5 ครั้งหลังของสิงห์ เมื่อเกมเลกแรกบอลยุโรปจบด้วยสกอร์ 1-1

5 ครั้งหลังของสิงห์ เมื่อเกมเลกแรกบอลยุโรปจบด้วยสกอร์ 1-1

เชลซี เพิ่งจะลงทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบรองชนะเลิศ เลกแรก เมื่อบุกไปเสมอกับ เรอัล มาดริด มาด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้ทีมได้เปรียบกว่าทีมจากสเปนนิดหน่อย หลังได้ประตูอเวย์โกล ทำให้ทีมมีความหวังในการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ในรายการนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2012 หรือเกือบ 10 ปีที่แล้ว บทความนี้จะย้อนไปดู 5 ครั้งหลังสุดที่ทีมเข้ามาถึงรอบน็อคเอาท์ เมื่อเสมอในเกมเลกแรกด้วยสกอร์ 1-1

ไอนทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต – 2019
เชลซีบุกไปเยือนไอนทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก โดยเกมดังกล่าวจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 จากการทำประตูของเปโดร แต่เกมสองก็จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ หลังทำประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษไม่ได้ ก่อนที่ เกป้า อาร์รีซาบาลาก้า จะเซฟจุดโทษได้ 2 ครั้ง และช่วยทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ไปเจอกับอาร์เซน่อล

บาร์เซโลน่า – 2018
9 ปี ก่อนหน้านั้นที่เชลซีแพ้ให้กับบาร์เซโลน่า ปีนั้นมาพร้อมกับความหวัง ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาล 2017-18 หลังจากเปิดบ้านเสมอกับทีมจากสเปนด้วยสกอร์ 1-1 แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นใจกับเกมเลกสองที่คัมป์ นู หลัง ลีโอเนล เมสซี่ ใช้เวลาเพียง 128 วินาทีในการทำประตูขึ้นนำ และทำได้ 1 ประตู สุดท้ายเป็นบาร์ซ่าชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 ในเลกสอง

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง – 2015
รอบ 16 ทีมสุดท้าย เชลซีบุกไปเสมอกับเปแอสเช มาด้วยสกอร์ 1-1 และทุกอย่างทำท่าเหมือนจะเข้าทางกับเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลัง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 30 และแกรี่ เคฮิลล์ ทำประตูขึ้นนำได้ในนาทีที่ 80 แต่อีก 5 นาทีหลังจากนั้น กลายเป็นดาวิด ลุยซ์ ที่ทำประตูตีเสมอ จนทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ แม้เอแด็น อาซาร์ จะทำประตูขึ้นนำในช่วงต่อเวลาพิเศษจากจุดโทษ แต่ติอาโก้ ซิลวา กลับตีเสมอให้กับทีมได้อีกครั้ง จนกลายเป็นทีมจากฝรั่งเศสที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

กาลาตาซาราย – 2014
เป็นอีกหนึ่งเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ดิดิเยร์ ดร็อกบา ทำประตูช่วยให้ทีมบุกไปเสมอถึงตุรกีด้วยสกอร์ 1-1 แต่เมื่อกลับมาเล่นในกรุงลอนดอน ทีมชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 จากการทำประตูของซามูเอล เอโต้ และแกรี่ เคฮิลล์ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปได้

ลิเวอร์พูล – 2008
ในช่วงเวลาที่เจอกันบ่อยมากๆ ในฟุตบอลถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นอีกหนึ่งรายการที่เลี่ยงไม่ได้ โดยเกมเลกแรกเสมอกันที่แอนฟิลด์ด้วยสกอร์ 1-1 กับรอบรองชนะเลิศ โดยเกมเลกสองเป็นดร็อกบาทำประตูขึ้นนำ แต่เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็ทำประตูตีเสมอ จนต้องต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่แฟร้งค์ แลมพาร์ด และดร็อกบา ทำประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในขณะที่ไรอัน บาเบิล ทำประตูปลอบใจ แต่ก็เป็นเชลซีที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

เนื้อหาใกล้เคียง