แบร์นาโด้ ซิลวา จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเขาต้องได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป
ในการสนทนากับ เจา ทรัลฮาว อดีตโค้ชของ เบนฟิก้า สโมสรดังในลีกโปรตุเกส ซึ่งเป็นอดีตต้นสังกัดเก่าของ แบร์นาโด้ นั้น อดัม เบต กูรูลูกหนังเมืองผู้ดีตรวจสอบว่ากองกลาง “เรือใบสีฟ้า” ต้องผ่านวิกฤติความเชื่อมั่นของเขาในฐานะดาวรุ่งก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
มันเป็นความสำเร็จในประเทศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในทุกๆการแข่งขันของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” แบร์นาโด้ ได้กลายเป็นคนสำคัญในทีมมันทำให้ทุกอย่างน่าทึ่งมากขึ้น เขาไม่เคยเชื่อว่าเขาถูกลิขิตมาเพื่อจุดสูงสุด
ในความเป็นจริงในฐานะดาวรุ่งที่เล่นให้กับ เบนฟิก้า อันเป็นสโมสรที่เขารัก และให้การสนับสนุนตั้งแต่เขายังเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ และยังคงติดตามมาจนถึงทุกวันนี้ แบร์นาโด้ ก็พร้อมที่จะยอมแพ้ให้กับความไม่แน่นอนในเส้นทางอาชีพ
ทรัลฮาว ซึ่งเป็นโค้ชในสถาบันฝึกฟุตบอลเยาวชนของ เบนฟิก้า ในเวลานั้นยังจดจำได้ดี เขาบอกกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชื่อดังของประเทศอังกฤษว่า “แบร์นาโด้ ต้องการเลิกเล่นให้กับ เบนฟิก้า เขาต้องการที่จะเดินออกจากความฝันของเขา”
“ช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากเริ่มเข้ามา เพราะเขาพยายามสร้างความประทับใจ ตอนที่เขาอายุประมาณ 15 หรือ 16 ปี เขาไม่ได้เล่นมากนัก ไม่มีที่สำหรับเขาในทีม เบนฟิก้า มันเป็นปมในใจของดาวรุ่งคนหนึ่งที่ไม่มีที่ว่างสำหรับเขาในเกม”
“ผมรู้จักเขาตั้งแต่อายุยังน้อยมาก ในเวลานั้นผมดูการประชุมของทีมทุกกลุ่มอายุ และผมได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของผมเกี่ยวกับทุกสิ่ง ความสามารถของเขาไม่ได้เป็นปัญหา แต่เขามีความกังวลในบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง”
ขณะเดียวกัน นูโน โกเมส อดีตหัวหอกทีมชาติโปรตุเกส ของ เบนฟิก้า ซึ่งปัจจุบันเป็นโค้ชทีมเยาวชนของ “เหยี่ยวลิสบอน” กล่าวถึง แบร์นาโด้ ว่า “เขาต้องดิ้นรนอย่างมาก เพราะขนาดร่างกายของเขาที่ค่อนข้างเล็ก เขาไม่แข็งแรงเท่ากับเด็กชายคนอื่น”
ขณะเดียวกัน เฟอร์นานโดด ชาลานา ทำงานเป็นโค้ชที่โรงเรียน เบนฟิก้า ยังจำได้ว่า แบร์นาโด้ อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของเขาในฐานะอัจฉริยะตัวน้อย เพราะทักษะของเขาในตำแหน่งปีก และการเล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ ซึ่ง ดาวเตะวัย 25 ปี มีรูปร่างเล็ก และสูงเพียง 5’5 ฟุต เท่านั้น
ชาลานา เป็นคนผลักดันให้ แบร์นาโด้ เข้าไปอยู่ในทีมเยาวชนของ เบนฟิก้า ซึ่งทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุยกัน และ ปีก แมนฯซิตี้ ก็ให้เครดิตกับอดีตโค้ชของเขามากทีเดียว โดย แบร์นาโด้ เล่าว่า “เขาบอกผมว่าต้องเอาชนะกรอบของตัวเองเพื่อให้ประสบความสำเร็จในอาชีพของผมในระดับสูงสุด”
“ผมไม่ควรท้อแท้เพราะขาดเวลาลงสนามเพียงไม่กี่นาที เขาเป็นคนที่ให้คำแนะนำที่ดีที่สุด นั่นอาจเป็นการสนทนาที่สำคัญที่สุดที่ผมมีในชีวิตของตัวเอง หากไม่มี ชาลานา ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน”
ความสำคัญของเวลานั้น คือ มันทำให้เด็กหนุ่มซึมซับความเชื่อที่ว่าเขาสามารถแข่งขันได้ ความเชื่อที่ขาดไป นี่ไม่ใช่เรื่องราวของลูกเป็ดขี้เหร่ที่กลายเป็นหงส์ ไม่มีการเจริญเติบโต ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แบร์นาโด้ ยังคงมีความสูงเพิ่มมาเพียง 5’8 ฟุตเท่านั้น
ทรัลฮาว กล่าวว่า “สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมุมมองของเขา ความคิดของเขา ผมพูดกับเขาในเวลานั้น เรามีการสนทนาที่เปิดกว้างมากเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อยืนยันศักยภาพของเขาในเวลานั้น เขาไม่สามารถคิดถึงคุณสมบัติทางกายภาพของเขาได้ มันไม่สำคัญ เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดของเขา ฟุตบอลอาชีพจะทำให้เกิดอุปสรรคมากมายต่อหน้าของคุณ และคุณไม่สามารถยอมแพ้ คุณต้องก้าวขึ้นไปอีก”
“เราได้พูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นต่อไป เขาต้องเข้าใจว่า เขาสามารถทำงานอะไรได้และสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ เพราะคุณสมบัติทางกายภาพนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น ดังนั้น ให้เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ ในฐานะที่เป็นจุดสนใจของคุณ ผมรับรองเขาเพราะผมรู้ถึงความสามารถของเขาว่า ถ้าเขาทำเช่นนั้น เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่เขาต้องการจะเป็น”
เมื่อได้ลงสนามต่อเนื่องกับนักเตะอายุน้อยกว่าในทีม แบร์นาโด้ ก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญสำหรับทีม U19 ของ เบนฟิก้า โดย ทรัลฮาว เล่าต่อว่า “ผมทำให้เขาเป็นกัปตันของผม และเราชนะในลีก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะลีกนั้นแข็งแกร่งมาก และเราไม่ใช่ทีมที่เน้นกายภาพเลย เรามีเทคนิคและยุทธวิธี ดังนั้นเราจึงแตกต่างจากทีมอื่น”
“ความสำเร็จของ แบร์นาโด้ ในทีมนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางกายภาพที่ดีขึ้นของเขา เพราะตอนอายุ 19 เขาเป็นเช่นเดียวกับที่เขาเคยเป็นเมื่ออายุ 17 ปี มันเป็นเรื่องของความคิดของเขา ความเชื่อมั่นมีความสำคัญมากสำหรับเขา การเชื่อมต่อที่ดีมากในช่วงสองปีที่เราทำงานด้วยกัน เพราะเขาเชื่อใจผม และผมก็เชื่อในตัวเขา”
น่าเศร้าสำหรับ เบนฟิก้า โค้ชทีมแรกของพวกเขาในเวลานั้นอย่าง ฆอร์เก้ เฆซุส ก็ไม่เชื่ออย่างนั้น แม้ แบร์นาโด้ จะก้าวไปอีกขั้นกับทีมบี โดยมิดฟิลด์ทัพ “เรือใบสีฟ้า” ระบุว่า “ผมฝึกซ้อมเป็นแบ็คซ้าย และผมก็รู้ว่าผมไม่มีอนาคตในทีมอีกแล้ว”
แบร์นาโด้ ทำใจยอมรับในภายหลังว่าอาชีพของเขากับ เบนฟิก้า คงจบแล้ว แต่โชคดีที่คนอื่นสังเกตเห็นพรสวรรค์ของเขาอยู่แล้ว เมื่อข้อเสนอมาจาก โมนาโก ในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส เข้ามาให้พิจารณา เขาก็ไม่ลังเลที่จะย้ายไปเล่นที่นั่น
ความสำเร็จที่ตามมาของ แบร์นาโด้ นั้นดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีความกดดันอีกต่อไป การเปลี่ยนไปใช้ชีวิตที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ราบรื่น และภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา โค้ช “เรือใบสีฟ้า” นั้นเป็นไปได้ด้วยดี
ขณะเดียวกัน ทรัลฮาว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ แบร์นาโด้ ประสบความสำเร็จกับ แมนฯซิตี้ เพราะอดีตลูกทีมของเขานั้น มีคุณสมบัติทั้งหมดที่ กวาร์ดิโอลา โหยหาในการเล่น มันเป็นความสมบูรณ์แบบสำหรับทั้งตัวนักเตะ และสโมสร
“เราไม่สามารถลืมทักษะทางเทคนิคของ แบร์นาโด้ เขาเป็นผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก นั่นเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุดของเขา แต่หากต้องการความคิดสร้างสรรค์ คุณต้องมีสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณที่ส่งเสริมพฤติกรรมนี้ และมันจะกลายเป็นจินตนาการ อิสรภาพ และทุกอย่างจะกลายเป็นปฏิกิริยา”
“ถ้าคุณเปิดใจของผู้เล่นให้เพียงพอ คุณก็จะสร้างผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และสร้างผู้เล่นที่มีทักษะในการตัดสินใจที่ดีกว่า ผมคิดว่านี่เป็นความลับอย่างหนึ่งที่เห็นว่า แบร์นาโด้ ระเบิดฟอร์มสุดยอดในฐานะผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกม เขามีความคิดสร้างสรรค์ และตัดสินใจได้ดีในตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในสนาม”
“เขาสามารถเล่นเป็นเบอร์ 8 หรือเบอร์ 10 หรือเป็นปีกก็ได้ และในเชิงกลยุทธ์ผมคิดว่า กระบวนการพัฒนาของเขาได้ส่งเสริมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของเขา ถ้าคุณดูเวลาของเขาที่โมนาโก เลโอนาร์โด จาร์ดิม ก็ทำเช่นเดียวกัน เขาปล่อยให้ แบร์นาโด้ เล่นเป็นตัวฟรีอย่างอิสระ ซึ่ง กวาร์ดิโอลา ก็ทำแบบเดียวกัน ฟุตบอลของเขามีความคิดสร้างสรรค์มาก และให้ความเป็นไปได้สำหรับ แบร์นาโด้ ในการตัดสินใจที่ดีเหล่านั้น” ทรัลฮาว กล่าว
ที่น่าสนใจเมื่อถูกถามในการสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป U21 ในปี 2015 สิ่งที่เขามองว่าเป็นคุณภาพที่ดีที่สุดของเขา แบร์นาโด้ อ้างถึงการตัดสินใจของเขาว่าเป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
ความรู้เกี่ยวกับเวลาที่จะเพิ่มความเร็วในการเล่น และเมื่อจะทำให้จังหวะช้าลงเมื่อกลับไปเป็นรูปแบบการป้องกัน หรือใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนั้นหายาก แต่ อดีตมิดฟิลด์ เบนฟิก้า ก็มีอยู่เสมอ และใช้เป็นประจำในสนาม
บางทีการศึกษาของ แบร์นาโด้ ในโรงเรียนเบนฟิก้าที่อุดมสมบูรณ์ก็ช่วยเขาด้วยวิธีอื่นเช่นกัน เพราะมันสอนให้เขาถ่อมใจ ความรู้ที่ว่าเขาไม่ได้เป็นดาราชาย แต่เป็นคนที่ต้องทำลายสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จในเกมส่งผลต่อสไตล์การเล่นของเขา ไม่มีผู้เล่นใน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครอบคลุมพื้นที่เท่าเขาอีกแล้วในฤดูกาลที่ผ่านมา
เมื่อถูกถามเมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับโอกาสของการได้รับรางวัล Ballon d’Or แบร์นาโด้ ก็ตอบว่าเป้าหมายของเขานั้นเป็นทีม เขาเป็นผู้เล่นในทีมที่ดีที่สุด และแม้กระทั่งตอนนี้ หลังจากที่เขาใช้ประโยชน์จาก “เรือใบสีฟ้า” และคว้ารางวัลผู้เล่นของทัวร์นาเมนต์กับทีมชาติโปรตุเกส ในศึกเนชั่นส์ ลีก
อาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อเว็บไซต์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดโอกาสให้แฟนบอลเสนอชื่อผู้เล่นเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร ซึ่งมีชื่อของ เอแดร์สัน โกลด์ ชาวบราซิล, ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกชาวอังกฤษ, เซอร์จิโอ อเกวโร ดาวยิงอาร์เจนไตน์ และ อายเมริค ลาปอร์เต้ กองหลังชาวฝรั่งเศส แต่กลับไม่มีชื่อของ แบร์นาโด้
ทรัลฮาว กล่าวว่า “ท้ายที่สุด แบร์นาโด้ เป็นคนที่ได้รับรางวัลดังกล่าวในซีซั่นที่ผ่านมา แฟนๆรู้ เขาก็รู้ตอนนี้เช่นกัน เขาจะทำอย่างนั้นไปอีกหลายปี เขาเป็นคนรับผิดชอบในการเป็นผู้เล่นที่เขาเป็น เพราะเขาเปลี่ยนความคิดของเขาในเวลาที่เหมาะสม”
