จะเกิดอะไรขึ้น หลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอโควิด-19 ระบาดในทีม

จะเกิดอะไรขึ้น หลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอโควิด-19 ระบาดในทีม

เพียง 4 ชั่วโมงก่อนเกมการแข่งขันหว่าง เอฟเวอร์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามกูดิสัน พาร์ค หลังต้องยกเลิกเกมดังกล่าว เนื่องจากผลตรวจไวรัสโควิด-19 ของนักเตะ และทีมงานหลายคนออกมาเป็นบวก หลังจาก ไคล์ วอล์คเกอร์ และ กาเบรียล เฆซุส เป็นสองนักเตะผลตรวจดังกล่าวออกมาเป็นบวกก่อนหน้านี้ ในขณะที่เกมระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า ก็ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ กับเกมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม หลังทีมของ สตีฟ บรูซ ต้องปิดสนามซ้อม เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อหลายคน

แต่อะไรจะเกิดขึ้นในขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ เมื่อแมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมล่าสุดที่ต้องเจอกับปัญหาดังกล่าว เมื่อทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องทำการแข่งขันถึง 4 รายการ ในพรีเมียร์ลีก, คาราบาว คัพ, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งฟุตบอลยุโรปอาจจะเป็นอะไรที่ไกลออกไป เมื่อจะแข่งขันกันอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม และต้นเดือนกุมภาพันธ์

แมนฯ ซิตี้ถูกแจ้งจากพรีเมียร์ลีกให้มีรายงานเกี่ยวกับผลตรวจไวรัส หลังเกมที่ที่ทีมเอาชนะนิวคาสเซิ่ลได้ 2-0 หลังวอล์คเกอร์ และเฆซุส ถูกพบเชื้อ รวมถึงทีมงานอีก 2 คน ซึ่งเมื่อผลออกมาแล้ว สโมสรยอมรับว่าผลตรวจไวรัสดังกล่าวออกมาหลายคน แต่ก็ยังไม่ได้มีการระบุจำนวนที่ชัดเจน รวมถึงนักเตะ แต่ก็เพียงพอสำหรับการยกเลิกเกมดังกล่าว โดยพรีเมียร์ลีกแถลงว่า “การตัดสินใจดังกล่าวคำนึงถึงสุขภาพของนักเตะและเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ พรีเมียร์ลีกยังคงมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่สำหรับมาตรการและกฎระเบียบสำหรับแนวทางการปฏิบัติของแต่ละสโมสร”

การรับมือเบื้องต้นของแมนฯ ซิตี้ คือการตัดสินใจปิดสนามซ้อมของทีมชุดใหญ่และทีมอะคาเดมี่ทันที โดยนักเตะที่ถูกพบเชื้อดังกล่าวจะต้องกักตัวเอง จนกว่าผลตรวจเชื้อจะออกมาเป็นลบ โดยยังมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไปยังกรุงลอนดอน เมื่อทีมของกวาร์ดิโอล่าบุกไปเยือนอาร์เซน่อล ในคาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็มีการยืนยันออกมาจากโฆษกของทีมในกรุงลอนดอนเมื่อทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ท่ามกลางการระบาดระลอกสองของกรุงลอนดอน เมื่อถูกรัฐบาลปรับระดับให้เป็นเทียร์ 4 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดในการจัดระดับของสหราชอาณาจักร

แมนฯ ซิตี้ มีคิวต้องบุกไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี ในวันที่ 3 มกราคม แต่ก็ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ในเรื่องดังกล่าวว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ และต่อด้วยการบุกไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เลกแรก ในอีก 3 วันต่อมา ซึ่งยังคงเป็นคำถามอยู่ในเวลานี้

เนื้อหาใกล้เคียง