ไค ฮาแวร์ตซ์ สุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน

ไค ฮาแวร์ตซ์ สุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน

ที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมัน มันเป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นวันที่สั้นที่สุดของปี แสงยามเช้าส่องห้องนั่งเล่นของอพาร์ทเมนต์กว้างขวางใน Sudstadt ย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดของ โคโลญจน์ ไค ฮาแวร์ตซ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา ดึงออกมาและนั่งเล่นเปียโนอย่างอารมณ์ดี

บทเพลงที่ ฮาแวร์ตซ์ เล่นนั้นโด่งดังในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแนวป๊อป และ แจ๊ส แต่วันนี้เขาเลือกเพลงคลาสสิคอย่าง Comptine d’un Autre ete: L’Apres Midi ของ Yann Tiersen Comptine d’un เขาได้ซ้อมเพลงนี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ในเวลานี้ ฮาแวร์ตซ์ เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดในโลก และเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด และ ลิเวอร์พูล

ดาวเตะวัย 20 ปี ชอบความสงบ และแทบจะไม่เคยไปเที่ยวที่ไนต์คลับ และโรงเบียร์ที่เรียงรายไปตามถนนด้านล่างอพาร์ทเมนต์ของเขาเลย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ชอบที่จะรู้สึกถึงความวุ่นวายในเมือง และความมีชีวิตชีวาของย่าน Sudstadt ที่ดึงดูดให้เขาอยู่ห่างจากย่านชานเมือง เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งขับรถข้ามแม่น้ำไปไม่ไกล

กองกลางทีมชาติเยอรมัน กล่าวกับ “อีเอสพีเอ็น” สื่อกีฬาชั้นนำว่า “ตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว มันดีมากที่ผมสามารถเติบโตได้ในสถานการณ์นี้” โดยปัจจุบัน เขาอยู่คนเดียว และมีเปียโนช่วยเติมเต็มเวลาว่างของเขา

“เมื่อคุณเล่นฟุตบอล คุณจะมีเรื่องฟุตบอลอยู่ในหัวเสมอ และคุณจำเป็นต้องมีเรื่องอื่นๆในชีวิตบ้าง” ยายของ ฮาแวร์ตซ์ เก็บเปียโนไว้ในบ้านเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเมื่อเขาไปเยี่ยมคุณยาย เขาจะนั่งที่แป้นเปียโน และเล่นเพลงที่ตัวเองชอบ

จูเลียน บรันด์ท ปีกดาวรุ่งชาวเยอรมัน อดีตเพื่อนร่วมทีม เลเวอร์คูเซ่น ของ ฮาแวร์ตซ์ ในช่วง 3 ซีซั่นที่ผ่านมา และตอนนี้ย้ายไปเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั้น กำลังเรียนรู้การเล่นกีตาร์ แต่ ฮาแวร์ตซ์ ตัดสินใจที่จะเล่นเปียโนอย่างจริงจัง

ตารางเวลาการใช้ชีวิตของ ฮาแวร์ตซ์ แทบไม่ว่างเลย หลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็มักจะไปเล่นเปียโนในเวลาว่าง โดยดาวรุ่ง “ห้างขายยา” เล่นเปียโนด้วยความมั่นใจจากโน้ตต่ำไปสูง และบรรเลงบทเพลงได้อย่างสนุกสนาน

วันหนึ่งข้างหน้า ฮาแวร์ตซ์ จะต้องออกจากของอพาร์ทเมนต์ของเขาในโคโลญจน์ โดยปัจจุบัน เลเวอร์คูเซ่น จ่ายค่าเช่าให้เขาปีละ 5 ล้านยูโร แต่นั่นอาจไม่เพียงพอที่จะรั้งเขาไว้ เพราะในซัมเมอร์นี้ จะมีหลายสโมสรที่พร้อมทุ่มเงินกว่า 100 ล้านยูโร คว้าตัวเขาไปร่วมทีม

หนังสือพิมพ์ในเยอรมันต่างคาดการณ์ว่า ฮาแวร์ตซ์ จะย้ายไปไหน หลายคนสงสัยว่า เขาพร้อมสำหรับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปแล้วหรือยัง เขาจะเลือก บาเยิร์น เหมือนนักเตะชาวเยอรมันคนอื่นๆหรือไม่ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้น่าสนใจอย่างยิ่ง

จากการ ดูบอลสด เมื่อไม่นานมานี้ ฮาแวร์ตซ์ ยังคงโชว์ฟอร์มไม่สม่ำเสมอนักเหมือนกับดาวรุ่งส่วนใหญ่ ซึ่งสถิติไม่สามารถโต้แย้งได้ ยกตัวอย่างเช่น เขายิงไป 17 ประตู ในศึกบุนเดสลีกาเมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่ในครึ่งแรกของฤดูกาลนี้ เขาทำได้แค่ 2 ประตู

เลเวอร์คูเซ่น มีความทะเยอทะยานที่จะคว้าแชมป์บุนเดสลีกาให้ได้ในปีนี้ แต่ปัจจุบันพลพรรค “ห้างขายยา” ยังคงรั้งอันดับ 6 ในตารางคะแนน โดยมีแต้มตามหลัง บาเยิร์น ทีมจ่าฝูงอยู่ 6 คะแนน มันเป็นเวลาที่ตึงเครียดสำหรับสโมสรและแฟนบอล

ฮาแวร์ตซ์ กล่าวต่อว่า “ผมเป็นคนใจเย็น ผมไม่กังวลเลย และผมไม่เคยเป็นแบบนั้น บางทีมันอาจช่วยผมในสนามได้” โดยดาวเตะ “อินทรีเหล็ก” ยังแสดงถึงแววตาที่มุ่งมั่นว่า เลเวอร์คูเซ่น จะสามารถลุ้นแชมป์ไปจนจบฤดูกาลได้

ฮาแวร์ตซ์ พัฒนาตัวเองได้ย่างรวดเร็ว ซึ่งเห็นได้จากการที่เขาได้รับรางวัลผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมของสโมสรสู่การได้รับรางวับผู้เล่นยอดเยี่ยมของทีม และหลังจากได้รับโอกาสติดทีมชาติเยอรมันไปแล้ว 7 เกม และซัดไป 1 ประตู เขาได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นจอมทัพ “อินทรีเหล็ก” คนต่อไปหลังหมดยุคของ เมซุต โอซิล และ โธมัส มุลเลอร์

ไซมอน โรลเฟส ผู้อำนวยการด้านการกีฬาของ เลเวอร์คูเซ่น กล่าวว่า “ตลอดเวลาเขายังคงรักษาสไตล์การเล่นที่แน่นอนของเขาไว้ ความเร็วของเกมนั้นจะแตกต่างระหว่างทีมเยาวชนกับทีมชุดใหญ่ ดังนั้น โดยปกติผู้เล่นต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่สำหรับเขาดูเหมือนจะค่อนข้างง่าย เขายังคงเล่นเหมือนกับตอนที่ตัวเองเล่นในทีมเยาวชน แต่เขานำการเล่นแบบนั้นมาใช้ในการแข่งขันระดับสูงสุด”

ตอนอายุ 10 ขวบ ฮาแวร์ตซ์ ย้ายออกจากสโมสรในบ้านเกิดของเขาที่อาเค่นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมัน เพื่อมาร่วมทีม เลเวอร์คูเซ่น และคุณแม่ของเขาต้องขับรถเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อพาเขามาฝึกซ้อมกับ “ห้างขายยา” เกือบทุกวัน

ในบ้างครั้ง ฮาแวร์ตซ์ จะนั่งรถตู้มากับนักเตะเยาวชนคนอื่นๆของ เลเวอร์คูเซ่น ในแถบอาเค่น เพื่อมาฝึกซ้อม หลังจากนั้น พวกเขาจะกลับไปทำการบ้าน และในวัย 15 ปี ดาวเตะเยอรมัน ย้ายมาอาศัยอยู่ในแถบใกล้กับสโมสรกับพี่ชายของเขาซึ่งเป็นพนักงานในร้านค้าของ “ห้างขายยา”

ย้อนกลับไปในปี 2016 ฮาแวร์ตซ์ ในวัย 17 ปี ได้รับโอกาสจาก โรเจอร์ ชมิดท์ อดีตกุนซือ เลเวอร์คูเซ่น ในเวลานั้น ให้เข้ามาร่วมซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เจอกับฮีไร่ และไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบในโรงอาหารของสโมสร

ตอนนี้ ฮาแวร์ตซ์ ได้โอกาสฝึกซ้อม และส่งบอลให้นักเตะอย่าง เควิน โฟลลันด์, ฮาเวียร์ ชิชาร์ริโต้, ฮาคาน คัลฮาโนกลู และ คาริม เบลลาราบี้ ซึ่งบรรดาผู้เล่นชุดใหญ่เหล่านี้ เป็นคนที่เขาเฝ้าจับตามองตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก

ในการฝึกซ้อม ชมิดท์ แบ่งผู้เล่นออกเป็นทีมละ 6 คน และทันทีที่เริ่มลงสนาม ฮาแวร์ตซ์ ก็ไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด โดยเล่าว่า “ผมยิงประตูได้ และยิงได้เยอะด้วย และผมรู้ว่า ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้ดีไปกว่าผม ผมสามารถเล่นกับพวกเขาได้ นั่นช่วยผมได้มาก มันเป็นช่วงเวลาแรกที่ผมตระหนักว่า ผมสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้”

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี 2016 ฮาแวร์ตซ์ ได้เปิดตัวในศึกบุนเดสลีกาในฐานะผู้เล่นอายุน้อยที่สุด 17 ปีกับ 126 วัน และ 1 เดือนต่อมาเขาได้เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน

ขณะเดียวกัน โจนาธาน ทาห์ กองหลังเพื่อนร่วมทีม เลเวอร์คูเซ่น จำได้ว่า ตัวเขาเองรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ลงเล่นกับ สเปอร์ส ที่สนามใหญ่อย่างเวมบลีย์ โดยระบุว่า “ตอนนั้นผมอายุ 20 ปี ผมคิดว่า ว้าว เวมบลีย์ นี่เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่”

“จากนั้นผมก็จ้องมองที่ ฮาแวร์ตซ์ ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ เขาดูสบายๆ และสงบมาก และหลังจากเกมเริ่มต้นขึ้นเขาก็เล่นได้อย่างราบรื่น และเป็นธรรมชาติมากๆ เขาอายุเพียง 17 ปี มันเหลือเชื่อจนผมคิดว่า นี่เป็นเรื่องปกติใช่มั้ย”

ฮาแวร์ตซ์ อธิบายว่า “ผมไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมแค่เล่นฟุตบอล และสนุกกับมัน” โดยดาวรุ่งวัย 20 ปี เป็นผู้เล่น เลเวอร์คูเซ่น ที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นในลีกครบ 50 เกม และในฤดูกาลที่ผ่านมาผู้ที่อายุน้อยที่สุดรายนี้กลับกลายเป็นนักเตะดีที่สุดของสโมสร

หลังจากช่วยพา เลเวอร์คูเซ่น เข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ฮาแวร์ตซ์ ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 2 ในรางวัลนักฟุตบอลชาวเยอรมันยอดเยี่ยมแห่งปีรองจาก มาร์โก รอยส์ ดาวยิง ดอร์ทมุนด์ และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของศึกบุนเดสลีการองจาก รอยส์, จาดาน ซานโช่ ปีกดาวรุ่ง “เสือเหลือง” และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอก บาเยิร์น

ทุกฤดูร้อนมีรายงานว่า ฮาแวร์ตซ์ จะย้ายออกจาก เลเวอร์คูเซ่น พร้อมกับค่าตัวจำนวนมหาศาล แต่มันก็เป็นเพียงแค่การคาดเดาต่างๆนาๆ รวมถึงข่าวลือจากสื่อต่างๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว เขาก็ยังคงเป็นนักเตะของ “ห้างขายยา” ต่อไป

ฮาแวร์ตซ์ จะย้ายออกจาก เลเวอร์คูเซ่น

ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา กองกลางดาวรุ่ง เลเวอร์คูเซ่น ได้รับการจัดอันดับจากการวัดสถิติด้านต่างๆในหลายหมวดหมู่อยู่ในอันดับต้นๆมาตลอด ซึ่งมันไม่น่าสงสัยเลยหากเราสังเกตถึงผลกระทบของเขาที่มีต่อทีม

โรลเฟส กล่าวต่อว่า “คุณจะหานักฟุตบอลที่มีทักษะในสถานการณ์แบบตัวต่อตัวได้ไม่มากนัก และกับบางคนที่มีความเร็วเพิ่มไปด้วยก็ยิ่งเป็นเรื่องยาก แต่ ฮาแวร์ตซ์ มีครบทุกอย่าง และยังมีความแข็งแกร่งด้วย ดังนั้น เขาเป็นผู้เล่นที่สามารถลงไปช่วยเกมรับได้ถ้าถึงเวลาจำเป็น และกับทักษะที่เขามี ผมจำไม่ได้ว่า เคยเห็นผู้เล่นแบบนี้ล่าสุดเมื่อไหร่”

ขณะเดียวกัน ฮาแวร์ตซ์ มีความสูงถึง 6 ฟุต 2 นิ้ว ซึ่งเท่ากับ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ของ สเปอร์ส โดย บรันด์ท อธิบายว่า “สิ่งที่คุณไม่รู้เมื่อคุณเห็นเขานั้นคือ ความเร็ว คุณคงไม่เชื่อว่าคนที่มีร่างกายสูงใหญ่จะเร็วได้ขนาดนั้น และเขาเก่งมากในการผ่านบอล และการจบสกอร์ เขามีศักยภาพครบทุกด้าน”

ด้วยความเร็วเกือบ 22 ไมล์ต่อชั่วโมง ฮาแวร์ตซ์ ติดอันดับหนึ่งในผู้เล่นที่เร็วที่สุดของลีก และเขายังมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเคลื่อนบอลไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เขายังสามารถผ่านบอลทะลุแนวรับคู่แข่งได้แบบไม่มีใครคาดคิดอีกด้วย

ทาห์ กล่าวเสริมว่า “เขาพร้อมจะรอ และรอ และรอโอกาส จนกว่าจะได้จังหวะที่เหมาะสมในการผ่านบอล เขาไม่เคยรีบร้อน เขาไม่เคยคิดเลยว่า ตอนนี้ผมถูกกดดัน เขาให้เวลาตัวเองในการตัดสินใจที่ถูกต้องเสมอ”

ฮาแวร์ตซ์ ได้สร้างแบบจำลองวิธีการเล่นของเขาคล้ายกับ ชาบี้ เอร์นานเดซ ตำนานกองกลางทีมชาติสเปน ของ บาร์เซโลน่า โดยดาวรุ่ง เลเวอร์คูเซ่น อธิบายว่า “ชาบี้ บอกว่าคุณต้องเล่นฟุตบอลด้วยหัวของคุณ และสำหรับผมผู้เล่นที่ฉลาดจะเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุด”

เช่นเดียวกับ ชาบี้ โดย ฮาแวร์ตซ์ สามารถควบคุมจังหวะของเกมให้กับ เลเวอร์คูเซ่น ได้อย่างสมดุล แต่มันแตกต่างกันตรงที่เขาสามารถกระชากหนีแนวรับคู่แข่งได้ ซึ่ง ยูเลียน นาเกิลส์มัน กุนซือ แอร์เบ ไลป์ซิก ก็คิดว่า ฮาแวร์ตซ์ แตกต่างกับ ชาบี้

นาเกิลส์มัน กล่าวว่า “หลังจากผ่านบอล ฮาแวร์ตซ์ จะเริ่มวิ่งอย่างมีจุดหมาย บ่อยครั้งที่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด และหากคุณกำลังดูโทรทัศน์อยู่เขาจะหายไปจากจอ จนบางครั้งคุณรู้สึกว่า เขาไม่ได้อยู่ในสนาม”

“แต่ในความเป็นจริงเขาฉลาดมาก เขาพาตัวเองไปยังพื้นที่ว่าง ดังนั้น คุณไม่สามารถประกอบเขาได้ง่ายดายนัก เขาจะหายตัวไปที่ไหนสักแห่งในพื้นที่ว่าง และเขาก็เคลื่อนไหวเร็วมาก และทันใดนั้นเขามีลูกบอลอยู่ที่เท้าแล้ว”

แต่ในฤดูกาลนี้ บางครั้ง ฮาแวร์ตซ์ ก็หายตัวไปจากเกม ฟอร์มการเล่นของเขาในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ เลเวอร์คูเซ่น พ่าย ยูเวนตุส 2-0 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเขาไม่สามารถหาพื้นที่ได้เท่าที่ควรเมื่อเจอทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่ง

ฮาแวร์ตซ์ ถูกการตั้งโซนที่เหนียวแน่นของแดนกลางและแนวรับ ยูเวนตุส เล่นงานอย่างหนักจนทำให้เขาได้แต่ลงไปอยู่ในแดนตัวเอง และแม้จะมีจังหวะหลุดเข้ามายิงประตู แต่กองกลางดาวรุ่งชาวเยอรมันก็ยังทำได้ไม่ดีพอ

เมื่อ เลเวอร์คูเซ่น ไม่มี บรันด์ท ซึ่งยิงไป 7 ประตู และทำไป 13 แอสซิสต์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานั้น ความรับผิดชอบอันหนักหน่วงต้องตกมาอยู่กับ ฮาแวร์ตซ์ เป็นหลัก ทั้งที่เขาเป็นเพียงนักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งก้าวเข้ามาในทีมชุดใหญ่เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ ฮาแวร์ตซ์ คือ มิดฟิลด์แบบ บ็อก ทู บ็อก ซึ่งเขามีความฟิตที่พร้อมจะวิ่งช่วยเกมรุก-เกมรับตลอดเวลา รวมถึงยังมีความสามารถมากพอที่จะนำบอลไปสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง และในเวลานี้ เขากลายเป็นคนที่มีอิทธิพลในห้องแต่งตัวของ เลเวอร์คูเซ่น ไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ว่า ฮาแวร์ตซ์ จะมีมูลค่าถึง 100 ล้านยูโร เพราะนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปี 2019 ดาวรุ่ง “อินทรีเหล็ก” ยังยิงประตูในศึกบุนเดสลีกาไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งมันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หลังพักเบรกฤดูหนาว ปีเตอร์ บอสซ์ เทรนเนอร์ เลเวอร์คูเซ่น บอกกับผู้บริหารสโมสรว่า ฮาแวร์ตซ์ พร้อมแล้ว และมีความฟิต รวมถึงมั่นใจมากกว่าเดิม และเขาก็ไม่ทำให้เจ้านายผิดหวังหลังซัดไป 2 ประตูในเกมกระชับมิตรกับ อูเทร็คท์ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

ย้อนกลับไปในเกมลีกที่ เลเวอร์คูเซ่น บุกไปชนะ พาเดอร์บอร์น 4-1 เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมานั้น ฮาแวร์ตซ์ กลับมาทำประตูในลีกได้อีกครั้ง และในเกมต่อมาที่เปิดบ้าน เอาชนะ ดุสเซลดอร์ฟ 3-0 เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมานั้น ฮาแวร์ตซ์ ก็ยิงได้อีก 1 ประตู ซึ่งเป็นครั้งแรกในซีซั่นนี้ที่เขายิงได้ 2 เกมติดต่อกัน

ขณะเดียวกัน เกมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ เมื่อซีซั่นที่แล้ว มันเหมือนเป็นการประสบความสำเร็จระดับหนึ่งสำหรับ เลเวอร์คูเซ่น เพราะ ซอง ฮึง มิน หัวหอกชาวเกาหลีใต้ ของ สเปอร์ส เป็นหนึ่งในผลผลิตของพวกเขา

โรลเฟส กล่าวต่อว่า “มีอดีตผู้เล่น 4 คนของเราเคยยเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว คือ โทนี่ โครส, อาร์ตูโร่ วิดัล, ดานี่ การ์บาฆาล และ ซอง พวกเขาทุกคนเคยใช้เวลาหลายปีกับเรา มันคุ้มค่าที่ได้เห็นพวกเขาในนัดชิงฯรายการใหญ่แบบนี้”

“มันคงจะดีถ้าเราคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้บ้าง และแน่นอนในหนึ่งปีเราสามารถลองทำสิ่งที่พิเศษได้ แต่ในการแข่งขันปีต่อปีในระดับนั้น คุณต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายเป็นสองเท่าหรือสามเท่า ซึ่งนั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับเรา”

โรลเฟส ระบุว่า เลเวอร์คูเซ่น พร้อมจะทำหน้าที่เป็นโรงเรียนสอนฟุตบอลให้แก่ผู้เล่น และปล่อยให้นักเตะเหล่านั้นได้ใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองแล้วส่งพวกเขาออกไปสู่โลกกว้าง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวทำกำไรให้กับ “ห้างขายยา” มามากมาย

โรลเฟส กล่าวว่า “มิชาเอล บัลลัค, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ซอง หรือ ฮาแวร์ตซ์ ล้วนแต่เป็น DNA ของสโมสรของเรา และนั่นคือสิ่งที่เราเป็น แต่ ฮาแวร์ตซ์ แตกต่างจากคนอื่นๆ เขาเติบโตขึ้นมาที่นี่ เขามีเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งกับสโมสร ผมคิดว่าเขาชอบเล่นที่นี่ เราภูมิใจมากที่เราพัฒนาเขาขึ้นมา และตอนนี้เราจะรักษาเขาไว้ได้นานแค่ไหนเราจะต้องดูกัน มันจะมีเวลาที่เหมาะสมเมื่อเราขายเขา”

ขณะที่ ลัทซ์ ไฟน์เนนสตีล ผู้อำนวยการด้านกีฬาของ ดุสเซลดอร์ฟ แสดงความคิดเห็นว่า “โดยปกติแล้วเราจะไม่ใช่ประเทศที่ส่งออกผู้เล่นเป็นจำนวนมา ผมเชื่อมั่น 99 เปอร์เซ็นต์ ว่าเขาจะย้ายไป บาเยิร์น และถ้าไม่ใช่มันก็จะเป็น ดอร์ทมุนด์”

ฮาแวร์ตซ์ กล่าวว่า “พวกคุณไม่รู้จักผมดีพอ แน่นอน บาเยิร์น มิวนิค เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม แต่ผมไม่สามารถพูดได้ว่าผมแค่ต้องการอยู่ในเยอรมันเท่านั้น บางคนต้องการใช้ชีวิตทั้งชีวิตที่นี่ แต่ผมไม่ใช่คนนั้น ผมเปิดรับทุกอย่าง”

“ผมคิดว่า ผมเล่นได้เป็นอย่างดีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาในความคิดของผม ดังนั้น ความทะเยอทะยานของผมจึงสูงมาก ผมต้องการเล่นให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งบางทีอาจจะเป็นตอนนี้หรืออาจจะสักวันหนึ่งข้างหน้า”

“ในการตัดสินใจทั้งหมดที่ผมจะทำพร้อมกับครอบครัว และเพื่อนของผมจะเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย เราจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเป็น 2-3 เดือนนี้ที่ผมจะมองหาทางออก และในช่วงอายุของผมสิ่งที่ผมรู้มากที่สุดคือผมต้องการเล่น” มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน กล่าวปิดท้าย

ฮาแวร์ตซ์ พร้อมแล้ว และมีความฟิต

เนื้อหาใกล้เคียง