เจมี่ วาร์ดี้ กับสไตล์ที่เปลี่ยนไปภายใต้การคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส

ร็อดเจอร์ส มั่นใจว่า เลสเตอร์ ทีมนี้กำลังพัฒนา

เขาเป็นตำนานของสโมสร เขาเป็นไอคอนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขาเป็นฮีโร่ของคนท้องถิ่น และเขาอาจจะโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นมากกว่านี้อีก นักเตะที่ถูกกล่าวถึงก็คือ เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกตัวเก่งของทัพ “สุนัขจิ้งจอก”

วาร์ดี้ ระเบิดสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ เข้ามากุมบังเหียน เลสเตอร์ ในความเป็นจริงเขาได้ทำประตูมากที่สุดกว่าใครในลีกจาก 20 เกมหลังสุด และเขาก็ทำลายสถิติด้วยการยิงประตู 11 เกมติดต่อกัน

กองหน้าชาวอังกฤษ มีโอกาสนำ เลสเตอร์ ทำคะแนนแซง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปสู่อันดับ 2 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก หากเขาพาพลพรรค“สุนัขจิ้งจอก” บุกไปเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ที่สนามเซนต์ แมร์รี่ ในคืนวันที่ 25 ตุลาคมได้

ร็อดเจอร์ส เป็นคนที่จะให้คำตอบ ในขณะที่เขาอธิบายในระหว่างการสนทนาที่สนามคิง พาเวอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ครอบคลุมถึงเหตุผลด้านจิตใจ ร่างกาย เทคนิคและยุทธวิธี โดยประการแรกมันเกี่ยวกับความกะหาย

กุนซือ เลสเตอร์ กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “เจมี่ มี การเดินทางที่ยอดเยี่ยมตลอดอาชีพของเขา และเคยคว้าแชมป์ลีกมาแล้ว แต่เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาสามารถจะหยุดพักได้ถ้าต้องการ แต่เขากระหายมาก และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาต้องการพัฒนาการเล่นของเขา นั่นคือ ความสดชื่นในสนาม”

ความกระหายเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับ วาร์ดี้ ความสามารถทางกายภาพ และสปีดที่รวดเร็วก็เป็นจุดเด่นของเขาเช่นกัน ในวัย 25 ปี ไมเคิล โอเว่น อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ เล่นอยู่ที่ นิวคาสเซิล และมีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอด แต่ในวัย 25 ปี ของ วาร์ดี้ นั้น เขายังเล่นกับทีมนอกลีกอยู่เลย

ร็อดเจอร์ส กล่าวต่ออีกว่า “เขาเร็วกว่าผู้เล่นคนอื่นที่ผมเคยร่วมงานด้วย ถ้าเรามีพื้นที่ว่างในการเล่นให้กับเขา เราก็รู้ว่าเขาพร้อมจะใช้โอกาสนั้นเสมอ ความเร็วของเขานั้นเหลือเชื่อมาก เขาได้รับพรสวรรค์ทางร่างกายอย่างชัดเจน”

“เขาก็ดูแลร่างกายของตัวเองได้ดีมาก เขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในตอนนี้ เขาเข้ามาที่สนามซ้อมแล้ว เขาฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน มาตรการ และการทดสอบทั้งหมดที่ทำในฤดูกาลก่อนแสดงให้เห็นว่าเขารวดเร็วกว่าเมื่อ 1-2 ปีที่แล้วเสียอีก” อดีตนายใหญ่ ลิเวอร์พูล กล่าว

ในเกมลีกนัดเปิดซีซั่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น วาร์ดี้ ถูกบันทึกสถิติได้ว่า มีความเร็วสูงสุดในหมู่ผู้เล่น เลสเตอร์ ทั้งหมด ต่อมาในเกมกับ เชลซี เขาเป็นผู้เล่นที่เร็วที่สุดในสนามโดยมีความเร็วอยู่ที่ 34.64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในเกมที่เจอกับ บอร์นมัธ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เขาได้ทำประตูได้ทั้ง 2 ทีม

แม้ ร็อดเจอร์ส ยืนยันว่า เลสเตอร์ ชอบเล่นเกมที่รวดเร็ว ก้าวร้าว และเหมาะสมกับสไตล์ของ วาร์ดี้ แต่ยังคงมีข้อสงสัยว่า แนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้เล่นที่มีความเร็วมหาศาลอย่าง ดาวยิงวัย 32 ปี คือการเปลี่ยนไปเล่นเกมครอบครองบอลอย่างที่ “สุนัขจิ้งจอก” กำลังทำอยู่หรือไม่

“ย้อนกลับไปแล้วมันเห็นได้ชัดมากขึ้นเกี่ยวกับการโต้กลับเร็ว และเล่นจากแนวลึก และจากนั้นในช่วงการเปลี่ยนจังหวะเกมเขาก็อาจวิ่งหาช่อง เราชอบคิดว่า มันเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากทีมใดทีมหนึ่งต้องเจอกับเรา เราจะต้องสามารถหมุนเวียนบอลไปทั่วสนามได้ และถ้าคุณจะครองบอล 60 เปอร์เซ็นต์ คุณต้องมีผู้เล่นที่มีความสามารถในเรื่องนั้น”

เลสเตอร์ ต้องการผู้เล่นเหล่านั้นเพื่อครอบครองบอล แต่ วาร์ดี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนึ่งในนั้น เขาได้ทำการปรับตัวเพื่อเล่นในทีมที่มีพื้นฐานการครอบครองบอลได้ เขาอยู่ห่างจากลูกบอล และมีจำนวนการสัมผัสบอลที่น้อยลง แต่นี่ไม่ใช่ข้อบกพร่องในเกมของเขา มันเป็นโดยการออกแบบ และมันคือวิธีที่ ร็อดเจอร์ส ต้องการให้เป็น

ภายใต้การคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส ปัจจุบัน

กุนซือวัย 46 ปี อธิบายต่อว่า “เจมี่ ไม่ได้เป็นหนึ่งในกองหน้าอย่าง บ็อบบี้ เฟอร์มิโน่ ที่ต้องลงไปเชื่อมเกม แต่เขาเป็นผู้เล่นชั้นยอด และเขามีความชัดเจนในบทบาทที่เราขอให้เขาเล่น เราได้ขอให้เขาอยู่ใกล้กับกองกลางอีกเล็กน้อย คุณไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการครองบอล ตราบใดที่ผู้เล่นคนอื่นๆ ชื่นชมสิ่งที่คุณพยายามทำเพื่อทีม”

“มันขึ้นอยู่กับคนอื่นที่จะช่วยเขา เขาสามารถออกไปเล่นชิงจังหวะกับกองหลังได้ เขารู้ดีว่าเรากำลังทำงานเพื่อให้โอกาสลุ้นประตูกับเขา สำหรับกองหน้าโอกาสมันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางครั้งพวกเขารู้สึกเหมือนกันว่า ตัวเองต้องมีส่วนร่วมเพียงเพื่อสัมผัสลูกบอล แต่เขารู้ว่า เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งนั้นอีกแล้ว เขาจะถูกตัดสินจากประตู” ร็อดเจอร์ส กล่าว

วิธีการเล่นแบบใหม่นี้ ทำให้เราได้เห็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ในสถิติของ วาร์ดี้ เมื่อเล่นกับทีมที่ป้องกันต่ำ โดยตลอดอาชีพของกองหน้าชาวอังกฤษนั้น เขามีความสามารถในการยิงประตูกับสโมสรใหญ่อยู่เป็นประจำ

ภายใต้การคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส ปัจจุบัน วาร์ดี้ มีเฉลี่ยการยิงประตูจากทีมนอกท็อปซิกส์ได้ดีขึ้น นั่นทำให้ เลสเตอร์ กำลังเก็บเกี่ยวคะแนนที่พวกเขาพลาดไปมากมายก่อนหน้านี้ มันเป็นเพราะดาวยิงชาวอังกฤษ ได้ปรับการเล่นของเขาเมื่อเจอกับทีมที่มีการป้องกันลึก

“หากคุณกำลังเล่นกับ เจมี่ การชิงจังหวะกับกองหลัง มักจะเป็นการทำลายแนวรับคู่แข่งได้ คุณต้องมีผู้เล่นที่ด้านกว้าง และแดนกลางที่ครองบอลได้ จากนั้นมันเกี่ยวกับการใช้ลูกบอลเพื่อสร้างโอกาสให้เขา และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งหากทีมเหล่านั้นไม่ให้พื้นที่เขา เขาก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนแนวทางของตัวเองได้ เขาทำได้ดีมาก”

“เขายิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกับ เวสต์แฮม ซึ่งเขายืนล้ำหน้า และเมื่อถึงเวลาที่ลูกบอลเข้ามา เขาก็สามารถวิ่งกลับมาอยู่ในแนวเดียวกับกองหลัง และทำประตูได้ ซึ่งในบางครั้งคุณจะเห็นกองหลังทั้ง 2 คนดันขึ้นมากลางสนาม มันเป็นแนวคิดการเล่นที่แตกต่างสำหรับเขา เขาเป็นนักฟุตบอลที่ฉลาด” ร็อดเจอร์ส กล่าว

ความฉลาดของในการเล่นของ วาร์ดี้ นั้น หลายคนมักมองไม่เห็น โดยผู้คนส่วนใหญ่มักจะเห็นจังหวะสปีด และความก้าวร้าวในการไล่ล่ากองหลังคู่แข่ง เขาไม่ได้เป็นอัจฉริยะ หรือฟุตบอลโปรเฟสเซอร์ แต่ ร็อดเจอร์ส ก็ตระหนักว่า หัวหอกชาวผู้ดี มีความเข้าใจเกมดีกว่าที่เขาคาดเอาไว้

“นั่นเป็นความประหลาดใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมเมื่อเข้ามาคุมทีม คุณอาจคิดว่าเขาเป็นเพียงผู้ทำประตู แต่ เจมี่ รู้ว่าฟุตบอลควรเล่นอย่างไร ตำแหน่งและการอ่านเกมของเขานั้นดีมาก เขาเข้าใจฟุตบอล เขารักมันจริงๆ เขาเฝ้าดูผู้เล่นเยาวชนจำนวนมาก เขาทำอย่างนั้นจริงๆ เขาจะดูเกมฟุตบอลอยู่เสมอ ผมสนุกมากที่ได้เห็นระดับความเข้าใจที่เขามีต่อเกม” นายใหญ่ เลสเตอร์ กล่าว

ดังนั้นแนวทางแบบนี้จะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน? นักวิเคราะห์บางคนไม่ได้รับการสนับสนุนจากตัวเลขอ้างอิงดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูของ วาร์ดี้ ดูจะไม่ดีเหมือนเดิมหากมองจากในฤดูกาลนี้

แต่สิ่งนี้ไม่น่าสนใจเท่ากับความจริงที่ว่า แนวทางการเล่นที่ วาร์ดี้ มีให้กับทีม เลสเตอร์ ซึ่งมันเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยม และนับตั้งแต่ ร็อดเจอร์ส มาถึง เขามีโอกาสทำประตูที่ชัดเจนกว่าเพื่อนร่วมทีมของเขา และมากกว่าบรรดาศูนย์หน้าในท็อปซิกส์อีกด้วย

ร็อดเจอร์ส มั่นใจว่า เลสเตอร์ ทีมนี้กำลังพัฒนา เขารู้ว่าการป้องกันเป็นจุดแข็ง และการประสานงานในสนามจะมาพร้อมกับเวลา นอกจากนี้เขายังรู้ว่า กองหน้าของเขาจะอยู่ที่นั่นเพื่อรับผลประโยชน์เมื่อโอกาสมาถึง

วาร์ดี้ มีผู้จัดการทีมที่ไว้ใจเขา และร่างเขายังฟิตสมบูรณ์ การประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษนั้นช่วยเขาให้มีอายุการค้าแข้งที่ยาวนานขึ้น โดย ร็อดเจอร์ส กล่าวเสริมว่า “มันเป็นการตัดสินใจของเขาเอง และมันถูกออกแบบมาอย่างชัดเจนเพื่อยืดอายุอาชีพของเขา เราให้วันหยุดพิเศษแก่เขาด้วย เราพยายามจัดการเวลาของเขาเพื่อให้เขาสดชื่นอยู่เสมอ มันเกี่ยวกับการรู้ว่าอะไรดีสำหรับเขา เราแค่ต้องการให้เขาเล่นต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้”

วาร์ดี้ กับสไตล์ที่เปลี่ยนไปภายใต้การคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส

เนื้อหาใกล้เคียง