ตลาดนักเตะในฤดูร้อนปี 2019 นี้ เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่จาก เมาริซิโอ ซาร์รี่ โค้ชชาวอิตาเลียน ไปเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตนักเตะของทีม
ขณะเดียวกัน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำลายสถิติสโมสรล่าสุดด้วยการใช้เงินจำนวน 65 ล้านปอนด์ ซื้อตัว ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสของ โอลิมปิก ลียง สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลีก เอิง ไปเสริมทัพ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตัว อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขาวทีมชาติอังกฤษ ของ คริสตัล พาเลซ ไปเสริมแนวรับด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ยังคงเงียบเหงาไม่มีการซื้อนักเตะบิ๊กเนมเข้าสู่ทีมแต่อย่างใด แต่ในขณะที่ดูเหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ จะยังคงสงบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทำลายสถิติการซื้อนักเตะของพวกเขาด้วยการจ่ายเงิน 62 ล้านปอนด์ คว้าตัว โรดรี มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน จาก แอตเลติโก้ มาดริด ทีมดังในศึกลา ลีกา ไปร่วมทีม
โรดรี กลายเป็นเล่นที่แพงที่สุดอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ของศึกพรีเมียร์ลีก มันชัดเจนว่า ข่าวของเขากับ “เรือใบสีฟ้า” เกิดขึ้นหลายสัปดาห์ แต่หลายคนในเมืองผู้ดีจะไม่รู้จักเขามากนัก ไม่ใช่ว่ามีการใช้คอลัมน์จำนวนมากคุยกับเขา
ไม่มีใครไตร่ตรองอย่างแท้จริงว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนฯซิตี้ กำลังทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการลงทุนมากมาย ดังนั้นใครคือ โรดรี และทำไมแฟนบอลจึงมีความสนใจน้อยมากในการที่ “เรือใบสีฟ้า”เซ็นสัญญากับเขา
สมัยเป็นนักเตะเยาวชน โรดรี ถูกมองว่าตัวเล็กเกินไป แต่ตอนนี้เขากำลังเติบโต โดยอดีตกองกลาง แอตฯมาดริด มีความสูงอยู่ที่ 6 ฟุต 2 นิ้ว และถูกซื้อมาเป็นห้องเครื่องตัวป้องกันด้านหน้าแนวรับของพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” เพื่อทดแทน แฟร์นานดินโญ ดาวเตะแซมบ้า ที่กำลังอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง
ด้วยค่าตัวมหาศาลของ โรดรี นั้น มันยากที่จะเชื่อว่าเขาได้รับการปล่อยตัวออกจาก แอตฯมาดริด เมื่ออายุ 16 ปี ในปี 2013 และให้เหตุผลว่าเขาตัวไม่ใหญ่พอ และดูไม่แข็งแรง โดยก่อนหน้านี้ เขาเริ่มฝึกฟุตบอลกับทีมเยาวชนท้องถิ่นอย่าง ราโย มาฆาดาโฮดา ซึ่งเขาได้รู้จัก ลูคัส เอร์นานเดซ อดีตเพื่อนร่วมทีม“ตราหมี” เป็นครั้งแรก
ดาวเตะสแปนิช และ เอร์นานเดซ ผ่านประสบการณ์ที่แชร์กันในฐานะเด็กอายุ 10 ปี และการย้ายไปยัง แอตเลติโก้ ทั้งคู่ได้สร้างมิตรภาพที่สนิทกัน โดย แบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส พยายามเกลี้ยกล่อมให้ โรดรี ย้ายไปยัง บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์นี้ตามเขา อย่างไรก็ตาม มันไม่สำเร็จ
เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหาก แอตเลติโก้ ไม่ปล่อย โรดรี ออกจากสโมสรในปี 2013 เมื่ออายุ 17 ปี เขากำลังจะออกจากสโมสรที่จะได้แชมป์ลา ลีกา และยังไม่จบซีซั่นต่ำกว่าอันดับ 3 ในลีกสเปนตั้งแต่นั้นมา
ในทางกลับกัน โรดรี ได้เข้าร่วมทีม บียาร์เรอัล และไปเล่นอยู่ในทีมชุดสำรอง ก่อนจะขึ้นมาอยู่กับทีมชุดใหญ่ในปี 2015- 2018 โดยลงสนามให้กับพลพรรค “เรือดำน้ำสีเหลือง” ไปมากถึง 63 เกม ซัดไป 1 ประตู และจากฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจจึงโน้มน้าวให้ แอตเลติโก้ ซื้อเขากลับไปอีกครั้งเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว
พัฒนาการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ ดาวเตะวัย 22 ปี จะไม่รอดพ้นจากความตั้งใจของ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา แต่ แมนฯซิตี้ ก็สามารถเอาชนะทั้ง 2 ทีมนั้นได้ในบางส่วน เพราะ “ราชันชุดขาว” และ “เจ้าบุญทุ่ม” มุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งอื่นๆของทีม
จริงคือการกำหนดเป้าหมายผู้เล่นของ มาดริด ไม่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อมิดฟิลด์ เมื่อ คาเซมิโร กองกลางทีมชาติบราซิล วัย 27 ปี กำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในอาชีพการงานของเขาและเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของทัพ “เซเลเซา” ที่เขาถึงรอบชิงชนะเลิศศึกโคปา อเมริกา
บาร์เซโลน่า มีกองกลางอย่าง เซอร์จิโอ บุสเกตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานของทีมชาติสเปน และเขาเพิ่งได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ “เจ้าบุญทุ่ม”ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา และจะไปหมดสัญญาในปี 2023 คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู
โรดรี มักถูกเปรียบกับ บุสเกตส์ ส่วนใหญ่เป็นเพราะความรู้สึกในตำแหน่งเดียวกัน และความสามารถในการมองผ่านมีความแตกต่างเล็กน้อยว่า ผู้สังเกตการณ์ที่ดูดาวเตะ “เรือใบสีฟ้า” รู้สึกว่าเขามีความเป็นนักกีฬามากกว่า ห้องเครื่อง บาร์ซ่า ในขณะเดียวกันพวกเขารู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของ โรดรี นั้นฉลาดน้อยกว่า
สิ่งที่ แมนฯซิตี ไม่น่าจะนำเสนอนั้นเป็นภัยคุกคามต่อคู่แข่ง โรดรี ลงสนามให้ แอตเลติโก้ ในฤดูกาลที่ผ่านมา 34 เกม แต่ยิงได้เพียง 3 ลูกเท่านั้น และย้อนกลับไปที่ บียาร์เรอัล เจ้าตัวทำประตูได้เพียง 1 ลูก ในช่วง 3 ปี กับ “เรือดำน้ำสีเหลือง”
ประตูสุดท้ายที่ โรดรี ทำได้ เกิดขึ้นในเกมที่ แอตเลติโก้ พบกับ เลบานเต้ ในวันสุดท้ายของการแข่งขันศึก ลา ลีกา แฟนๆ แมนฯซิตี้ อาจไม่ได้รับความหวังมากเกินไปสำหรับการเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้นของเขาเมื่อมาถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดียม
จากนั้นอีกครั้งการประตูไม่ใช่สิ่งที่ แมนฯซิตี้ ในฐานะทีมมีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเตะในกองกลางตัวป้องกัน โรดรี ถูกกล่าวขานว่า ยอดเยี่ยม และมีการยืนตำแหน่งที่แข็งแกร่ง พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ได้ทำงานด้วยแนวรุกเป็นหลัก อดีตแข้ง “ตราหมี” จะมีเวลาในการอ่านเกมมากขึ้น และมีโอกาสลงสนามมากขึ้นเนื่องจาก แฟร์นานดินโญ มีอายุ 34 ปีแล้ว
อาจเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดว่า ทำไมการมาถึงของ โรดรี ไม่ได้มาพร้อมกับการประโคมข่าว คือ ความแข็งแกร่งของทีมที่เขากำลังเข้ามาภายใต้การนำของ กวาร์ดิโอลา แมนฯซิตี้ ได้สะสมคะแนนอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยจำนวน 199 คะแนนในสองฤดูกาล รวมสองฤดูกาลที่สูงที่สุดถัดไปคือ 186 แต้มของ เชลซี จากปี 2004-06
ลิเวอร์พูล ได้คะแนนรวมสูงสุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก ในปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถจบอันดับดีกว่า แมนฯซิตี้ ได้ สถิติดังกล่าวเป็นเรื่องยากที่จะโต้แย้งว่า “เรือใบสีฟ้า” ไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก
ช่องว่างระหว่าง แมนฯซิตี้ กับทีมอื่นๆ ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถจับคู่ความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของพวกเขาได้ กวาร์ดิโอลา อยู่ในตำแหน่งที่มีความสุขที่สามารถระบุจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่าที่จะเกิดขึ้นจริง
ตอนนี้ตำแหน่งหมายเลข 6 ของ แมนฯซิตี้ ไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง แต่เมื่อ แฟร์นันดิญโญ จะอายุครบรอบ 35 ปีของเขาในฤดูกาลถัดไป และ อิลกาย กุนโกกัน กองกลางชาวเยอรมนี ยังไม่ได้เซ็นสัญญาใหม่ ซึ่งจะหมดอายุในปี 2020 กวาร์ดิโอลา กำลังวางแผนล่วงหน้า
เทรนเนอร์ “เรือใบสีฟ้า” ได้ไปหา โรดรี หากเขาต้องการผู้เล่นสามารถผ่อนคลายลงจังหวะกดดันได้อย่างนุ่มนวล เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในอังกฤษอย่างเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฤดูกาลหน้า
