เฮนริค มคิทาร์ยาน : Henrikh Mkhitaryan

ประวัตินักเตะ มคิทาร์ยาน

เฮนริค มคิทาร์ยาน (เกิด 21 มกราคม 1989) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอาร์เมเนียน ซึ่งค้าแข้งอยู่กับสโมสรอาร์เซน่อลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเป็นกัปตันทีมชาติอาร์เมเนีย มคิทาร์ยานลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกเป็นตำแหน่งหลัก แต่สามารถขยับไปเล่นเป็นตัวริมเส้นได้ด้วย เขาเกิดในเยเรวาน และเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมท้องถิ่นอย่างเอฟซี พิวนิก ด้วยวัยเพียง 17 ปี โดยประสบความสำเร็จกับการแข่งขันภายในประเทศด้วยการคว้าแชมป์อาร์เมเนียน พรีเมียร์ลีก 4 สมัย รวมทั้งอาร์เมเนียน คัพอีก 1 สมัย จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้เขาได้รับการจับตามองจากเมตาลัวห์ โดเนตค์สและย้ายไปร่วมทีมในที่สุด จากนั้นหนึ่งฤดูกาลเขาย้ายไปร่วมทีมคู่แข่งร่วมเมืองตัวฉกาจซึ่งเป็นแชมป์ยูเครเนียน พรีเมียร์ลีกอย่างชัคตาร์ โดเนตค์สในปี 2010 ด้วยค่าตัว 6.1 ล้านยูโร

ระหว่างการลงเล่นที่ชัคตาร์ มคิทาร์ยานกลายเป็นที่รู้จักจากความห้าวหาญและความอัจฉริยะในการเล่นฟุตบอล และยังได้รับการเปรียบเทียบกับซีเนดีน ซีดานอีกด้วย มคิทาร์ยานมีสถิติในการมีส่วนร่วมกับการทำประตูทุกๆ 0.75 เกมให้กับชัคตาร์ รวมทั้งได้รับการบันทึกว่าทำได้ถึง 25 ประตูในฤดูกาล 2012-13 ในขณะเดียวกันเขายังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของยูเครเนียน พรีเมียร์ลีกอีกด้วย และจากการคว้าดับเบิลแชมป์ได้ถึง 3 ครั้งใน 4 ฤดูกาลกับชัคตาร์ ทำให้เขาได้รับความสนใจจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรจากบุนเดสลีก้าของเยอรมัน ซึ่งต่อมาเขาได้เซ็นสัญญาร่วมทีมโดยมีค่าตัวอยู่ที่ 27.5 ล้านยูโร ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอาร์เมเนียนที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาล

ในเยอรมัน มคิทาร์ยานกลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของยุโรปจากความสามารถในการสร้างสรรค์โอกาสและการทำประตู เขาพาทีมคว้าแชมป์เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพในปี 2014 โดยในระหว่างการค้าแข้งในเยอรมัน เขาได้รับการบันทึกว่าสามารถทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในบุนเดสลีก้าด้วยจำนวน 15 ลูกและมากที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป อย่างไรก็ตาม หลังจากคว้ารองแชมป์บุนเดสลีก้า เขาได้ย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ประเทศอังกฤษด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (34.3 ล้านยูโร) ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะอาร์เมเนียนคนแรกที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เขาลงประเดิมสนามและคว้าชัยชนะได้ในเกมคอมมูนิตี้ชิลด์ และยังเป็นผู้ยิงประตูชัยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีกเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ มคิทาร์ยานลงเล่นเพียงหนึ่งฤดูกาลครึ่งที่แมนเชสเตอร์ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับอย่างอาร์เซน่อลในปี 2018

มคิทาร์ยานก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมชาติตั้งแต่ปี 2007 โดยเขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติด้วยจำนวน 26 ประตูจากการลงเล่น 80 นัด รวมทั้งสามารถทำแฮตทริกได้อีกด้วย เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เมเนียถึง 7 ครั้งตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา (ยกเว้นปี 2010) นอกจากนี้เขายังได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของซีไอเอสในปี 2012 อีกด้วย ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะอาร์เมเนียนคนแรกที่คว้ารางวัลนี้จากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต และในปี 2013 เขาคว้ารางวัลนี้อีกครั้ง

เฮนริค มคิทาร์ยาน วัยเด็ก

เฮนริค มคิทาร์ยาน เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม 1989 ในเยเรวาน เมืองหลวงของอาร์เมเนีย โดยมีพ่อแม่ของเขาคือ แฮมเลตและมารีน่า พ่อของเขาเป็นอดีตกองหน้าคนสำคัญของเอฟซี อรารัต เยเรวานในระหว่างทศวรรษ 1980 แต่เสียชีวิตลงด้วยอาการเนื้องอกในสมองด้วยวัย 33 ปี ในขณะที่เฮนริคมีอายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น ส่วนแม่ของเขาเป็นชาวรัสเซียซึ่งมาจากมอสโคว จากการเสียชีวิตของพ่อของเขา ส่งผลกระทบสำคัญต่อตัวเฮนริคเอง เขารู้สึกและให้ความเห็นว่าถ้าพ่อของเขายังอยู่ ทุกๆสิ่งจะแตกต่างออกไป ผู้คนซึ่งเคยเห็นทั้งเฮนริคและพ่อของเขากล่าวว่า ทั้งสองคนมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันมากๆ นอกจากนี้เฮนริคยังกล่าวอีกว่า “ผมเชื่อว่าพ่อของผม มองเห็นผม และรู้สึกภูมิใจในตัวผม” ส่วนแม่ของเขาประกอบอาชีพเป็นหัวหน้าแผนกทีมชาติในสมาคมฟุตบอลอาร์เมเนีย และโมนิก้า พี่สาวของเขายังทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของยูฟ่าอีกด้วย

ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ครอบครัวมคิทาร์ยานย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งพ่อของเขาลงเล่นให้กับทีมเอเอสโอเอ เวล็องส์ (ปัจจุบันยุบทีมไปแล้ว) และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ ส่วนเฮนริคก็ใช้ชีวิตในวัยเด็กที่เวล็องส์ ซึ่งเขามีความปรารถนาที่จะเป็นนักฟุตบอลเช่นกันและเริ่มต้นเดินตามรอยพ่อของเขา ในวัยเด็กเขามักจะดูพ่อของเขาลงเล่นและจะคอยติดตามไปยังสนามซ้อมทุกครั้ง ครอบครัวมคิทาร์ยานย้ายกลับมายังเยเรวานอีกครั้งในปี 1995 โดยในปีเดียวกันนี้ เฮนริคได้เข้าสู่ทีมเยาวชนของเอฟซี พิวนิก ต่อมาเขาสำเร็จการศึกษาจากสถาบันกีฬาในอาร์เมเนีย และศึกษาต่อด้านเศรษฐศาสตร์จากสถาบันเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สาขาเยเรวาน หลังสำเร็จการศึกษา เขาวางแผนเรียนต่อเป็นนักกฎหมายที่นั่น ขณะที่ในปี 2003 มคิทาร์ยานในวัย 14 ปี ได้ย้ายไปทดลองเล่นให้กับเซา เปาโลในบราซิล ที่ซึ่งเขามีโอกาสได้ลงเล่นร่วมกับเฮอร์นาเนสและออสการ์ หลังจากนั้นเขากลับมายังพิวนิกอีกครั้งในปี 2014 ซึ่งผู้จัดการทีมอย่างมิไฮ สตอยชิต้า ได้มีส่วนช่วยให้เขาย้ายกลับมายังอาร์เมเนีย นอกจากนี้เมื่อเขาเติบโตขึ้น ยังมีซีเนดีน ซีดานเป็นแบบอย่างอีกด้วย

เฮนริค มคิทาร์ยาน เอฟซี พิวนิก

มคิทาร์ยานเข้าร่วมทีมเยาวชนของเอฟซี พิวนิกในปี 1995 และได้รับเงินเดือนครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี จากนั้นเขาถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยมีโอกาสประเดิมสนามนัดแรกในปี 2006 ด้วยวัยเพียง 17 ปี เขาลงเล่นเกมสุดท้ายให้กับทีมในฤดูกาล 2009 โดยในระหว่างซีซั่นนั้น เขายิงได้ 11 ประตู จากการลงสนาม 10 นัดในเกมลีก และจากตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลกับพิวนิก เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์อาร์เมเนียน พรีเมียร์ลีก 4 สมัย (ในปี 2006 2007 2008 และ 2009) รวมทั้งอาร์เมเนียน ซูเปอร์คัพ 2 สมัย (ปี 2007 และ 2009) และอาร์เมเนียน คัพอีก 1 สมัย (ปี 2009) ขณะที่วาร์ดาน มินาสยาน เฮดโค้ชของเอฟซี พิวนิกและทีมชาติอาร์เมเนียยอมรับว่า เขาอยากที่จะเห็นเฮนริคลงเล่นในลีกที่แข็งแกร่งขึ้น มินาสยานยังกล่าวอีกว่า เฮนริคมีเส้นทางที่ดีและจะกลายเป็นผู้เล่นระดับตำนานได้ นอกจากนี้ยังกล่าวต่อไปว่า ”เฮนริคสามารถคว้าชัยชนะได้ด้วยตัวของเขา เขาสามารถควบคุมจังหวะสำคัญได้และยิงประตูอย่างสนุกสนาน” จากความสำเร็จในการคว้าแชมป์อาร์เมเนียน พรีเมียร์ลีกในปี 2009 ทำให้เขาได้ย้ายไปร่วมทีมเมตาลัวห์ โดเนตค์สในยูเครเนียน พรีเมียร์ลีก

เฮนริค มคิทาร์ยาน เมตาลัวห์ โดเนตค์ส

มคิทาร์ยานย้ายมาร่วมทีมเมตาลัวห์ โดเนตค์สในปี 2009 โดยเขาสามารถยิงประตูได้ในการลงสนามนัดแรกในเกมยูโรป้า ลีก โดยมีชัยชนะ 3-0 เหนือปาร์ติซาน มินค์สจากบัลแกเรีย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2009 จากนั้นในวันที่ 19 กรกฎาคม เขาลงประเดิมสนามในเกมลีกในนัดที่เสมอกับดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟ 0-0 ต่อมาเขายิงประตูแรกในเกมลีกได้สำเร็จในเกมที่เสมอกับคาร์พาตี้ ลวิฟ 2-2 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม หลังจากนั้นเขายิงประตูเบิกร่องได้ในชัยชนะ 3-0 ต่อลูบลิยาน่าจากสโลวีเนีย ในเกมยูโรป้า ลีก เลกสอง ทำให้ชนะด้วยสกอร์รวม 5-0 ในฤดูกาลต่อมา เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2010 ด้วยวัยเพียง 21 ปี ซึ่งทำให้เขากลายเป็นกัปตันทีมที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย เขาทำประตูแรกของฤดูกาลได้จากการยิงจุดโทษในนาทีที่ 89 ช่วยให้ทีมเอาชนะโอโบโลน เคียฟ 3-0 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม จากนั้นเขาลงเล่นนัดสุดท้ายให้กับทีมในเกมเอาชนะดนิโปร 2-1 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2010 โดยในซีซั่นที่สองของเขานี้ เขาลงเล่นไป 8 นัด และทำได้ 3 ประตู ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในเกมลีก นอกจากนี้เขามีสถิติลงเล่นให้กับทีมในเกมลีกนับตั้งแต่ย้ายมาไปทั้งสิ้น 37 นัดและทำได้ทั้งหมด 12 ประตู ขณะเดียวกัน เขาลงสนามในทุกรายการไปทั้งสิ้น 45 นัดและทำได้ 16 ประตู

เฮนริค มคิทาร์ยาน ชัคตาร์ โดเนตค์ส 2010

วันที่ 30 สิงหาคม 2010 เขาย้ายมาร่วมทีมชัคตาร์ โดเนตค์ส ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร โดยก่อนที่เขาจะย้ายมายังชัคตาร์ เขาได้ไปทดสอบฝีเท้ากับเมส เคอร์มาน ในลีกประเทศอิหร่าน แต่โดนปฏิเสธการร่วมทีมโดยซามัด มาร์ฟาวี เฮดโค้ชของทีม เขามีโอกาสประเดิมสนามให้กับชัคตาร์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2010 ในเกมที่บุกไปแพ้โอโบโลน เคียฟ 1-0 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่เอดูอาร์โดในนาทีที่ 62 จากนั้นกลับมาลงสนามในบ้านนัดแรกในเกมที่ถล่มทาฟริว่า ซิมเฟโรโปล 4-1 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2010 โดยเขายิงประตูแรกของเขาได้ในเกมนี้ สามวันต่อมาเขาลงสนามในยูเครเนียน คัพเป็นครั้งแรกและยิงประตูที่สองของทีมในชัยชนะ 6-0 เหนือครีฟบาส ต่อมาวันที่ 25 กันยายน 2010 เขายิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ในเกมเฉือนชนะเมตาลิสต์ คาร์คีฟ 2-1 จากนั้นเขาลงสนามในเกมยุโรปให้กับทีมเป็นครั้งแรกในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2010 ในเกมเอาชนะบราก้า 3-0 และมีโอกาสลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูเครเนียน คัพ โดยลงเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 81 แทนที่แจ๊ดสัน ซึ่งในซีซั่นนั้นของเขากับทีม เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ (ยูเครเนียน พรีเมียร์ลีก, ยูเครเนียน คัพและซูเปอร์ คัพ)

เฮนริค มคิทาร์ยาน ชัคตาร์ โดเนตค์ส 2011

ในฤดูกาลนี้ ชัคตาร์คว้าแชมป์ยูเครเนียน พรีเมียร์ลีกและยูเครเนียน คัพได้ โดยมคิทาร์ยานยิงประตูที่สามในชัยชนะ 4-0 เหนือโอโบโลน เคียฟในเกมลีกนัดแรกของซีซั่น จากนั้นวันที่ 4 มีนาคม 2012 เขายิงประตูตีเสมอในเกมที่เสมอกับดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟ 1-1 นอกจากนี้เขายิงประตูชัยในบอลถ้วย ในเกมเอาชนะเมตาลัวร์ ซาโปริซญ่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2012 ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม 2012 เขาลงสนามพบทีมเก่าอย่างเมตาลัวห์ โดเนตค์สในเกมยูเครเนียน คัพ รอบชิงชนะเลิศและเอาชนะไปได้ 2-1 ในช่วงต่อเวลา โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 62 ให้ดักลาส คอสต้าลงเล่นแทน และจากผลสำรวจออนไลน์ของเว็บไซต์ทางการของสโมสร มคิตาร์ยานถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของทีมในฤดูกาล 2011-12 ด้วยจำนวน 38% โดยเขาทำไปได้ 11 ประตูจากการลงเล่น 37 นัดในทุกรายการ โดยแบ่งเป็น 10 ประตูจาก 26 นัดในเกมลีก และยังส่งผลให้ชัคตาร์ โดเนตค์สคว้าแชมป์ยูเครเนียน พรีเมียร์ลีกและยูเครเนียน คัพได้สำเร็จ

เฮนริค มคิทาร์ยาน ชัคตาร์ โดเนตค์ส 2012

มคิตาร์ยานได้ลงเล่นในเกมเอาชนะเมตาลัวห์ โดเนตค์ส 2-0 ในรายการซูเปอร์ คัพ 2012 และเขาประเดิมสนามนัดแรกในเกมลีกของซีซั่นด้วยการยิงสองประตูและทำสองแอสซิสต์ในเกมถล่มอาร์เซน่อล เคียฟ 6-0 จากนั้นเขาทำแฮตทริกได้ในเกมชนะโคโนโมเลทส์ โอเดซา 5-1 ซึ่งทำให้เขาทำไปแล้ว 10 ประตูหลังผ่านไปเพียงแค่ 6 นัดเทียบเท่าสถิติฤดูกาลก่อนทั้งฤดูกาล ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2012 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกนัดแรกของทีม เขาเหมาคนเดียวสองประตูในเกมเอาชนะนอร์ดเจลแลนด์จากเดนมาร์ก 2-0 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาทำประตูได้ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกและยังคว้าแมนออฟเดอร์แมตช์อีกด้วย นอกจากนี้เขายังมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ในการแข่งขันนัดแรกของแชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากนั้นในวันที่ 16 มีนาคม 2013 เขาลงเล่นเกมที่ 100 ในยูเครเนียน พรีเมียร์ลีกในนัดที่พบกับโคโนโมเลทส์ โอเดซา วันที่ 11 พฤษภาคม 2013 เขายิงประตูที่ 23 และ 24 ของเขาได้ในเกมถล่มทาฟเรีย 5-0 ในเกมลีก ซึ่งจากสองประตูนี้ทำให้ได้รับการบันทึกสถิติยิงประตูมากที่สุดของฤดูกาล หลังจากนั้นเขาจบฤดูกาลด้วยการทำไปทั้งสิ้น 25 ประตูในเกมลีกและได้รับการชื่นชมจากเทคนิคการเล่นและความทุ่มเทของเขา “มันไม่ง่ายเลยสำหรับเขาในช่วงเริ่มต้น แต่เขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยความอัจฉริยะขั้นสูงของเขาในด้านฟุตบอล ความตระหนักรู้ในเกมของเขาบางทีอาจจะคุณสมบัติที่มีค่ามากที่สุดในตัวเขา และรวมถึงความรวดเร็ว พละกำลัง และเทคนิคซึ่งเป็นพรสวรรค์ของเขาโดยธรรมชาติและจากการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะคุณสมบัติที่ดีเหล่านี้ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สามารถเติมเต็มสิ่งที่สต๊าฟฟ์โค้ชมอบหมายให้อย่างเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้เขายังลงเล่นด้วยความสนุกสนาน” เมอร์เซีย ลูเซสคู กุนซือของมคิทาร์ยานที่ชัคตาร์ โดเนตค์ส กล่าวไว้เมื่อเดือนมิถุนายน 2013

เฮนริค มคิทาร์ยาน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2013

วันที่ 25 มิถุนายน 2013 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ยื่นข้อเสนอมูลค่า 25 ล้านยูโร (30 ล้านเหรียญ) แม้ว่าเซร์กี้ พาลกิ้น ซีอีโอของชัคตาร์ โดเนตค์สจะยืนยันว่าค่าตัวในการย้ายทีมของเขาคือ 30 ล้านยูโร (36 ล้านเหรียญ) ก็ตาม ซึ่งในงานแถลงข่าวเดียวกัน พาลกิ้นยังกล่าวต่อด้วยว่าเขาได้เซ็นสัญญาคว้าตัวเฟร็ด นักเตะบราซิเลียนมาจากอินเตอร์นาซิอองนาลด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร (12.5 ล้านปอนด์) เป็นการแทนที่ จากนั้นในวันที่ 5 กรกฎาคม 2013 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ประสบความสำเร็จในการเจรจาสัญญาและนำตัวมคิทาร์ยานมายังเยอรมันเพื่อตรวจสภาพร่างกาย และในวันที่ 8 กรกฎาคม 2013 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการเซ็นสัญญา 4 ปีคว้าตัวมคิทาร์ยานมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร (21.5 ล้านปอนด์) ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร

การลงสนามนัดแรกของเขาเป็นเกมพรีซีซั่น ในนัดกระชับมิตรกับเอฟซี บาเซิลเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2013 โดยเขาสามารถทำแอสซิสต์ให้มาร์โค รอยส์ได้ในนาทีที่ 11 ก่อนยิงประตูแรกของตัวเองในสีเสื้อทีมใหม่ในนาทีที่ 16 ก่อนช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3-1 ที่เซนต์ ยาคอป ปาร์ค หลังจากนั้นตัวเขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมและไม่มีชื่อในรายการเดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ ซึ่งทีมของเขาคว้าชัยชนะไปได้ เนื่องจากตัวเขามีอาการบาดเจ็บจากเกมอุ่นเครื่องนัดก่อนหน้านั้น มคิตาร์ยานกลับมาลงสนามได้อีกครั้งหลังพักไปนานสามสัปดาห์ ในเกมบุนเดสลีก้านัดที่เปิดบ้านซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค เอาชนะไอน์ทรัค เบาน์ชไวน์เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2013 หลังจากนั้นเขาเหมาสองประตูในชัยชนะ 2-1 เหนือไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต ส่งผลให้ดอร์ทมุนด์นำเป็นจ่าฝูงต่อไป ต่อมาเขายิงประตูแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีกให้กับทีมได้ในเกมบุกชนะอาร์เซน่อล 2-1 มคิทาร์ยานจบฤดูกาลด้วยการทำ 9 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ในบุนเดสลีก้า และมีชื่ออยู่ในทีมแห่งฤดูกาลของ WhoScored นอกจากนี้เขายังพาต้นสังกัดเป็นรองแชมป์บุนเดสลีก้าและรองแชมป์เดเอฟเบ โพคาลอีกด้วย

เฮนริค มคิทาร์ยาน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2014

เขาคว้าโทรฟี่แรกร่วมกับทีมได้สำเร็จในรายการเดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ 2014 ด้วยการยิงประตูเบิกร่องในชัยชนะเหนือบาเยิร์น มิวนิค 2-0 จากนั้นในเดือนกันยายน 2014 เขาได้รับอาการบาดเจ็บทำให้ต้องพักนานหนึ่งเดือน ต่อมาวันที่ 13 ธันวาคม 2014 เขาได้รับอาการบาดเจ็บอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2015 เขายิงประตูที่สองของทีมในเกมชนะ 3-0 เหนือชาลเก้ 04

เฮนริค มคิทาร์ยาน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2015

วันที่ 6 สิงหาคม 2015 ดอร์ทมุนด์ลงสนามพบกับวูล์ฟแบร์เกอร์ในยูโรป้า ลีก รอบคัดเลือกรอบสาม นัดที่สอง ซึ่งเป็นเกมที่โทมัส ทูเคิล กุนซือคนใหม่คุมทีมเป็นนัดแรก มคิทาร์ยานสามารถทำแฮตทริกได้ในเกมนี้ และพาทีมคว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 5-0 ส่งผลให้ทีมผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยสกอร์รวม 6-0 จากนั้นสามวัน เขายิงประตูตอกย้ำชัยชนะ 2-0 ในเกมเอาชนะเคมนิตเซอร์ จากดิวิชั่น 3 ในรายการเดเอฟเบ โพคาล รอบแรก ต่อมาวันที่ 15 สิงหาคม 2015 เขาทำประตูได้ในเกมชนะโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 4-0 ซึ่งเป็นประตูแรกในลีกของเขาในซีซั่นนั้น ห้าวันให้หลัง เขาโขกประตูชัยในชัยชนะ 4-3 เหนือออดส์ บีเค หลังจากที่ตามหลังไปก่อนถึง 3-0 ในการแข่งขันยูโรป้า ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรก

ในเกมรอบที่สองในการแข่งขันบอลถ้วยภายในประเทศเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2015 มคิตาร์ยานทำประตูสุดท้ายในชัยชนะ 7-1 เหนือเอสซี พาเดอร์บอร์น แปดวันต่อมาเขาทำประตูได้อีกครั้งในเกมเปิดบ้านเอาชนะกาบาล่า เอฟเค 4-0 ส่งผลให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ศึกยูโรป้า ลีก วันที่ 20 เมษายน 2016 มคิทาร์ยานเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูได้ในเกมบุกชนะแฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-0 ในรอบรองชนะเลิศเดเอฟเบ โพคาล สิ้นสุดฤดูกาล มคิทาร์ยานได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของบุนเดสลีก้า โดยเขาสามารถทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดถึง 15 ลูก

เฮนริค มคิทาร์ยาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันที่ 2 กรกฎาคม 2016 ฮานส์ โยอาคิม วัตต์ส ซีอีโอของดอร์ทมุนด์กล่าวว่า การขายมคิทาร์ยานไปให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยตัวฟรี หลังนักเตะเหลือสัญญากับทีมอีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้น โดยสี่วันให้หลัง มคิทาร์ยานย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยสัญญา 4 ปีโดยมีค่าตัวอยู่ระหว่าง 27 -30 ล้านปอนด์ พร้อมออปชั่นขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอาร์เมเนียคนแรกที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มคิทาร์ยานลงสนามนัดแรกในเกมพรีซีซั่น เป็นนัดที่เอาชนะวีแกน แอธเลติก 2-0 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2016 จากนั้นในวันที่ 7 สิงหาคม 2016 เขาลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกโดยลงเป็นตัวสำรองในเกมชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในรายการคอมมูนิตี้ ชิลด์ จากนั้นเขาได้รับการบันทึกว่าเป็นนักเตะอาร์เมเนียคนแรกที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2016 ในเกมบุกชนะบอร์นมัธ 3-1 โดยลงเป็นตัวสำรองแทนที่ฆวน มาต้าในนาทีที่ 75 ต่อมาเขาลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกนัดแรกในเกมดาร์บี้แมตช์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2016 แต่ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งเวลา วันที่ 8 ธันวาคม 2016 เขาทำประตูแรกของเขาให้กับทีมได้สำเร็จในเกมเยือนซอร์ญ่า ลูฮานค์ส ซึ่งเป็นเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายในศึกยูโรป้า ลีก สามวันต่อมาเขายิงแรกในพรีเมียร์ลีกได้ (เป็นประตูแรกในโอลด์ แทรฟฟอร์ด) ซึ่งเป็นประตูชัยเหนือท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 แต่อย่างไรก็ตาม เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งเวลาหลัง หลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าจากการเข้าปะทะกับแดนนี่ โรส จากนั้นเขากลับมาลงสนามอีกครั้งหลังผ่านไปสองเกม โดยเป็นตัวสำรองและทำประตูที่สามของทีมได้ในเกมกับซันเดอร์แลนด์ โดยเป็นการยิงแบบ scorpion kick ซึ่งเขาอธิบายในภายหลังว่าเป็นประตูที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำ ต่อมาเขาทำประตูได้อีกครั้งในเกมยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิศในชัยชนะเหนืออาแจ็กซ์ 2-0 ส่งผลให้เขาเป็นนักเตะอาร์เมเนียคนแรกที่คว้าแชมป์รายการยุโรปมาครอง ในสามนัดแรกของฤดูกาล 2017-18 เขาทำสถิติแอสซิสต์ได้ถึง 5 ลูก แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเขาฟอร์มตกอย่างหนักและถูกหั่นออกจากทีมตัวจริงนับตั้งแต่เกมชนะนิวคาสเซิล 4-1

เฮนริค มคิทาร์ยาน อาร์เซน่อล

วันที่ 22 มกราคม 208 อาร์เซน่อลได้ประกาศเซ็นสัญญาดึงตัวมคิทาร์ยานมาร่วมทีม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสลับตัวกับอเล็กซิส ซานเชส ซึ่งย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากนั้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 เขาลงเป็นตัวจริงนัดแรกให้ทีมในเกมเปิดบ้านเอาชนะเอฟเวอร์ตัน 5-1 โดยเขาทำได้ถึง 3 แอสซิสต์ ต่อมามคิทาร์ยานหายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเขาสามารถทำประตูทีมเก่าได้แม้ว่าจะแพ้ไป 2-1 ก็ตาม ซึ่งเขาปฏิเสธที่แสดงความดีใจเพื่อเป็นการให้เกียรติทีมเก่าเช่นกัน

เฮนริค มคิทาร์ยาน อาร์เมเนีย

มคิทาร์ยานลงเล่นทีมชาตินัดแรกในเกมกระชับมิตรกับปานามา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2007 จากนั้นเขาทำ 6 ประตูให้กับทีมชาติอาร์เมเนียในการแข่งขันยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่มบี ซึ่งส่งผลให้เขาเป็นดาวซัลโวประจำกลุ่มในรอบคัดเลือกนี้ ถึงแม้ว่าทีมชาติของเขาจะไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ก็ตาม แต่จากผลงานของเขาในรอบคัดเลือก ทำให้เขามีชื่อติดอยู่ในทีมรวมดารา วันที่ 10 กันยายน 2013 จากการขาดหายไปของโรมัน เบเรซอฟสกี้ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม ส่งผลให้การสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาตินัดแรกของมคิทาร์ยานพ่ายแพ้คาบ้านให้กับเดนมาร์ก 1-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก จากนั้นเขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของอาร์เมเนีย หลังทำประตูที่ 12 ของตัวเองในเกมที่แพ้ต่ออิตาลี 1-3 ในเกมรอบคัดเลือกอีกนัดหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม โดยเป็นการทำลายสถิติ 11 ประตูของอาเธอร์ เปตรอสยาน วันที่ 27 พฤษภาคม 2014 เขาทำสองประตูในเกมกระชับมิตรกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่สนามสต๊าด เดอ ฟอนเตเนต ในเมืองคารูจ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยชนะไป 4-3 จากนั้นสองปีกับอีกหนึ่งวัน เขายิงแฮตทริกแรกในนามทีมชาติได้ในเกมกระชับมิตรกับกัวเตมาลาที่ลอสแอนเจลลิส ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะ 7-1

เฮนริค มคิทาร์ยาน รูปแบบการเล่น

มคิทาร์ยานเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก แต่เขาสามารถขยับไปเล่นเป็นกองหน้าตัวต่ำและปีกได้ โดยปกติแล้วเขาจะถูกจับให้เล่นในพื้นที่กลางสนามซึ่งอยู่ด้านหลังศูนย์หน้า และบ่อยครั้งจะเห็นเขาเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมบริเวณกรอบเขตโทษ เขาเป็นที่รู้จักดีถึงความสามารถในการดึงแนวรับคู่แข่งออกจากตำแหน่งเพื่อสร้างพื้นที่ว่างให้เพื่อนร่วมทีม และการสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตู เขามีการเคลื่อนที่ที่อันตราย รวมทั้งมีเทคนิคและการอ่านเกมที่ดี นอกจากนี้เขายังได้รับการยกย่องในเรื่องการผ่านบอลที่แม่นยำ มีไอเดีย มีการคอนโทรลบอลที่ดีและการทำงานหนัก อีกทั้งสายตาที่แม่นยำในการจ่ายบอลจังหวะสุดท้าย ซึ่งความสามารถและเทคนิคเหล่านี้ช่วยให้เขาเอาชนะแนวรับคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดีในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง และเขายังเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูได้แม่นยำคนหนึ่งด้วย ในระหว่างฤดูกาล 2012-13 แพท เนวิน อดีตนักเตะสกอตต์กล่าวถึงมคิทาร์ยานว่า “11 ประตูจาก 8 นัดในเกมลีก ช่างเป็นสิ่งน่ามหัศจรรย์ แต่ถ้าคุณมองให้ดีเขาคือกองกลาง มันเป็นปรากฏการณ์ คุณอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเขา แต่ทีมแมวมองทั่วยุโรปรู้จักเขา และคุณจะได้ยินชื่อของเขาในเร็ววันนี้ เขามีจังหวะการเล่นที่ดี ทักษะที่ดี มีลูกยิงดั่งจรวด และความสามารถในการเคลื่อนที่เข้ากรอบเขตโทษเหมือนแฟรงค์ แลมพาร์ด จากสิ่งเหล่านี้เขาจึงเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองหรือทำเครื่องหมายไว้ให้ชัดเจน”

เฮนริค มคิทาร์ยาน ชีวิตส่วนตัว

มคิทาร์ยาน มีชื่อเล่นว่า เฮโน เป็นคำย่อของเฮนริค ซึ่งถูกเรียกโดยแฟนบอลในอาร์เมเนีย และโดยส่วนตัวแล้วเขาชื่นชอบชื่อเล่นนี้ หลังย้ายมาอยู่กับดอร์ทมุนด์ เขากลับถูกเรียกบ่อยๆโดยแฟนบอลทั่วไปว่า มิกกี้ อย่างไรก็ตามเขากลับไม่ชื่นชอบชื่อนี้เท่าไหร่นัก และเคยบอกกับแฟนบอลเป็นการส่วนตัวด้วยว่าให้เคารพนามสกุลภาษาอาร์เมเนียนดั้งเดิมของเขา “ผมต้องมาอยู่ในประเทศอื่นและผมเคารพกฎหมายและประเพณีของพวกเขา แต่ผมเองก็ต้องการให้พวกเขาเคารพในความรักที่ผมมีต่อบ้านเกิดและรากเหง้าของผม ผมจะไม่ปรับและเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ผมจะยิงประตูแล้วหลังจากนั้นพวกเขาจะจำชื่อของผมได้อย่างแน่นอน” เขากล่าวในการสัมภาษณ์หลังจากเยอร์เก้น คลอปป์ตั้งชื่อเล่นนี้ให้เขา เพราะว่านามสกุลของเขายาวเกินไปที่จะเรียก และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มโอเคกับการใช้ชื่อเล่นนี้ โดยในอินสตราแกรมส่วนตัวของเขาใช้ชื่อว่า micki_taryan มคิทาร์ยานเป็นคนพูดได้หลายภาษา ซึ่งเขาสามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา ได้แก่ อาร์เมเนียน ฝรั่งเศส โปรตุกีส รัสเซีย ยูเครน อังกฤษและเยอรมัน โดยเขาสามารถพูดภาษารัสเซียได้จากการเรียนรู้กับคุณยายซึ่งเป็นชาวรัสเซีย นอกจากนี้เขาเรียนรู้ภาษาอาร์เมเนียน ฝรั่งเศส โปรตุกีสจากการใช้ชีวิตในวัยเด็ก และอีกสี่ภาษาที่เหลือจากการย้ายไปเล่นในประเทศเหล่านั้น นอกจากนี้ที่สนามดอนบาส อารีน่าของชัคตาร์ จะมีวัฒนธรรมการเปิดเพลงทุกๆ ครั้งที่ผู้เล่นทีมเจ้าบ้านทำประตูได้ โดยเพลงที่เปิดจะสอดคล้องกับสัญชาติของผู้ยิงประตูคนนั้นๆ และเพลง “Sabre Dance” ของอาราม คาชาทูเรียน นักดนตรีชาวอาร์เมเนียนจะถูกเปิดทุกครั้งที่มคิทาร์ยานทำประตูได้ ในปี 2012 จากการลงมติของศาลาว่าการเมืองเยเรวานและความร่วมมือจากสภาเมืองในการเฉลิมฉลองครั้งที่ 2,794 ทำให้มคิทาร์ยานได้รับรางวัลพลเมืองกิตติมศักดิ์จากความสำเร็จอันยอดเยี่ยมในวงการฟุตบอลและรางวัลที่เขาได้รับจากวงการกีฬา มคิทาร์ยานได้ไปเยี่ยมเยียนสาธารณรัฐอาร์ทซัคถึงสามครั้งสำหรับงานการกุศล โดยในเดือนธันวาคม 2011 เขาได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนเมืองสเตปานาเคิร์ท เมืองหลวงของดินแดนพิพาท และได้มอบของขวัญให้กับครอบครัวของทหารที่เสียชีวิต ซึ่งหลังจากนั้นทำให้เขาได้รับรางวัล NKR Prime Minister ทันที