แม้ว่า สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จะได้รับเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอกับ เชลซี ด้วยสกอร์ 1-1 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ผลงานของ เฟร็ด ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน แม้ว่าทีมจะรั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก และมีจังหวะที่เข้าตากับการยิงที่เหมือนกับส่งบอลคืนให้กับ เอดูอาร์ด เมนดี้ ผู้รักษาประตูของคู่แข่ง
เฟร็ด แทบจะเป็นนักเตะที่ถูกวิจารณ์ตลอดหลายปีหลังสุด นับตั้งแต่ย้ายมายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รวมถึงการลงสนามเคียงข้างกับแม็คโทมิเนย์ กับภายใต้การคุมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่ไม่ใช่ในเกมล่าสุดที่พบกับทีมใหญ่อย่าง เชลซี เมื่อไมเคิ่ล คาร์ริค เข้ามาคุมทีมชั่วคราว หลังสโมสรตัดสินใจปลดกุนซือชาวนอร์เวย์ ออกจากตำแหน่งไป
ไมเคิ่ล กล่าวถึงผลงานของเฟร็ด หลังจบเกมว่า “พวกเราไม่ได้มองข้ามใคร ผมคิดว่านำพลัง, แรงผลักดัน และความปรารถนา เข้ามาในทีม เมื่อเขาลงเล่น หรือแม้แต่ฝึกซ้อม แม้แต่ก่อนหน้านี้ก็ตาม เมื่อข้อเท้าของเขาบิดในครึ่งแรก และเขาก็พยายามทำสิ่งต่างๆ ให้มันถูกต้อง เมื่อเขาเหมือนกับสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมได้ทีละน้อย เขาผ่านหลายเกมมาได้ และมีส่วนสำคัญจริงๆ กับ 2 ประตูของพวกเราในเกมที่แล้ว”
พวกเราจึงหาสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับเฟร็ด ในเกมที่พบกับสิงห์บลูมาให้ดูกันว่าเป็นอย่างไร กับสิ่งที่เจ้าตัวแสดงออกมา และหวังว่านักเตะจะทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับปอล ป็อกบา รวมถึงดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่ยังไม่ได้ลงสนามมากนัก แม้จะเปลี่ยนตำแหน่งผู้จัดการทีม และคาดว่าราล์ฟ รังนิค จะเข้ามาคุมทีมในเร็วๆ นี้ ซึ่งพวกเราก็ต้องรอดูกันต่อไป
เฟร็ด ผ่านบอลสำเร็จถึง 26 จากทั้งหมด 32 ครั้งในเกมที่พบกับเชลซี โดยนับเป็นสถิติ 81.3 เปอร์เซ็นต์
เฟร็ด ไล่เพรสซิ่งได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ และเก็บบอลได้ 9 ครั้งในเกมนี้
เฟร็ด ชนะดวลลูกกลางอากาศ 6 จาก 10 ครั้งในเกมนี้, แย่งบอลได้ 4 ครั้ง และบล็อกลูกยิงของเชลซี 1 ครั้งในเกมนี้
แม้ว่าลูกทีมของคาร์ริค ดูจะเล่นเกมรับในเกมนี้ แต่เฟร็ด เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 1 ครั้ง และผ่านบอลในพื้นที่สุดท้ายของคู่แข่งได้ 4 ครั้ง
ดาวเตะวัย 28 ปี เข้าสกัดคู่แข่งสำเร็จ 2 ครั้ง ทำให้ทีมได้ฟรีคิก 3 ครั้ง และไม่ทำให้ทีมเสียฟรีคิกเลยสักครั้ง
