การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ใกล้เข้ามาแล้ว ทีมชาติ อังกฤษ เป็นหนึ่งในขวัญใจคนไทย แม้จะไม่มากเมื่อหลาย 10 ปีก่อน เมื่อหลายทีมทำผลงานออกมาได้ดี และน่าประทับใจ ทั้งความสำเร็จ และสไตล์การเล่น หรือแม้แต่นักเตะในดวงใจที่มีมากขึ้น โดยทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เล่นอุ่นเครื่องไป 2 เกม ชนะทีมชาติ ออสเตรีย และ โรมาเนีย ไปด้วยสกอร์ 1-0 เหมือนกัน เรามาตัดเกรดกันดีกว่าว่าใครเล่นได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – 5.25
การยิงจุดโทษพลาด และลงสนามใน 30 นาทีสุดท้าย ในเกมกับโรมาเนีย ทำให้กัปตันทีมจากลิเวอร์พูล ได้คะแนนน้อยที่สุดไป
ไทรอน มิงส์ – 5.31
มิงส์ เป็นเพียงนักเตะไม่กี่คนที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงทั้งสองเกม แต่ก็ไมได้สร้างความประทับใจได้สักเท่าไหร่ เมื่อคะแนนในเกมแรกได้ 4 และสองที่สองได้ 6.5
เบน ก็อดฟรีย์ – 5.42
การประเดิมลงสนามให้กับทีมชาติ ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับก็อดฟรีย์ เมื่อฟอร์มไม่ดี และก็ไม่แปลกใจที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมที่สอง
ออลลี่ วัตกิ้นส์ – 5.66
มันยากเกินไปสำหรับการสร้างความประทับใจของวัตกิ้นส์ เมื่อลงสนามเป็นตัวสำรอง และมีเวลาเพียง 40 นาที
คอเนอร์ โคดี้ – 5.87
กองหลังจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ช่วยทีมเก็บคลีนชีตจากเกมที่พบกับออสเตรียได้ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมที่สอง
ดีแคลน ไรซ์ – 5.93
สำหรับการลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 6 ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง กับมิดฟิลด์ของค่าเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ดีกว่าเกมโดยรวมที่พบกับออสเตรีย
คีแรน ทริปเปียร์ – 6.07
แบ็คจากแอตเลติโก มาดริด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่เจอกับออสเตรีย แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวจริงในเกมที่เจอกับโรมาเนีย ก่อนที่จะได้รับโอกาสลงสนามเพียงไม่กี่นาที
คัลวิน ฟิลลิปส์ – 6.12
ฟิลลิปส์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลของลีดส์ ยูไนเต็ด เสียดาย เมื่อใช้เวลาในการพักฟื้นอาการบาดเจ็บนานหลายเดือน ไม่งั้นทีมคงสร้างผลงานได้ดีกว่านี้ เช่นเดียวกับฟอร์มการเล่น 45 นาที ในเกมที่เจอกับโรมาเนีย
โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน – 6.14
หลังจากได้ลงสนามแทนแฮร์รี่ เคน ในเกมที่เจอกับโรมาเนีย ดูแล้วก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับนักเตะ
เจสซี่ ลินการ์ด – 6.21
ลินการ์ดโชคร้ายที่ถูกตัดรายชื่อออกจากทีม หลังได้คะแนน 6 และ 6.5 จากเกมที่พบกับออสเตรีย และโรมาเนีย
แฮร์รี่ เคน – 6.25
กัปตันทีมชาติเหมือนกับมีอาการล้า ดูยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 6.37
แม้ว่าผลงานในเกมรุกจะทำได้ดี และเกมรับถูกตั้งคำถาม แต่ก็ยังมีชื่อติดทีม แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง เมื่อบาดเจ็บจากเกมที่เจอกับออสเตรีย และต้องถอนตัวไปในที่สุด
เบน ไวท์ – 6.41
กับความสามารถในการเล่นในตำแหน่งกองหลัง และกองกลางตัวรับ กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของทีม และเซาธ์เกต เรียกมาติดทีมแทนอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หลังมีส่วนช่วยทีมเก็บคลีนชีตในเกมที่เจอกับโรมาเนีย
ลุค ชอว์ – 6.5
ชอว์ ก็ยังเป็นชอว์ ทำผลงานออกมาได้ดีใน 2 เกมที่ผ่านมา
จอร์แดน พิคฟอร์ด – 6.62
อาจจะยังมีคำถามสำหรับพิคฟอร์ด แต่นักเตะก็ช่วยทีมเก็บคลีนชีตได้ในเกมที่เจอกับออสเตรีย
เจมส์ วอร์ด พราวส์ – 6.71
การลงสนาม 30 นาที ในเกมที่เจอกับออสเตรีย และ 60 นาที เกมกับโรมาเนีย ถือว่าวอร์ด พราวส์ ยังทำผลงานในระดับที่ตัวเองทำได้ อาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ก็ไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นเท่าไหร่
จาดอน ซานโช่ – 6.75
อาจจะเป็นฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่าที่คาดหวังเอาไว้ หากเทียบกับผลงานที่ทำได้ที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
จู้ด เบลลิงแฮม – 6.81
คะแนน 7 จากเกมที่เจอกับออสเตรีย แต่ก็ลดลงมานิดหน่อยในเกมที่เจอกับโรมาเนีย เมื่อลงสนามไปน้อยกว่าเดิม
มาร์คัส แรชฟอร์ด – 6.87
แรชฟอร์ด ยิงจุดโทษได้อย่างเด็ดขาดในเกมที่เอาชนะโรมาเนียได้ 1-0
แซม จอห์นสโตน – 7.25
การเก็บคลีนชีต และเซฟมหัศจรรย์ของจอห์นสโตน ทำให้เจ้าตัวได้รับคะแนนมากมาย และดูเหมือนจะได้รับเครดิตมากกว่าดีน เฮนเดอร์สัน
บูกาโย่ ซาก้า – 7.37
คนทำประตูชัยช่วยให้อังกฤษ ชนะออสเตรีย ในเกมแรก แต่ก็ถูกถอดออกจากทีมในเกมที่เจอกับโรมาเนีย
แจ็ค กรีลิช – 7.62
ถือว่าโดดเด่นที่สุดสำหรับกรีลิช โดยเป็นนักเตะคนเดียวที่ได้คะแนนถึง 9 ในเกมที่เจอกับโรมาเนีย และเกมที่เจอกับออสเตรีย ก็ทำได้ดีมาก
