บาร์เซโลน่า ทีมดังของลีกสเปนที่เพิ่งจะเก็บชัยชนะได้สำเร็จในการแข่งขันที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อคืนนี้ในศึกโกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศเลกแรก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสร้างตำนานที่แฟนบอลไม่แฮปปี้เท่าไหร่ นั่นก็คือ บาร์ซ่า สามารถคว้าชัยชนะได้ด้วยสไตล์ฟุตบอลที่ปราศจาก ‘วัฒนธรรมที่แท้จริงของบาร์เซโลน่า’
บาร์ซ่า คว้าชัยชนะได้ในการแข่งขันเลกแรกของรอบรองชนะเลิศในกรุงมาดริด ด้วยผลสกอร์ 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของเอแดร์ มิลิเตา กองหลังเรอัล มาดริด ทีมของ ชาบี้ ได้ทำสถิติมีเปอร์เซ็นต์ในการครองบอลที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเลยด้วยซ้ำ จากในการแข่งขันเมื่อคืนนี้ เพราะบาร์เซโลน่ามีโอกาสครองบอลอยู่กับเท้าเพียง 35.3% ตลอด 90 นาที ซึ่งมันค่อนข้างจะเป็นข้อมูลที่น่าแปลกใจมากๆ เพราะค่าเฉลี่ยที่ทีมบาร์เซโลน่าครองบอลได้มาตลอดฤดูกาลนี้ คิดออกมาได้ 63.7% ด้วยกัน
แม้จะมีสถิติที่ห่วยแตก แต่พวกเขาก็สามารถเก็บชัยชนะได้ และมีสถิติยิงเข้ากรอบแค่ 3 ครั้งเท่านั้น ในขณะที่เรอัล มาดริด มีโอกาสยิงได้มากกว่า แต่จัดการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูไม่ได้เลย ทำให้ทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ต้องไปเจองานหนักในเกมเลกที่สอง
เมื่อโดนถามถึงสถิติที่ต่ำสุดๆเป็นประวัติการณ์ ชาบี้ก็ได้กล่าวว่า “แผนของเราคือการครอบครองบอลให้นานๆ และเล่นในพื้นที่กลางสนาม บุกให้หนัก หาวิธีครองบอล จ่ายบอลทะลุทะลวงให้มากเข้าไว้ …แต่ทีมที่เราสู้ด้วยคือมาดริด เราต้องการ ‘เล่นเกมรับด้วยการครองบอล’ อยู่เสมอ แต่บางครั้งคุณก็ไม่เข้าใจ เราชอบสร้างโอกาสในเกมรุกให้ได้มากกว่าเอาแต่อุด วันนี้ไม่ใช่เกมที่เราต้องการ มันไม่เป็นอย่างที่เราคาดไว้ แต่แค่ว่าเราชนะ”
