แน่นอนว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าเกมรุกของลิเวอร์พูลในเส้นทางพรีเมียร์ลีก นั้นร้อนแรงมากเพียงใด แต่ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกนั้น เกมรุกของเขากับสร้างปัญหา และถ้าหากเขาต้องการที่จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เขาจำเป็นต้องพัฒนาการเข้าทำการโจมตีให้ดีกว่านี้
เดอะ เรดส์ ในซีซั่นก่อนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเส้นทางฟุตบอลยุโรปนี้ แต่ในฤดูกาลนี้กลับเป็นเหมือนหนังคนละม้วน และล่าสุดลิเวอร์พูลพ่ายให้กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2-1 ส่งผลถึงกระบวนการทำงานที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน 1 ประตูที่พวกเขาทำได้ในเกม มาจากลูกจุดโทษที่อังเคล ดิ มาเรีย เข้าสกัด มาเน่ ก่อนที่เจมส์ มิลเนอร์จะสังหารเข้าประตูไป และนั่นเป็นเพียงการยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวในเกมนี้ของกองทัพหงส์แดง
วอร์น๊อคให้ความเห็นว่า ลิเวอร์พูลเริ่มพัฒนาเกมรับให้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้งนี้เกมรุกของเขากลับหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ และสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังถึงสามประสานแนวรุกนั้นแทบไม่มีให้เห็นเลย ทุกๆครั้งที่ผมดูลิเวอร์พูลในฤดูกาลที่แล้ว ผมเห็นถึงการทำเกมรุกที่ดุดัน อันตราย และมักจะมีการเปลี่ยนเกม เพื่อสร้างความแตกต่างอยู่เสมอๆ แต่ผิดกับในฤดูกาลนี้อย่างสิ้นเชิง
แน่นอนว่าสิ่งที่ถูกวิพากย์วิจารณ์มากที่สุดคือสามประสานในแนวรุกที่แทบจะไม่ได้สร้างความกดดันให้กับแผงหลังเจ้าถิ่นเอาเสียเลย โดยที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคงจะเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่ใช้ความเร็วในการต่อสู้ หาพื้นที่ และหนีตัวประกอบ สร้างความแตกต่างได้อยู่บ้าน ซึ่งโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถเก็บบอลได้ ทั้งยังจ่ายบอลในตำแหน่งที่ไม่ดีบ่อยครั้ง มันเป็นเรื่องที่ผิดแปลกไปจากลิเวอร์พูลที่เคยเป็น
