โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : Mohamed Salah

ประวัตินักเตะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กาลี่ เกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 1992 เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอียิปต์ ซึ่งเป็นศูนย์หน้าให้สโมสรลิเวอร์พูล ซาลาห์ เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพที่บ้านเกิดของเขากับสโมสร อัล มัลเกาลูน ในพรีเมียร์ลีกอียิปต์ปี 2010 หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ย้ายไปเล่นกับสโมสรบาเซิ่ล โดยไม่เปิดเผยค่าตัว ในสวิตเซอร์แลนด์ ซาลาห์เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์ลีกตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ลงเล่น และเขาก็ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสวิตเซอร์แลนด์ในปีนั้นเลย ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นซาลาห์เป็นที่สนใจกับเชลซีและเขาก็ย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ในปี 2014 อย่างไรก็ตามในฤดูกาลแรกเขาไม่ได้มีผลงานดีนักกับเชลซี เขาจึงย้ายไป ฟิออเรนติน่าและโรม่า ด้วยสัญญายืมตัว จากนั้นเขาก็เซ็นสัญญาถาวรกับโรม่าด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร

ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาในกรุงโรมด้วยการจบที่ 2 ของลีกในปี 2017 ซาลาห์ก็ได้ย้ายกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับสโมสรลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวประมาณ 36.9 ล้านปอนด์ ในการกลับมาอังกฤษครั้งนี้เขาไม่ได้เล่นในตำแหน่งปีก แต่เป็นตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ และเพียงไม่นานเขาเป็นเป็นผู้เล่นคนสำคัญให้กับทีม เขาทำลายสถิติผู้ทำประตูสูงสุดของสโมสรเพียงเล่นในฤดูกาลแรกเท่านั้น เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงประตูไป 32 ประตู จากการเล่น 36 นัด เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมใประจำเดือน 3 ครั้งติดในฤดูกาลเดียวกัน ด้วยการทำลายสถิติหลายๆ อย่างของเขา เขาได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากตอนจบฤดูกาล มีทั้ง ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ,ผู้เล่นยอดเยี่ยมจากผู้สื่อข่าว และผู้เล่นยอดเยี่ยมจากผลโหวตของแฟนบอล ซาลาห์ยังติดอันดับ 3 รางวัล นักกีฬาชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่าปี 2018 อีกด้วย

ในระดับทีมชาติเขาเริ่มเล่นให้กับทีมชาติอียิปต์ชุดเยาวชน เขาได้รับเหรียญทองแดงในศึกแอฟริกัน เนชั่น คัพ รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และได้เข้าร่วมเล่นศึกฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปี 2011 รวมถึงโอลิมปิกในปี 2012 เขาได้รับรางวัลผู้เล่นที่มีความสามารถมากที่สุดในปี 2012 เขาเริ่มเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่เมื่อปี 2011 เขาช่วยให้อียิปต์ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แอฟริกัน เนชั่น คัพ 2017 เขาเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุด ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกโซนแอฟริกาและพาทีมไปฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ ด้วยฟอร์มการเล่นของเขากับทีมชาติ ซาลาห์ได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแอฟริกา เขายังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีโซนแอฟริกา และ มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ แอฟริกัน เนชั่น คัพ

ซาลาห์ วัยเด็ก

เส้นทางอาชีพ

อัล มัลเกาลูน

ซาลาห์เล่นให้อัล มัลเกาลูนในทีมเยาวชน เขาได้ขึ้นไปเล่นชุดใหญ่กับศึกอียิปต์พรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2010 โดยผลจบลงด้วยการเสมอ 1-1 ในช่วงฤดูกาล 2010-2011 เขาหาโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องจนได้เป็นผู้เล่น 11 คนแรกของทีม เขาทำประตูแรกให้กับสโมสรในวันที่ 25 ธันวาคม 2010 ในนัดที่เสมอกับ อัล อาลี ในฤดูกาล 2011-2012 เขาได้ลงเล่นทุกเกมกับ อัล มัลเกาลูน

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บาเซิ่ล

บาเซิ่ล

บาเซิ่ล สโมสรจากลีกสวิตเซอร์แลนด์ ได้ติดตามฟอร์มของซาลาห์เป็นบางครั้ง ดังนั้นเมื่อพรีเมียร์ลีกอียิปต์โดนแบน ทางบาเซิ่ลจึงจัดนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอียิปต์อายุไม่เกิน 23 ปี นัดนั้นแข่งกันเมื่อวันที่ 16 มีนาคม และซาลาห์ก็ทำ 2 ประตูช่วยให้อียิปต์ชนะไป 4-3 ทางบาเซิ่ลจึงชวนให้ซาลาห์อยู่ต่อที่เมืองก่อนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ วันที่ 10 เมษายน 2012 มีการประกาศว่า ซาลาห์เซ็นสัญญากับบาเซิ่ลเป็นเวลา 4 ปี ซาลาห์ ทำประตูแรกอย่างไม่เป็นทางการจากการแข่งกระชับมิตรกับ สเตอัว บูคาเรต เขาได้สัมผัสเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ครั้งแรกในการพบกับโมลด์ สโมสรจากนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เขาได้ลงเล่นนัดแรกในลีกสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม หลังจากนั่น 1 สัปดาห์ ซาลาห์ทำประตูแรกให้สโมสรใหม่ในการเปิดบ้านชนะ ลูเซิร์น 2-0 ซาลาห์ทำประตูแรกในศึก ยูโรป้าลีก ในวันที่ 11 เมษายน 2013 บาเซิ่ลผิดหวังในฟุตบอลถ้วยยุโรป แต่พวกเขาก็ได้แชมป์ สวิส ซุปเปอร์ลีก 2012-2013 และได้แชมป์ สวิส คัพ เป็นผลสำเร็จ วันที่ 6 สิงหาคม 2013 ซาลาห์ทำประตูแรกในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ในเกมที่พบกับ มัลคาบี้ เทล อาวี

ซาลาห์ เชลซี

เชลซี

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2014 เชลซี ประกาศคว้าตัว ซาลาห์ ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ นั่นทำให้เขาเป็นผู้เล่นอียิปต์คนแรกที่เล่นให้กับเชลซี วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซาลาห์ ลงสนามนัดแรกในนามเชลซี วันที่ 22 มีนาคม ซาลาห์ทำประตูแรกให้กับเชลซี ในการยิงประตูใส่อาร์เซน่อล โดยนัดนั่นเชลซีชนะไป 6-0 ก่อนฤดูกาล 2014-2015 จะเริ่มขึ้น ซาลาห์เกือบถูกอียิปต์เรียกตัวกลับไปเป็นทหาร แต่เขาก็ผ่านมาได้จากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่ขอให้ยกเลิกการเรียกนั่น ซาลาห์สวมเสื้อเบอร์ 17 แทนที่ของฮาซาร์ที่เปลี่ยนไปใส่เบอร์ 10 ซาลาห์ลงเล่นน้อยมากในฤดูกาลนี้โดยการคุมทีมของมูรินโญ่ ซึ่งเขาลงเล่นเพียง 3 นัดก่อนจะถูกฟิออเรติน่ายืมไป

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฟิออเรนติน่า

ฟิออเรนติน่า

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2015 เชลซียืนยันว่าซาลาห์จะย้ายไปเล่นที่ฟิออเรติน่าด้วยสัญญายืมตัว ซาลาห์เลือกเบอร์ 74 เพื่อเคารพเหตุการณ์จลาจลที่สนาม พอร์ท ซาอิด ซาลาห์เริ่มเล่นให้ฟิออเรติน่านัดแรก ในการพบกับ ซัสซูโล่ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และเขาก็ทำประตูแรกกับทีมได้ทันที 12 วันต่อมา เขาทำประตูแรกในศึกฟุตบอลถ้วยยุโรปกับฟิออเรติน่า ในตอนท้ายของฤดูกาลฟิออเรติน่ายื่นสัญญาถาวรให้เขาแต่เขากลับปฏิเสธและย้ายไปอยู่กับโรม่าด้วยสัญญายืมตัวเหมือนเดิม

ซาลาห์ โรม่า

เอเอส โรม่า

วันที่ 6 สิงหาคม 2015 ซาลาห์ย้ายไปเล่นให้โรม่าด้วยสัญญายืมตัว โดยเพิ่มออปชั่นซื้อขาดไว้ในสัญญาด้วย เขาได้รับเสื้อหมายเลข 11 และลงเล่นนัดแรกกับโรม่า ในวันที่ 22 สิงหาคม โดยเสมอกับเวโรน่า ไป 1-1 วันที่ 20 กันยายน ซาลาห์ทำประตูแรกในฤดูกาล ในการช่วยโรม่าเสมอกับซัสซูโล่ไป 2-2 จบฤดูกาล ซาลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของฤดูกาลไป โดยยิงประตูไป 15 ประตู 6 แอสซิตส์ วันที่ 3 สิงหาคม 2016 โรม่าได้เซ็นสัญญาถาวรกับซาลาห์ วันที่ 20 สิงหาคม เขาทำประตูแรกของฤดูกาล ในนัดที่ชนะอูดิเนเซ่ ไป 4-0 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ซาลาห์ ทำแฮตทริคแรกให้กับสโมสร ให้การชนะโบโลญญ่าไป 3-0

ซาลาห์ ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล

วันที่ 22 มิถุนายน 2017 ซาลาห์ตัดสินใจย้ายมาลิเวอร์พูลและกลายเป็นนักเตะอียิปต์คนแรกของสโมสร เขาได้รับเสื้อเบอร์ 11 เหมือนตอนอยู่โรม่า เขาทำประตูแรกให้สโมสร ในนัดที่เสมอกับวัตฟอร์ต เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในเดือนสิงหาคม ซาลาห์ถูกยกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม วันที่ 17 มีนาคม 2018 ซาลาห์ทำได้ 4 ประตูในการพบกับวัตฟอร์ต ซึ่งนั่นคือแฮตทริคแรกกับลิเวอร์พูล จากเกมนั่นทำให้เขาทำลายสถิติโดยการยิงได้ถึง 36 ประตูจากการเล่นให้ลิเวอร์พูลฤดูกาลแรก และเขายังเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดรวมทั้ง 5 ลีกยุโรป แซงหน้า เมสซี่ และ เคน ด้วยสถิตินี้ เจอร์ราร์ดได้ออกมาบอกว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่” วันที่ 22 เมษายน 2018 ซาลาห์ ได้รับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในปี 2018 ลิเวอร์พูลได้เข้าชิงกับรีล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แต่เป็นโชคร้ายของซาลาห์ เนื่องจากเขาเจ็บตั้งแต่นาทีที่ 30 โดยจบเกมลิเวอร์พูล แพ้ไป 3-1 วันที่ 2 กรกฎาคม 2018 ซาลาห์ต่อสัญญากับลิเวอร์พูล โดยเจอร์เก้น คล็อป บอกว่าเขาคือนักเตะคนสำคัญของทีม วันที่ 12 สิงหาคม เขาก็ทำประตูแรกในฤดูกาล โดยการชนะเวสแฮมไป 4-0 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2018 ซาลาห์มีรายชื่อติด 1 ใน 3 นักกีฬาชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ซาลาห์ยังได้รับรางวัล ฟีฟ่า ปุสการ์ อวอร์ด 2018 วันที่ 24 ตุลาคม เขาทำ 2 ประตูในการพบกับ เรด สตาร์ เบลเกรด ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ซึ่งนั่นทำให้เขาทำประตูครบ 50 ประตู กับสโมสร เป็นการยิง 50 ประตู จากการลงเล่นเพียง 65 นัด