ส่งเสริมความเสถียร : การมีกรอบเวลาการซื้อขายช่วยรักษาเสถียรภาพภายในทีมในระหว่างฤดูกาล หากอนุญาตให้ซื้อขายได้ตลอดทั้งปีโดยไม่มีข้อจำกัด อาจนำไปสู่การหยุดชะงักอย่างต่อเนื่องของรายชื่อทีม ส่งผลต่อไดนามิกของทีมและโปรแกรมการแข่งขัน
การปกป้องความสมบูรณ์ของการแข่งขัน : โดยการจำกัดการซื้อขายไปยังระยะเวลาที่กำหนด หน่วยงานกำกับดูแลฟุตบอลสามารถป้องกันสถานการณ์ที่สโมสรซื้อหรือขายผู้เล่นในช่วงวิกฤตของการแข่งขัน ซึ่งอาจทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมหรือรบกวนความสมดุลของลีก
การลงทะเบียนผู้เล่น : ระยะเวลาการซื้อขายเป็นกรอบที่ชัดเจนสำหรับสโมสรในการลงทะเบียนผู้เล่นใหม่ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ช่วยให้สโมสรสามารถวางแผนและวางกลยุทธ์ในกิจกรรมการโอนย้ายได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดและการลงทะเบียนผู้เล่นเสร็จสมบูรณ์อย่างถูกต้อง
การวางแผนทางการเงิน : ระยะเวลาการซื้อขายช่วยให้สโมสรมีช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อดำเนินธุรกิจการโอน ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้สโมสรสามารถกำหนดงบประมาณและจัดสรรเงินสำหรับการซื้อหรือขายผู้เล่นภายในระยะเวลาที่กำหนด
การจัดตำแหน่งให้สอดคล้องกับลีกอื่นๆ : การมีระยะเวลาการซื้อขาย 2 ช่อง ช่วยรักษาความสอดคล้องกันในลีกและประเทศต่างๆ สิ่งนี้ทำให้สโมสรสามารถประสานช่วงเวลาการโอนย้ายได้ ทำให้สโมสรจากลีกต่างๆ สามารถเจรจาซื้อขายนักเตะได้ง่ายขึ้นและรับประกันสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน
ส่วนวันที่และระยะเวลาเฉพาะของการซื้อขายอาจแตกต่างกันไปตามลีก