หาก เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ กลับมาคุมทีม เอฟเวอร์ตัน สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ มาร์โก ซิลวา เทรนเนอร์ชาวสเปน โดนปลดออกจากตำแหน่งนั้น เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น มันอาจเป็นการก้าวถอยหลังที่ดีในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค นั่นคือความเห็นของ ลีออน ออสแมน อดีตปีก “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน”
มอยส์ เคยใช้เวลา 11 ปีที่ เอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะย้ายไปกุมบังเหียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2013-2014 ขณะที่ ซิลวา มาคุมทัพ “ท็อฟฟี่สสีน้ำเงิน” ในปี 2018 ก่อนที่จะโดนไล่ออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังพาทีมรั้งอันดับ 18 ในตารางคะแนน ซึ่งอยู่ในโซนตกชั้น
ออสแมน กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อชั้นนำแดนผู้ดีว่า “มีหลายคนบอกว่า การแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ จะเป็นการก้าวถอยหลัง แต่ผมขอยืนยันว่าการก้าวถอยหลังนี้นั้นดีสำหรับ เอฟเวอร์ตัน ในเวลานี้ ความก้าวหน้าของ เอฟเวอร์ตัน นั้น ได้เกิดขึ้นในช่วง 3-4 ปีผ่านมา แต่ก็ยังไม่มั่นคง”
เอฟเวอร์ตัน ไล่ ซิลวา ออกจากตำแหน่งไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังบุกไปพ่าย ลิเวอร์พูล 5-2 ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่สนามแอนฟิลด์ โดยโค้ชชาวโปรตุเกส คุมทีม 60 เกม ชนะ 24 เกม แพ้ 24 เกม และเสมอไป 12 เกม
ขณะเดียวกัน เอฟเวอร์ตัน ได้ประกาศแต่งตั้ง ดันแคน เฟอร์กูสัน ตำนานกองหน้าชาวสก็อตแลนด์ของสโมสร เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราว ก่อนจะมีการประกาศแต่งตั้งกุนซือคนใหม่อย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้
มีหลายคนถามว่า ใครจะเป็นกุนซือคนต่อไปของ เอฟเวอร์ตัน และชื่อของ มอยส์ ก็ตกอยู่ในข่ายพิจารณาอย่างจริงจังโดยคณะกรรมการของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” และบ่อนพนันถูกกฏหมายในอังกฤษ เริ่มมีการเปิดราคาแล้วว่าโค้ชวัย 56 ปี จะได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งผู้จัดการทีมถาวรคนต่อไป
นอกจากนี้ ชื่อของบรรดากุนซือชั้นนำอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตนายใหญ่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน และ มิเกล อาร์เต้ต้า อดีตกองกลาง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งปัจจุบันมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ช แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็อยู่ในข่ายเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม อีกคนที่มาแรงก็คือ วิตอร์ เปเรยร่า โค้ชชาวโปรตุเกสวัย 49 ปี ของ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี สโมสรดังในศึกไชนีส ซุเปอร์ลีก ซึ่งเคยพา ปอร์โต้ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนฝอยทองเมื่อปี 2012 และ 2013 นั้น ก็น่าสนใจเช่นกัน
ออสแมน กล่าวต่อว่า “ตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับผมในขณะนี้คือ เดวิด มอยส์ บางทีขั้นตอนการก้าวถอยหลังก็เป็นสิ่งที่จำเป็น หากคุณจะไปหันหาผู้จัดการทีมที่มีงานอยู่แล้วนั่นอาจต้องใช้เวลา และมีค่าใช้จ่ายมหาศาลมาก”
“พวกเขาอาจยังอยู่ในช่วงตื่นตระหนัก ในฐานะเอฟเวอร์โตเนี่ยน ผมขอยักตัวอย่างแบบนั้น การนำ แซม อัลลาไดซ์ เข้ามาคุมทีม โดยรวมแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ โอเค เอฟเวอร์ตัน ยังได้เล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก แต่แฟนๆส่วนใหญ่ก็ไม่มีความสุข”
“แฟนๆบางคนแนะนำให้ไปคว้าตัว เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาคุมทีม เพราะเขากำลังว่างงาน แต่ เอฟเวอร์ตัน กำลังฟอร์มตก และใช้เงินไปเยอะแล้ว ผมก็คิดว่ามันไม่ได้เป็นแนวทางที่ดี คุณมีงานหนักอยู่ในมือของคุณในอีก 2 ปีข้างหน้า ในการนำ เอฟเวอร์ตัน กลับมาเป็นสโมสรชั้นนำได้อีกครั้ง ตอนนี้เราต้องสร้างโปรเจ็กต์ใหม่อีกครั้งเหมือนเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา” อดีตกองกลาง “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” กล่าว
มอยส์ ใช้เวลา 11 ปี ในฐานะผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน พร้อมกับพาพลพรรค “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” จนด้วยอันดับ 8 จาก 9 ใน 11 ซีซั่นที่เขาคุมทีม แต่การกลับมาของเขาได้รับความคิดเห็นจากแฟนๆ บางคนว่าเป็นการถอยหลังเข้าคลอง เนื่องจากโค้ชเลือดวิสกี้ ไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ออกไปคุม แมนฯยูไนเต็ด แทนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ “ปีศาจแดง” ในปี 2013
มอยส์ ถูกไล่ออกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากผ่านไปไม่ถึงหนึ่งฤดูกาล และประสบชะตากรรมเดียวกันที่ เรอัล โซเซียดาด ในลา ลีกา สเปน ก่อนจะโดนไล่ออกที่ ซันเดอร์แลนด์ หลังพาพลพรรค “แมวดำ” ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก
อดีตกุนซือ เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้คุมทีมใดเลยนับตั้งแต่อำลา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 โดยมีแฟนบอล “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” บางส่วนคิดว่า มอยส์ ไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีในการพาทีมกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
สาวก เอฟเวอร์ตัน รายหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่ง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาปฏิกิริยาแรกของเราในฐานะแฟนบอลคือ เราต้องการเขาจริงๆหรือไม่ เราต้องการย้อนกลับไปยังคนที่เคยอยู่ที่สโมสรจริงๆหรือไม่?”
“วันแห่งความรุ่งโรจน์ของเขามันก็ยอดเยี่ยม ในฐานะแฟน เอฟเวอร์ตัน ที่อยู่ในยุคของ เดวิด มอยส์ มันเป็นสิ่งที่เราประสบความสำเร็จด้วยการใช้จ่ายเงินน้อยที่สุด และความสำเร็จที่แท้จริงเราเล่นฟุตบอลที่ดีและนำผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาร่วมทีม เราเคารพเขามาก”
“แต่บ่อยครั้งมันก็ไม่ได้ผลที่เราต้องการมากนักเมื่อผู้จัดการทีมกลับมาสโมสรเดิม แต่จริงๆแล้วด้วยวิธีการที่ทีมแสดงให้เห็นในขณะนี้นั้น มันขาดความเชื่อและการทำงานร่วมกัน พวกคุณรู้อย่างน้อยที่สุดว่า เดวิด มอยส์ เป็นคนที่เข้าใจสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ เขาเข้าใจถึงความหมาย และการมีส่วนร่วมเป็นพิเศษของมัน เขาสามารถใส่มันเข้าไปในทีมทำให้ผู้เล่น และแฟนๆร่วมมือกัน แต่เขาจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกของผม”
ไม่ใช่ตัวเลือกแรกคือ ความเชื่อมั่นที่แฟนๆ เอฟเวอร์ตัน คนอื่นๆทำปฏิกิริยากับการจากไปของ ซิลวา บน Twitter แม้ว่าบางคนแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งที่แข็งแกร่งมากขึ้นกับโอกาสของการกลับมาของ มอยส์
แฟนๆของ เอฟเวอร์ตัน จะถามว่าทำไมสโมสรไม่สามารถไปหันหา โปเช็ตติโน่ ได้ แต่คำตอบที่ตรงไปตรงมาก็คือ เขาจะไม่สนใจมายังถิ่นกูดิสัน ปาร์ค ในเวลานี้ หลังจากเพิ่งอำลา สเปอร์ส มาได้ไม่นาน
ฟิล แม็คนัลตี้ กูรูฟุตบอลของ “บีบีซี” กล่าวว่า “ผมรู้ว่า เอ็ดดี้ ฮาว ของ บอร์นมัธ เป็นที่สนใจของคณะกรรมการ เอฟเวอร์ตัน แต่การได้ตัวเขาในช่วงกลางฤดูอาจจะยาก ผมไม่รู้ว่า เดวิด มอยส์ จะกลับมาทำงานได้อย่างไร เพราะเขาเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างที่สโมสรเมื่อเขาอยู่ที่นั่น”
ขณะเดียวกัน มาร์เซล แบรนด์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของ เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจแต่งตั้ง เฟอร์กูสัน ที่เล่นให้กับ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ไป 272 เกม และทำประตูได้ 72 ประตู ระหว่างปี 1994 และ 2006 มารับหน้าที่กุนซือชั่วคราว
ในปี 2011 ดาวยิงชาวสกอตแลนด์ กลับมาที่สโมสรในบทบาทโค้ชทีมเยาวชน ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงานกับทีมชุดแรก ซึ่งเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานเบื้องหลังของอดีตนายใหญ่ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” หลายๆคน
ออสแมน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมของ เฟอร์กูสัน กล่าวว่า แม้ว่าเขาจะไม่คาดหวังว่าอดีตกองหน้าวัย 47 ปี จะได้รับงานอย่างถาวร แต่หากผลงานของเขานั้นยอดเยี่ยม ก็อาจทำให้เข้าไปอยู่ในข่ายพิจารณาได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ออสแมน กล่าวว่า “ถ้าเขาเข้าสู่การคุมทีมนี้ และเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเล่นของ เอฟเวอร์ตัน และความสามารถในการเล่นที่ประสิทธิภาพของนักเตะ และได้รับชัยชนะที่มีคุณภาพที่ดีแล้ว ใครจะรู้ว่ามันจะพาเขาไปที่จุดใด”
“ในขณะที่เขากำลังเล่นเขาฟุตบอลนั้น ไม่ได้ดูเหมือนนักเตะที่จะก้าวไปเป็นโค้ช หรือผู้จัดการทีมได้ แต่หลังจากคุยกันเรื่องหยุดพักจากฟุตบอล เขากลับมาพร้อมกับไฟในตัวจำนวนมาก เขาเข้าร่วมทีมงานฝึกสอนในทีมเยาวชนเพื่อมีส่วนร่วมกับสโมสร และได้ทำงานของเขาร่วมกับทีมชุดแรก”
“เขายินดีที่ได้รับโอกาสเป็นผู้นำทีมแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเกมเดียว และถ้าเขาสามารถพาสโมสรไปสู่ชัยชนะมันอาจเป็นการเริ่มต้นของบางสิ่งที่ดีก็เป็นได้” ออสแมน กล่าวทิ้งท้าย
