผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ได้อย่างต่อเนื่องในเกม แดร์ คลาสซิเกอร์ ที่เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไปได้อย่างสวยสดงดงาม 3-2 หลังจากตกเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอถึง 2 ครั้ง 2 ครา และก่อนที่เกมสำคัญนัดนี้จะเริ่มต้นขึ้นนี่ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาลคว้าแชมป์ในปี 2011-12 ภายใต้ยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่พวกเขาเผชิญหน้าคู่แข่งตัวฉกาจจาก บาวาเรีย ด้วยอันดับที่สูงกว่า

จากฟอร์มที่ยังไม่ค่อยเข้ารูปเข้ารอยนักของทางฝั่งทีมของ นิโก้ โควัช ก็ทำให้หลังจบเกม ดอร์ทมุนด์ สามารถทำแต้มทิ้งห่างทีมแชมป์เก่าไปเป็น 7 คะแนน และหากพายุเกมบุกจากทีมของ ฟาฟร์ ยังคงเดินหน้าพัดถล่มคู่ต่อสู้ได้อย่างนี้อยู่เรื่อยๆ ก็คงไม่น่าแปลกใจที่บรรดากองเชียร์ของพวกเขาจะเริ่มฝันหวานไปถึงบรรยากาศแห่งความสุขเมื่อช่วง 6-7 ปีก่อนหน้านี้

6 ปีที่รอคอย ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

เนื้อหาใกล้เคียง