แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จ่ายเงินมากถึง 50 ล้านปอนด์ เพื่อเซ็นสัญญากับ อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขวาอนาคตไกล ของ คริสตัล พาเลซ มาเสริมทัพ ซึ่งเป็นที่สงสัยกันว่า แข้งดาวรุ่งรายนี้ พร้อมหรือยังที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของ “ปีศาจแดง” ในซีซั่นหน้า
มันเป็นเวลาเพียง 18 เดือนนับตั้งแต่ วาน-บิสซาก้า เดินเข้าไปในห้องทำงานของ รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมของ พาเลซ ที่สำนักงานใหญ่ในแถบเบ็กเค่นแฮม และขออนุญาตย้ายออกจากสโมสรด้วยสัญยายืมตัวเพื่อโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
วาน-บิสซาก้า เป็นเด็กปั้นของ พาเลซ มาตั้งแต่เป็นเยาวชน จากนั้นเขาได้ขึ้นมาซ้อมฝึกกับทีมชุดแรก และสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมทีม และโค้ชเป็นอย่างมาก แต่กองหลังชาวอังกฤษ ยังไม่ได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของ “เดอะ อีเกิลส์” เลยแม้แต่นัดเดียว จึงทำให้เขาลังเลที่จะรอโอกาสอีกต่อไป
ฮอดจ์สัน ได้ยิน วาน-บิสซาก้า ออกมาขอร้องย้ายทีม ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง โดยอดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล ยืนยันคำตอบของเขากลับไปว่า “ไม่ได้ ผมบอกเขาว่าผมเชื่อในตัวเขา และผมจะไม่ปฏิเสธที่จะทำให้เขาอยู่ในทีมชุดแรกในทันทีหากมีโอกาสเกิดขึ้น”
เวลาต่อมาปรากฏว่า วาน-บิสซาก้า ต้องรออีก 2-3 สัปดาห์ กว่าจะได้โอกาสเพื่อนำเสนอตัวเอง จากนั้นเขาได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และได้ลงเผชิญหน้ากับทีมยักษ์ใหญ่ อาทิ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ซึ่ง ฮอดจด์สัน ระบุว่า “เขาเข้าไปอยู่ในทีมชุดแรกได้ เขาทำได้ดี และเขาไม่เคยมองย้อนกลับไปถึงความล้มเหลวของตัวเอง”
วาน-บิสซาก้า เล่นในแนวรับฝั่งขวาให้กับ พาเลซ ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งแบ็คขวาเป็นตำแหน่งถนัดของเขาตลอดอาชีพ และในฤดูกาลที่ผ่านมาพัฒนาการของเขาก็มีมากขึ้น โดยรวมแล้วเขาได้เป็นตัวจริงเกือบทุกนัดในลีก รวมถึงได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร จนกระทั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์เพื่อพาเขาไปที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
มันเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ แมนฯยูไนเต็ด เคยจ่ายให้กับกองหลัง แต่ก็ไม่ยากที่จะดูว่าพวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ฤดูร้อนนี้ได้เห็น “ปีศาจแดง” เปลี่ยนความสนใจในการสรรหานักเตะเยาวชนชาวอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาคว้าตัว เดเนียล เจมส์ ปีกดาวรุ่ง ของ สวอนซี ไปร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว
การป้องกันและความขยัน มันเป็นบางทีสิ่งที่โดดเด่นที่สุดเกี่ยวกับการเล่นของ วาน-บิสซาก้า แม้เขาจะมีพื้นฐานมาจากการเป็นผู้เล่นแนวรุก แต่ก็เป็นความกระตือรือร้นที่เขาปกป้องทีม ทุกคนใน พาเลซ เห็นได้ชัด ตั้งแต่เขาขัดขวาง วิลเฟรีด ซาฮา ปีกตัวเก่ง “เดอะ อีเกิลส์” หลายครั้ง ในระหว่างการฝึกซ้อมครั้งแรกกับทีมแรกของพวกเขาในปี 2016
ขาสองข้างที่ยาวของ กองหลังวัย 21 ปี ช่วยให้เขาวิ่งขึ้น และลงทางริมเส้นฝั่งขวาได้อย่างง่ายดาย และเขายังใช้มันเพื่อทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการต่อสู้ โดยฤดูกาลที่แล้วในพรีเมียร์ลีก เขาทำผลงานปะทะคู่แข่งทั้งหมด 129 ครั้ง มันเป็นสถิติมากกว่ากองหลังคนอื่นๆ
วาน-บิสซาก้า อาจแย่งบอลไม่ได้เท่ากับ วิลเฟร็ด เอนดิดี้ กองกลาง เลสเตอร์ ซิตี้ หรือ อิดริสซ่า กานา เกย์ ห้องเครื่อง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทั้ง 2 ติดอยู่อันดับต้นๆในลีก แต่แข้งใหม่ แมนฯยูไนเต็ด ก็อยู่ใน 10 อันดับแรกของนักเตะที่ปะทะมากที่สุดในลีก
สำหรับบริบท แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์–อาร์โนลด์ 2 ฟูลแบ็ค ของ ลิเวอร์พูล ที่มีชื่ออยู่ในทีม PFA แห่งปี และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นแบ็คซ้าย-ขวา ที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก
ตัวเลขของ วาน-บิสซาก้า นั้นยอดเยี่ยม เขาเน้นสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในกองหลังที่ดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่มันไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาของเขาที่โดดเด่นเท่านั้น กองหลังตัวใหม่ “ปีศาจแดง” ตัดบอลได้ถึง 84 ครั้ง เป็นรองแค่ เอเตียน กาปู กองกลาง วัตฟอร์ด เพียงรายเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ วาน-บิสซาก้า ยังเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี มันอาจยุติธรรมที่จะพูดว่าเขาจะถูกคาดหวังมากกว่านี้ในความรู้สึกกับการเล่นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในฐานะที่เป็น แบ็คขวาดาวรุ่งที่เก่งเป็นอันดับต้นๆนั้น ทำให้เขาเป็นของมีค่าที่หายาก
อารมณ์เพื่อให้ตรงกับความสามารถจุดเด่นอีกอย่างของ ดาวเตะทัพ “สิงโตคำราม” คือ อารมณ์ของโค้ชคนเก่าของเขาที่ พาเลซ ซึ่งจดจำชั่วโมงการทำงานในสนามฝึกซ้อมในช่วงวัยรุ่นของเขาได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ วาน-บิสซาก้า ถูกปรับให้มาเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา จนสร้างความประทับใจกับ ฮอดจ์สัน และก้าวเข้าสู่ทีมแรกอย่างถาวรเมื่อต้นปี 2018
โค้ช พาเลซ กล่าวว่า “ตั้งแต่ต้นผมเห็นเขาในฐานะคนที่เงียบสงบมาก คนที่เล่นฟุตบอลของตัวเองอย่างจริงจัง และทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความประทับใจในการฝึกซ้อม มันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงอารมณ์ของเขาว่า เขาใช้โอกาสของเขาได้ดี และจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาก้มตัวลง และทำให้แน่ใจว่าเขากำลังจะใช้ความสามารถของเขาให้ได้มากที่สุด”
วาน-บิสซาก้า ย้ายไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับการย้ายของ ซาฮา ที่นั่นในปี 2013 เขาไปที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้น แต่สุดท้าย เขาต้องย้ายกลับไปที่ พาเลซ อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ซาฮา ก็ปรากฏตัวด้วยความแข็งแกร่งขึ้นจากประสบการณ์ แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจได้ว่า วาน-บิสซาก้า จะไม่ประสบกับความพ่ายแพ้แบบเดียวกัน เขามีอายุมากกว่า ซาฮา 2 ปี ตอนย้ายมาเล่นกับ “ปีศาจแดง” แม้ว่าที่สำคัญที่สุดเขาได้แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ดีที่จำเป็นในการรับมือกับแรงกดดัน และความคาดหวังที่มาพร้อมกับสถานที่ใหม่ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรรบกวนเขาได้เลย
ฮอดจ์สัน เคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับเขาก็คือ เขายังคงทำงานหนักในเกมของเขา และความเป็นมืออาชีพที่เขาแสดงออกมา อนาคตของเขากำลังพุ่งสูงขึ้น เขายืนหยัดอย่างมั่นคงบนพื้นดิน เมื่อมีสิ่งดีๆ มากมายกำลังเขียนหรือพูดเกี่ยวกับเขา ดูเหมือนจะไม่รบกวนเขาเลย”
วาน-บิสซาก้า จะต้องแสดงท่าทีเดียวกันกับที่ แมนฯยูไนเต็ด การจากไปของเขาเป็นข่าวที่น่าเศร้าสำหรับ ฮอดจ์สัน และทุกคนที่ พาเลซ สำหรับสโมสรใหม่ของเขา ความตื่นเต้นนั้นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล ในขณะที่เขาเดินทางจาก เซลเฮิร์ท ปาร์ค ไปยัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาจะรู้สึกขอบคุณที่ ฮอดจ์สัน ไม่อนุญาตให้เขาย้ายทีมด้วยการยืมตัว ซึ่ง 18 เดือนต่อมา เขาไม่เคยมองย้อนกลับไป
