ทีมชาติ อังกฤษ จะได้เผชิญหน้ากับทีมชาติ เยอรมนี ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 29 มิถุนายน หลังจากจบรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ฟอร์มการเล่นของลูกทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ แม้จะทำได้ 2 ประตู และไม่เสียประตูเลยใน 3 เกมแรกที่เจอกับทีมชาติ โครเอเชีย, สกอตแลนด์ และ สาธารณรัฐเช็ก
การเจอกันของทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน เป็นหนึ่งในเกมในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเคยฟาดฟันกันมาแล้วหลายครั้ง และอาจจะไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่ดีสักเท่าไหร่ สำหรับการเจอกันในรอบนี้ เมื่อทีมของโยอาคิม เลิฟ ก็ไม่ได้มีผลงานที่ดีด้วย หลังจากแพ้ฝรั่งเศส, ชนะโปรตุเกส และเสมอกับฮังการี ในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา
อังกฤษได้เจอกับเยอรมันมาแล้วในฟุตบอลยูโร ปี 1996 และ 2000 โดยตามมุมมองของ แกรี่ เนวิลล์ ตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์เกมในเวลานี้ เชื่อว่า ทีมควรจะเปลี่ยนตำแหน่งจากระบบ 4-3-3 มาเป็น 5-2-3 เพื่อเข้าสู่รอบต่อไป หลังจากเจ้าตัวเคยทำหน้าที่โค้ชให้กับทีมชาติ สมัยที่รอย ฮ็อดจ์สัน คุมทีม ในฟุตบอลยูโร ปี 2012 และ 2016
กับตัวเลือกที่ทีมชาติอังกฤษมีในเวลานี้ เนวิลล์ มองเห็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คขวาหลายคนในทีม แต่ก็เลือกที่จะส่ง รีซ เจมส์ และลุค ชอว์ ลงเล่นในตำแหน่งขวา และซ้าย ในขณะที่ไคล์ วอล์คเกอร์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และจอห์น สโตนส์ ลงเล่นในตำแหน่งกองหลัง 3 คน
ดีแคลน ไรซ์ และคัลวิน ฟิลลิปส์ เป็นสองกองกลางที่คอยคุมเกมให้กับทีมของเซาธ์เกต ส่วนสามประสานแดนหน้าเป็นแฮร์รี่ เคน, บูกาโย่ ซาก้า และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำให้ แจ็ค กรีลิช จะกลายเป็นตัวสำรอง แม้จะเป็นหนึ่งในตัวความหวังของทีมในเวลานี้
เนวิลล์ เขียนลงคอลัมน์ ว่า “วิงแบ็คที่จะโจมตีเยอรมนี มันต้องเป็นการประสานงานกันของซาก้า และสเตอร์ลิ่ง กับเกมรุก โดยแดนกลางต้องเป็นไรซ์ และฟิลลิปส์ เพื่อชนกับโทนี่ โครส และอิลคาย กุนโดกัน ไม่มีกรีลิช และฟิล โฟเด้น กับนักเตะพรสวรรค์ของทีม หรืออย่างน้อยๆ พวกเขาคนหนึ่งก็ควรจะได้ลงเล่น กรีลิชอาจจะช่วยพวกเราเก็บบอลได้ และส่งเขาลงสนาม พวกเราลุยกันไปเถอะ”
กับแนวรับที่อ่อนแอของเยอรมัน น่าจะกลายเป็นเรื่องดีของอังกฤษ หลังจากทีมของเลิฟ เสียมา 5 ประตู จากการลงสนาม 3 เกมที่ผ่านมา
