คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาประเดิมลงสนามเป็นครั้งที่สองให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อทำได้ 2 ประตู ช่วยให้ทีมถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 4-1 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นับเป็นการเริ่มต้นพร้อมกับความหวังที่ยอดเยี่ยมของทีม หลังย้ายจาก ยูเวนตุส มาร่วมทีมเมื่อซัมเมอร์ล่าสุด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ของทีมถูกถามถึงความสงสัยกับประสิทธิภาพของโรนัลโด้ โดยกุนซือชาวนอร์เวย์ กล่าวว่า “ผมไม่คิดแบบนั้น เขาทำในสิ่งที่เขาทำได้ คริสเตียโน่ ทำให้ทุกคนมีชีวิตอีกครั้ง ทุกคนจดจ่อกับสิ่งที่ต้องการ เรียกร้องจากทุกคน นั่นคือเหตุผลที่เขาทำผลงานได้มากมายในเส้นทางอาชีพของเขา และการมีวินัยของเขา เขาพัฒนาไปมากมาย เขาเป็นนักเตะที่พัฒนาขึ้นตลอดเวลา เขาแตกต่างจากตอนที่เขาย้ายออกไป แต่เขาก็ยังทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม และมันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของเขา”
หลังออกจากแมนฯ ยูไนเต็ด ไปยังเรอัล มาดริด ในปี 2009 โรนัลโด้ ทำสถิติเว้นระยะห่างนานที่สุด ก่อนที่จะกลับมาลงสนามในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
แม้จะสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของนิวคาสเซิ่ล ได้เพียง 8 ครั้ง แต่ดาวเตะชาวโปรตุเกสก็ทำได้ 2 ประตู
โรนัลโด้ มีโอกาสยิง 6 ครั้งในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และยิงตรงกรอบเพียง 2 ประตู ซึ่งก็กลายเป็น 2 ประตู
โรนัลโด้ อยู่ในอันดับที่ 44 ของดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก ทำได้ดีกว่าคาร์ลอส เตเบซ, หลุยส์ ซาฮา, เอแด็น อาซาร์ และเฟร์นานโด ตอร์เรส
ประตูแรกในเกมกับนิวคาสเซิ่ล ทำให้โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะคนเดียวที่ทำได้อย่างน้อย 30 ประตู ตลอด 15 ปีปฏิทิน
การวิ่งของโรนัลโด้ ในการทำประตูที่สอง ดาวเตะวัย 36 ปี มีความเร็วต้นถึง 20.2 ไมล์ต่อชั่วโมง
โรนัลโด้ มีความแม่นยำในการผ่านบอลถึง 87 เปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายสำเร็จ 17 ครั้ง และสร้างโอกาส 1 ครั้ง ช่วยทีมชนะด้วยสกอร์ 4-1
ไรอัน กิ๊กส์ และพอล สโคลส์ เป็นสองนักเตะที่มีอายุมากกว่าโรนัลโด้ สำหรับการทำประตูให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก
แม้ว่าโรนัลโด้ จะไม่สามารถทำแฮตทริคได้ แต่นักเตะก็ทำได้ 2 ประตูต่อเกมไปถึง 200 ครั้งในเส้นทางอาชีพ
โรนัลโด้ ทำประตูได้มากกว่า แจ็ค กรีลิช, ไค ฮาแวร์ทซ์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และอาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021-22
โรนัลโด้ เป็นคนแรกที่ใส่เบอร์ 7 ของแมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่โรนัลโด้ ทำได้ในเดือนสิงหาคม ปี 2009
