ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ผู้รักษาประตูทีมชาติโปแลนด์ ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะลงเฝ้าเสาในลีกเป็นนัดที่ 81 ติดต่อกัน เมื่อเขาก้าวเท้าลงสู่สนาม วิลล่า พาร์ค ในศึกมันเดย์ไนท์ ที่พลพรรค “ขุนค้อน” จะบุกไปเยือน แอสตัน วิลล่า”
หากย้อนกลับไปในฤดูกาลสุดท้ายของ ฟาเบียนสกี้ ที่ สวอนซี และสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคง และความน่าเชื่อถือที่ได้มาเพื่อนิยามเขาว่า เป็นผู้รักษาประตฝีมือดี มันยังแสดงให้เห็นอีกว่า เขามาไกลแค่ไหนในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี
แฟนๆ เวสต์แฮม ต้อนรับการมาถึงของ ฟาเบียนสกี้ จากถิ่น ลิเบอร์ตี้ ของ สวอนซี เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ และฟอร์มของเขาก็ตอบแทน “ขุนค้อน” ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งปัจจุบันในวัย 34 ปี โกลด์ชาวโปแลนด์ ได้แตกต่างไปจากเดิมในสมัยที่เป็นดาวรุ่งย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล
ฟาเบียนสกี้ รับมือกับความกดดันทุกรูปแบบ เขาจำได้ว่ารออย่างใจจดใจจ่อสำหรับโอกาสของเขาและครุ่นคิดถึงความผิดพลาดของเขา มันเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ย้ายออกจาก อาร์เซน่อล และในช่วงบ่ายที่แดดจ้าที่สนามฝึกซ้อมของลอนดอนฝั่งตะวันออกของ เวสต์แฮม เขายังจำคำวิจารณ์เหล่านั้น และความรู้สึกที่ไม่รู้วิธีที่จะรับมือกับมัน
อดีตนายทวาร “ไอ้ปืนใหญ่” กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “มันเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ในเชิงจิตวิทยา ผมมาจากโปแลนด์ และความสนใจของคุณยิ่งใหญ่กว่าเมื่อคุณไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ดังนั้นทุกอย่างจึงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือสามเท่า เห็นได้ชัดว่ามีบางครั้งที่ผมพยายามรับมือกับคำวิจารณ์มันเป็นกระบวนการ และตัวผมต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อเรียนรู้วิธีจัดการกับมัน”
การลงสนามครั้งสุดท้ายของ ฟาเบียนสกี้ ในฐานะผู้เล่น อาร์เซน่อล คือ การช่วยให้ “ไอ้ปืนใหญ่” คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2014 ซึ่งเป็นรางวัลเดียวของสโมสรในรอบเกือบทศวรรษ แต่เขาจากไปในช่วงฤดูร้อน และความผิดพลาดทุกครั้งทำให้เขาถอยห่างจากการเป็นมือ 1 ที่ตัวเองต้องการ และสถานการณ์ก็ยากลำบาก
โกลด์ เวสต์แฮม กล่าวต่อว่า “ผมต้องการพิสูจน์ตัวเองในสนาม แต่ผมไม่ได้มีโอกาสมากมายนัก ดังนั้นมันจึงกดดันมากขึ้นในทุกๆเกมที่ผมเล่น ผมพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ผมกระตือรือร้นที่จะแสดงความสามารถของผม ซึ่งหลายครั้งมันก็ใช้ได้ แต่บางทีผมก็เหมือนถูกลงโทษเพราะมีความกระตือรือร้นมากเกินไป”
“ผมคิดว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่ได้เล่นเป็นประจำคือ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญมากสำหรับตำแหน่งของผม และเมื่อผมเริ่มต้นในฤดูกาลก่อนซีซั่นนี้ ผมก็รู้สึกแตกต่างออกไปเล็กน้อย เวลาของคุณไม่อยู่ที่นั่นอีกแล้ว ความรู้สึกของคุณในเกม และความคิดของคุณจะแตกต่างออกไป เมื่อคุณตัดสินใจออกจาก อาร์เซน่อล”
สำหรับการวิจารณ์ต่างๆ ในที่สุด ฟาเบียนสกี้ ก็สามารถใช้มันเป็นแรงจูงใจพิเศษในการลงสนาม โดยระบุว่า “นั่นคือวิธีที่ผมเข้าหามัน ผมไม่เคยพูดเกี่ยวกับมัน แต่ในใจผมรู้สึกว่านั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยได้จริงๆ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมดีขึ้น”
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมคิดว่า ผมได้พัฒนาความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการเป็นผู้รักษาประตู และผมหมายถึงการเปิด และปิดความคิดตัวเอง มันหมายถึงวิธีจัดการกับสถานการณ์บางอย่าง เช่น วิธีการเตรียมตัวสำหรับเกมและการอ่านเกม ผมคิดว่าผมต้องการออกจาก อาร์เซน่อล เพื่อทำสิ่งนั้น ผมต้องการความท้าทายใหม่ในชีวิตของผม และผมมีความสุขมากกับสิ่งต่างๆ ได้หายไปจากช่วงเวลานั้น”
นายด่านวัย 34 ปี กำลังมีความพึงพอใจกับสถานะของตัวเองในขณะนี้ มันเป็นที่ สวอนซี ที่เขาสร้างชื่อเสียงของเขาด้วยการลงสนามช่วยทีมได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเพียง 3 เกมเท่านั้นใน 4 ฤดูกาล และใน 5 ยุคกุนซือ ที่ ฟาเบียนสกี้ ไม่ได้ลงสนามให้กับ “หงส์ขาว”
ขณะเดียวกัน ที่ เวสต์แฮม ฟาเบียนสกี้ ได้พัฒนาตัวเองไปอีกระดับ อ้างอิงจากสถิติ Opta ระบุว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่มีอันตราการเซฟมากกว่าโกลด์รายอื่นๆ ในลีก 5 อันดับแรกของยุโรป ประกอบด้วย อังกฤษ, สเปน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส และอิตาลี
มานูเอล เปเยกรินี่ เทรนเนอร์ เวสต์แฮม กล่าวถึง ฟาเบียนสกี้ ว่า “มันไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการฟอร์มการเล่นของเขาในระหว่างเกมเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงฟอร์มการเล่นของเขาทุกวัน และตลอดสัปดาห์ที่เขามอบให้กับเรา”
“อันที่จริงการพัฒนาของ ฟาเบียนสกี้ เกิดจากความมั่นคงที่เขาไม่เคยได้รับจาก อาร์เซน่อล แต่มันก็ทำให้เขามีวิธีการเตรียมตัวที่พิถีพิถันมากขึ้น และความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการเป็นผู้รักษาประตูของเขาที่สามารถมองเห็นได้ในความเป็นมืออาชีพ และความทุ่มเทที่เขาซ้อมกับเรา” นายใหญ่ “ขุนค้อน” กล่าว
ฟาเบียนสกี้ กล่าวว่า “ผมมีความคิดว่า เมื่อคุณผ่านการฝึกฝนอย่างละเอียด และคุณให้ความสนใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด การวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้าม การเคลื่อนไหว และความเข้าใจในเกมวิธีการเล่นของฝ่ายตรงข้าม คุณจะไม่กลัวที่จะทำผิดพลาด”
“นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามอธิบายให้ตัวเองเสมอก่อนเล่น เพราะบางคนอาจจะมีอาการคิดมากบางอย่างอยู่เสมอว่าข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าคุณสามารถถามตัวเองว่าคุณพร้อมหรือยัง และคำตอบคือพร้อม เพราะคุณรู้ว่าคุณทำงานหนักมาตลอดทุกวัน และคุณก็พร้อมที่จะลงเล่น มันเปิดใจของผมมากขึ้น”
ฟาเบียนสกี้ รู้สึกขอบคุณโค้ชด้านเทคนิคของ สวอนซี โดยเฉพาะ โทนี่ โรเบิร์ตส์ และ ฆาเบียร์ การ์เซีย ที่ปลูกฝังความคิดในตัวเขา อย่างไรก็ตามที่ เวสต์แฮม การพัฒนาของเขาก้าวขึ้นไปอีกระดับเมื่อได้ร่วมงานกับ ฆาบี้ บาเลโร่ โค้ชผู้รักษาประตูคนดัง ซึ่งเคยทำงานกับ ลิเวอร์พูล, อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด
อดีตมือกาว สวอนซี กล่าวว่า “ผมโชคดีที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมมักจะมีโค้ชที่มีรายละเอียดในการทำงานของพวกเขา พวกเขาผลักดันให้ผมพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อยกระดับเกมของผม ผมมักจะเป็นคนที่มีความสำคัญในตัวเอง นั่นเป็นอีกสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจ แต่ผมมีโค้ชผู้รักษาประตูที่เป็นมากกว่านั้น”
“ฆาบี้ มีชื่อเสียงอย่างมาก และผมก็ไม่แปลกใจวิธีการทำงานของเขามันเปิดใจของผมให้มากขึ้น มันตลกนะ เพราะในสองสามวันแรกหรือสัปดาห์แรกที่ เวสต์แฮม เขาไม่ได้พูดกับผมจริงๆจังๆกับการเล่นของผมดังนั้นผมคิดว่าเขาจะต้องมีความสุข แต่จากนั้นเรามีการประชุมกัน เขาเปิดวิดีโอให้ผมดู และพูดว่า “ฟังนะคุณต้องทำสิ่งนี้ และสิ่งนี้ มันทำให้ผมอึ้งไปเลย”
ในฤดูกาลที่ผ่านมา ฟาเบียนสกี้ มีอัตราการเซฟได้ทั้งเชิงคุณภาพ และปริมาณจากข้อมูลของ Opta สำหรับประตูที่คาดหวังที่เขาเสียไป 12 ลูก น้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของโอกาสที่เขาเผชิญหน้า ซึ่งไม่มีผู้รักษาประตูในพรีเมียร์ลีกคนใดที่มีสถิติดีเท่าเขาอีกแล้ว
สถิติเป็นที่มาของความพึงพอใจต่อ ฟาเบียนสกี้ แต่เขาก็ชี้ให้เห็นอย่างรวดเร็วว่าการเซฟประตูนั้น ไม่ได้เป็นจุดสนใจเพียงอย่างเดียวของงานของเขากับ บาเลโร่ โดยโค้ชชาวสเปนสนใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในกรอบเขตโทษเช่นกัน
โกลด์ เวสต์แฮม กล่าวว่า “เขาชอบการวางตำแหน่ง เขาชอบการตัดสินใจ และความสงบเมื่อพูดถึงการตัดสินใจ ด้วยการวางตำแหน่งผมไม่เพียงแค่พูดถึงตำแหน่งที่คุณวางไว้ในกรอบเขตโทษของคุณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางร่างกายของคุณด้วย สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นการวางเท้าที่ต้องหันหน้าไปข้างหน้าในบางจังหวะ”
“มันมีรายละเอียดมากจริงๆ บางครั้งคุณอาจคิดว่า คุณอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่จากนั้นเขาจะแสดงให้คุณเห็นว่า คุณจะอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นได้อย่างไร ผมชอบสิ่งนั้น บางครั้งมันอาจทำให้คุณโกรธเล็กน้อย ในทางกลับกันคุณคิดว่า ใช่ มันเป็นวิธีที่เหมาะสมในการพัฒนาตัวเอง”
“เมื่อเราถูกตัดสินโดยสื่อ และแฟนๆ มันไม่ควรเกี่ยวกับการเซฟ เพราะบางครั้งตำแหน่งที่ดีขึ้น หรือการตัดสินใจที่ดีกว่า คุณสามารถหลีกเลี่ยงการเซฟได้ นอกจากนี้เกมกำลังเปลี่ยนแปลง แม้แต่กฎของเกม กำลังเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นผู้รักษาประตูจึงต้องพัฒนาเช่นกันกับบทบาทกำลังเปลี่ยนไป และนั่นก็สำคัญเช่นกัน”
ตอนนี้ ฟาเบียนสกี้ ตัดสินอย่างชื่นชอบมากกว่าตอนที่เขาอยู่ที่ อาร์เซน่อล แต่มันรบกวนเขาไหมว่า เขามักถูกมองข้ามในการสนทนาเกี่ยวกับผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก? เขาเป็นที่รักของแฟนๆ สวอนซี และเขาก็รัก เวสต์แฮม อยู่แล้ว แต่เขารู้สึกว่าเขาสมควรได้รับการยอมรับในวงกว้างหรือไม่?
ฟาเบียนสกี้ ส่ายหัว โบนัสเพิ่มเติมของการเรียนรู้ที่จะรับมือกับคำวิจารณ์ก็คือ เขาไม่อยากได้คำชมอีกต่อไป โดยระบุว่า “มันไม่ได้รบกวนผม ตราบใดที่ผมมีความรู้สึกภายในใจผมเอง ใช่ ผมมีฤดูกาลที่ดีหรือผมมีเกมที่ดี และผมเป็นส่วนสำคัญของทีม ผมก็ไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับ”
“สำหรับผมสิ่งสำคัญคือ การได้รับคำชมผู้จัดการทีม และโค้ชผู้รักษาประตูเสมอหากพวกเขามีความสุขกับผม และเห็นได้ชัดว่าทีมของผมมีความสุขกับผมแล้วผมไม่ต้องการสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดจริงๆ มีอะไรพิเศษที่มีให้สำหรับสื่อ และสำหรับแฟนๆ มันเป็นสิ่งที่บรรดากูรูชอบที่จะพูดถึง แต่สิ่งที่ผมมุ่งเน้นคือการทำงานในสนาม”
ทัศนคตินั้นเป็นเครื่องเตือนใจว่า เขามาไกลแค่ไหน ฟาเบียนสกี้ ไม่ได้เป็นเพียงผู้รักษาประตูที่แตกต่างจากผู้ที่เริ่มเล่นฟุตบอลอังกฤษที่ อาร์เซน่อล แต่เขาก็เป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมเช่นกัน และข่าวดีสำหรับแฟนๆ ของ เวสต์แฮม คือเมื่ออายุ 34 เขายังรู้สึกว่า มีอะไรอีกมากที่จะแสดงให้เห็น
“ผมไม่รู้ว่า ผมเหลือความสามารถแค่ไหนในตัวเอง แต่ผมรู้สึกดี ผมแค่ต้องการเตรียมตัวให้ดี และพยายามพัฒนาต่อไป เพราะผมคิดว่ามีพื้นที่สำหรับพัฒนา และพัฒนาไปอีกอยู่เสมอ ผมจะผลักดันตัวเองต่อไป เป้าหมายของผมคือ พัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ฟาเบียนสกี้ กล่าวทิ้งท้าย
