ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ก้าวขึ้นมาเป็นตัวความหวังในการสร้างผลงานให้กับ อาร์เซน่อล ได้อีกครั้ง เมื่อทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะ เบนฟิก้า ได้ด้วยสกอร์ 3-2 ในยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย เลกสอง ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-3
นับเป็นฤดูกาลที่ไม่มีความแน่นอนสำหรับดาวยิงชาวกาบอง เมื่อต้องดิ้นรนอย่างหนักในการทำประตูให้กับทีม นับตั้งแต่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2018 โดยฤดูกาล 2019-20 ทำได้ 29 ประตู จากการลงสนามรวมทุกรายการ ช่วยทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ไปได้สำเร็จ
โอบาเมยองทำไปได้แล้ว 11 ประตู จากการลงสนามในพรีเมียร์ลีก และยูโรป้าลีก ฤดูกาลนี้ รวมถึงการทำแฮตทริคใส่ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังต้องดิ้นรนอย่างหนักในการทำประตูในช่วงหลายเดือนหลัง แต่นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับตัวนักเตะและทีม กับผลงานในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังสุด
อีกหนึ่งนักเตะตัวเก่งและตัวความหวังของเดอะ กันเนอร์ส ในอดีต เป็น เธียร์รี่ อองรี ที่ได้รับการยกย่องมากมาย หลังจากสุดท้ายแล้วอดีตกองหน้าชาวฝรั่งเศสทำได้ทั้งหมด 228 ประตูให้กับทีม แต่สถิติที่จะนำมาเทียบกับโอบาเมยอง จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ลงสนามไปเท่ากัน ถึงจะเห็นความชัดเจนของทั้งคู่ หลังจากลงสนามให้กับทีมไป 135 เกมรวมทุกรายการเท่ากัน
ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง
135 เกม ตัวจริง 119 เกม ตัวสำรอง 16 เกม
ทำได้ 83 ประตู 16 แอสซิสต์
จุดโทษ 10 ประตู
131.3 นาทีต่อประตู
149.2 นาทีต่อประตู (ไม่นับจุดโทษ)
110 นาทีต่อแอสซิสต์หรือประตู
เธียร์รี่ อองรี
135 เกม ตัวจริง 113 เกม ตัวสำรอง 22 เกม
ทำได้ 73 ประตู 27 แอสซิสต์
จุดโทษ 9 ประตู
136.6 นาทีต่อประตู
155.8 นาทีต่อประตู (ไม่นับจุดโทษ)
99.7 นาทีต่อแอสซิสต์หรือประตู
สถิติของทั้งคู่ที่ออกมา ถือว่าใกล้เคียงกันมาก แม้โอบาเมยองจะทำประตูได้มากกว่าอองรี แต่อดีตดาวเตะชาวฝรั่งเศสก็ยังมีส่วนในการแอสซิสต์ให้กับทีม ยิ่งหากมองถึงช่วงเวลาที่อองรีประสบความสำเร็จกับทีมในช่วงเวลาดังกล่าว กลายเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลย เมื่อไม่ได้รวมถึงสถิติสำหรับฤดูกาล 2003-04 เมื่อทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่าย ทำได้ 32 ประตู กับ 28 แอสซิสต์ จากทุกรายการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันกับความสำคัญของโอบาเมยองในปัจจุบัน กับสิ่งที่เกิดขึ้นของทีม รวมถึงสภาพแวดล้อมของเพื่อนร่วมทีม
