ชัยจะมาเยือน ! หรือปีนี้ ลิเวอร์พูล จะสิ้นสุดการรอคอย

หรือปีนี้ ลิเวอร์พูล จะสิ้นสุดการรอคอย

ถ้าหากย้อนกลับไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมา จอห์น สโตน กองหลังทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ช้าไปเพียงเศษเสี้ยววินาที ลิเวอร์พูล อาจได้ประตูจากโกลด์ไลน์เทคโนโลยี ซึ่งในเกมนัดนั้น ผลจบลงด้วยการที่ “เรือใบสีฟ้า”เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม เฉือนเอาชนะ “หงส์แดง” 2-1 พร้อมคว้าแชมป์ลีกไปครองในท้ายที่สุด

ลิเวอร์พูล อาจมองย้อนกลับไปด้วยความเสียดายในช่วงเวลานั้น เมื่อ แมนฯซิตี้ คว้าแชมป์ได้สำเร็จเหนือพวกเขาเพียง 1 คะแนนในฤดูกาลที่ผ่านมา บางทีคราวนี้ “เรือใบสีฟ้า” อาจกำลังเผชิญความรู้สึกเดียวกันที่พวกเขาไม่ได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่บอลกระเด็นไปโดนแขนของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ แบ็คขาวดาวรุ่งของ “หงส์แดง”

แน่นอน 22 วินาทีต่อมา ฟาบินโญ่ ห้องเครื่องชาวบราซิล ของ ลิเวอร์พูล ยิงไกลผ่านมือ เคลาดิโอ บราโซ่ นายทวาร แมนฯซิตี้ เข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนที่ “หงส์แดง” จะบวกประตูเพิ่มจาก โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอิยิปต์ และ ซาดิโอ มาเน่ ตัวรุกชาวเซเนกัล ก่อนที่ “เรือใบสีฟ้า” จะตีไข่แตกได้จาก แบร์นาโด ซิลวา เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโปรตุเกส

หลังชัยชนะที่ ลิเวอร์พูล มีต่อ แมนฯซิตี้ 3-1 มันทำให้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ทำแต้มทิ้งห่าง “เรือใบสีฟ้า” ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน ออกไปเป็น 9 แต้มแล้ว หลังผ่านไป 12 เกม และมันยิ่งเพิ่มความรู้สึกทว่า ในที่สุดนี้อาจเป็นปีทองของ ลิเวอร์พูล

ในเวลานี้ ลิเวอร์พูล เก็บได้ 34 คะแนน จาก 36 คะแนนเต็มในฤดูกาลนี้ และเก็บชัยชนะได้ถึง 20 จาก 21 เกมหลังสุดในลีก พร้อมกับมีคะแนนนำทีมอันดับ 2 อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 8 คะแนน ซึ่งนับเป็นช่องว่างที่ห่างที่สุดในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล นับตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือชาวสก็อตแลนด์ เคยทำไว้ในปี 1993/94 และในปีนั้น “ปีศาจแดง” ก็คว้าแชมป์

มันเป็นลางสังหรณ์ที่ให้ ลิเวอร์พูล มีกำลังใจ และมันเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะเห็นว่าใครจะหยุดพวกเขา แม้แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อระดับการฟอร์มการเล่นของพวกเขาต่ำกว่ามาตรฐาน และพวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในเกมกับ เลสเตอร์, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แอสตัน วิลล่า แต่พลพรรค “หงส์แดง” ก็ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้

แน่นอนว่าความโชคดี บวกกับฟอร์มที่คงเส้นคงวากำลังมีอยู่ในทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้อย่างเต็มเปี่ยม และฟอร์มล่าสุดในเกมกับ แมนฯซิตี้ นั้น เป็นสัญญาณที่แสดงให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะลุ้นแชมป์ไปจนถึงช่วงปลายฤดูกาล

ขณะเดียวกัน จังหวะการเข้าทำที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกที่ 2 และ 3 ในเกมกับ แมนฯซิตี้ นั้น มันแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ และความหลากหลายในแผนการโจมตีของ ลิเวอร์พูล นอกจากนี้ พวกเขายังมีการประสานงานกันในแต่ละตำแหน่งแบบไหลลื่นอีกด้วย

ในเกมกับ ลิเวอร์พูล แนวรับ 4 คน

ควรสังเกตว่า แมนฯซิตี้ เคยมาที่ แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และในเวลานั้น พวกเขามีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล ถึง 10 คะแนน เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยพลพรรค “เรือใบสีฟ้า ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเก็บชัยชนะ 18 จาก 19 เกมที่เหลือ ซึ่งพวกเขาทำสำเร็จ

กวาร์ดิโอล่า บรรยายฟอร์มการเล่นของลูกทีมเขาว่า มันน่าเหลือเชื่อ ในการสัมภาษณ์หลังการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ในเกมล่าสุดและโค้ชชาวสเปน ยืนยันว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้จบสิ้น แต่ในความจริงมันก็เป็นงานยากของ “เรือใบสีฟ้า” ที่จะพลิกกลับมาทำแต้มแซง “หงส์แดง” อีกครั้ง

ในเกมกับ ลิเวอร์พูล แนวรับ 4 คน ของ แมนฯซิตี้ ประกอบด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตน, เฟอร์นันดิโญ และ แองเจลิโญ พยายามอย่างหนักในการหยุดเกมรุกของ ลิเวอร์พูล และความตื่นตระหนักของพวกเขาเริ่มชัดเจนเมื่อโดนไล่บีบจาก มาเน่, ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ โดยบรรดากองหลัง “เรือใบสีฟ้า” จ่ายบอลกันพลาดอยู่หลายครั้ง รวมถึงมีช็อตที่ สโตน กับ วอล์คเกอร์ โต้เถียงกันเองอีกด้วย

อาการบาดเจ็บของ เอแดร์สัน นายทวารทีมชาติบราซิล และ อายเมริค ลาปอร์เต้ กองหลังชาวฝรั่งเศส ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อแนวรับ แมนฯซิตี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4 เกมหลังสุดรวมทุกรายการนั้น “เรือใบสีฟ้า” ไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลย

เช่นเดียวกับการขาดคุณภาพเชิงลึกในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งดูเหมือนว่า กวาร์ดิโอล่า จะละเลยในจุดนี้ไป โดยอดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า เลือกจะทุ่มเงินคว้าตัว เจา คันเซโล แบ็คชาวโรปตุเกส มาจาก ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ซึ่งรับบทกูรูให้กับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีมองว่า กวาร์ดิโอล่า ทำพลาดที่ไม่ได้หาคนมาแทน แว็งซองต์ กอมปานี อดีตกองหลังกัปตันทีมชาวเบลเยี่ยม ขณะที่ แกร์รี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขาว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่านายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” ต้องรับผิดชอบกับการซื้อฟูลแบ็คที่มีค่าตัว 50 ล้านปอนด์ แต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม

หลังพ่ายแพ้ ลิเวอร์พูล มันทำให้เกิดช่องว่าง 9 คะแนนที่น่ากลัวยิ่งขึ้นสำหรับ แมนฯซิตี้ ที่อาจจะพบว่าตัวเองถูกฉีกหนีไปได้อีก หากในเกมต่อไปพวกเขาไม่สามารถเอาชนะ เชลซี หลังกลับมาจากพักเบรคทีมชาติ

ในขณะที่ตลาดนักเตะจะเปิดขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้านั้น มันก็เป็นโอกาสดีสำหรับ แมนฯซิตี้ ในการหากองหลังมาเพิ่มคุณภาพเชิงลึกให้กับทีม เนื่องจาก ลาปอร์เต้ ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเรียกความฟิตกลับมาลงสนามได้

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทางฝั่ง ลิเวอร์พูล จะตระหนักดีถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็รู้ว่าช่วงเวลาเล็กๆ เช่นเกมกับ แมนฯซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก และมันอาจเป็น 3 คะแนนที่สำคัญในช่วงท้ายฤดูกาล

เชื่อว่าทางฝั่ง ลิเวอร์พูล จะตระหนักดีถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เนื้อหาใกล้เคียง