รูปแบบการเล่นของ โธมัส ทูเคิ่ล กับการคุม เชลซี เกมแรก กลับถูกนำไปเปรียบเทียบกับสไตล์การเล่นของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ หลังเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ไปด้วยสกอร์ 0-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แม้ว่ารายชื่อนักเตะตัวจริงของทีมในเกมนี้จะทำให้นึกถึงสไตล์การเล่นของ อันโตนิโอ คอนเต้ แต่สิ่งที่ออกมาเหมือนกับ “ซาร์รี่บอล” ซะมากกว่า เมื่อทีมครองบอลได้มากมาย แต่ไม่สามารถทำประตูได้
กับสิ่งที่แตกต่างจากเดิมกับภายใต้การคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็คือตำแหน่งของเมสัน เมาท์ และรีซ เจมส์ เมื่อไม่ได้เป็นตัวจริงในเกมนี้ หลังทูเคิ่ลเชื่อมั่นในฝีเท้าของนักเตะที่มีประสบการณ์มากกว่า กับระบบ 3-4-3 ในแบบของคอนเต้ หลังเข้ามาคุมทีมในปี 2017 และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ตั้งแต่ปีแรก ในขณะที่สิงห์บลูสร้างความประทับใจทั้งเรื่องการครองบอลและผ่านบอล กับสถิติที่ดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีโอกาสทำประตูมากมายนัก จนถูกนำไปเปรียบเทียบกับทีมในยุคของซาร์รี่
แน่นอนว่ามันจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาด หากจะตัดสินทูเคิ่ลด้วยการคุมทีมเพียงเกมเดียว แม้จะเป็นการเปิดตัวที่น่าผิดหวัง หลังจากเข้ามาคุมทีมได้ไม่กี่วัน ก่อนที่จะพาทีมลงสนามเจอกับวูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งนายใหญ่ชาวเยอรมันก็กล่าวยอมรับกับบีที สปอร์ต ว่า “คุณจินตนาการไม่ออกแน่ กับช่วงเวลา 48 หรือ 72 ชั่วโมง ที่ผ่านมา มันเหมือนจริงมาก ตอนนี้พวกเรามาอยู่ที่นี่แล้ว และมันก็บ้ามากๆ” บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ทูเคิ่ลได้รับการแต่งตั้งและเข้ามาคุมทีมฝึกซ้อมทันที เป็นเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังทีมตัดสินใจแยกทางกับแลมพาร์ด โดยเจ้าตัวยืนยันถึงแนวทางการเล่นของตัวเอง หลังกล่าวในวิดีโอเปิดตัวว่า “ผมหวังว่าพวกเราจะเล่นเกมรุกและเล่นฟุตบอลด้วยความกล้าหาญ พวกเราต้องการสร้างโอกาสและทำประตู”
แน่นอนว่าเกมนี้เชลซีมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ยังมีช่วงเวลาบางช่วงที่ทีมเล่นได้อย่างน่าเบื่อ แม้ว่าไค ฮาเวิร์ตซ์ จะได้รับโอกาสลงสนามและสร้างความประทับใจได้มากกว่าเดิม กับความมั่นใจที่มากขึ้น แต่ด้วยผลของเกมนี้ทีมยังคงรั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนน ในขณะที่ติโม แวร์เนอร์ กลับนั่งสำรอง โดยไม่ได้ส่งลงสนามในเกมนี้ นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของทั้งตัวนักเตะและนายใหญ่ของทีมด้วยเช่นเดียวกัน กับเกมต่อไปที่จะได้เจอกับเบิร์นลี่ย์ในคืนวันอาทิตย์ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเก็บ 3 คะแนนแรก
