เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สุดยอดกองกลางแห่งยุคปัจจุบัน

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สุดยอดกองกลางแห่งยุคปัจจุบัน

เมื่อ 2-3 ปีก่อน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส กลายเป็นนักฟุตบอลที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลกฟุตบอล ในเดือนสิงหาคมปี 2015 เลสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญา ก็องเต้ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักมาจาก ก็อง ในศึกลีก เอิง ด้วยราคาเพียง 5.6 ล้านปอนด์เท่านั้น

ฤดูกาลก่อนที่ ก็องเต้ จะมาถึง เลสเตอร์ นั้น พลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” จบซีซั่นด้วย 41 คะแนน และในฤดูกาลต่อมา ดาวเตะวัย 28 ปี มาร่วมทีมนั้น พวกเขาเก็บได้ถึง 81 คะแนน พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

จากนั้น ในเดือนกรกฎาคม ปี 2016 เชลซี คว้าตัว ก็องเต้ ไปเสริมทัพในราคา 32 ล้านปอนด์ เมื่อปีก่อนที่ ก็องเต้ จะมาถึงที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้น “สิงโตน้ำเงินคราม” เก็บคะแนนได้เพียง 50 แต้ม ซึ่งนับว่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่ โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาซื้อสโมสรในปี 2003

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลแรกของ ก็องเต้ กับ เชลซี นั้น เขาพาทีมจบซีซั่นด้วย 93 คะแนน พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 5 ของสโมสรได้สำเร็จ ในขณะที่ เลสเตอร์ ซึ่งไม่มี ก็องเต้ นั้น ต้องดื้นรนจบซีซั่นด้วย 44 คะแนน

ไม่สนใจบริบทอื่นๆ และดูเหมือนว่า ก็องเต้ เพียงอย่างเดียวนั้น มีค่ามากกว่า 40 คะแนนต่อปี เห็นได้ชัดว่า มิดฟิลด์เฟรนช์แมน เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน ซึ่งเขาสามารถยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของทีมได้อย่างมาก โดยไม่ต้องยิงประตูมากมาย

ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 กลุ่มนักวิจัยจาก University of Salford และ University College of London ตีพิมพ์บทความที่สนับสนุนแนวคิดนี้ พวกเขาสร้างแบบจำลองจำนวนหนึ่ง เพื่อพิจารณาการจัดอันดับ “บวกลบ” ของผู้เล่น

มันเป็นการเปรียบเทียบการทำงานของทีม เมื่อผู้เล่นอยู่ในสนามกับวิธีการทำงานเมื่อเขาไม่ได้อยู่ในสนาม โมเดลเหล่านี้อาจไม่สมบูรณ์ เพราะต่างจากในบาสเก็ตบอล ซึ่งทีมส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เวลาจำนวนมากกับการเริ่มเกมจากนอกสนาม

ดังนั้น คุณจะได้รับสิ่งต่างๆ อย่างน่าแปลกใจ อาทิ เคลาดิโอ บราโว่ โกลด์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกยกให้เป็นนายทวารอันดับสองของโลกในฤดูกาล 2016-17 อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยก็ดูเหมือนจะยืนยันว่าทุกคนที่ เชลซี และ เลสเตอร์ กำลังคิดเกี่ยวกับ ก็องเต้ นั้นถูกต้อง

เอียร์ แม็คเฮล์ หนึ่งในผู้เขียนรายงานกล่าวผ่านทางอีเมลว่า “กระดาษนำเสนอวิธีการประเมินความสำคัญของผู้เล่นแต่ละคนต่อความสำเร็จของทีม สำหรับฤดูกาลที่กำลังพิจารณา ก็องเต้ ถูกพบว่าเป็นผู้เล่นที่มีส่วนร่วมมากที่สุดต่อความสำเร็จของทีม และนี่ไม่ได้หมายถึง เลสเตอร์ และ เชลซี เท่านั้น แต่ทีมสมมุติขึ้นมาจากผู้เล่นชุดใดก็ได้ ก็องเต้ จะมีส่วนร่วมมากที่สุด”

ยกเว้นใน 2 ฤดูกาลตั้งแต่นั้นมา มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันเกิดขึ้น 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ทีมที่ ก็องเต้ ลงเล่นนั้น ไม่ชนะในพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2017-2018 เชลซี จบอันดับที่ 5 และในปีที่แล้วพวกเขาจบอันดับที่ 3

การอภิปรายจำนวนมากรอบ ก็องเต้ ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ แม็คเฮล์ แนะนำตั้งแต่ เชลซี คว้าตัว จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี มาร่วมทีม โดยอดีตดาวเตะ นาโปลี ผู้เล่นที่เคลื่อนไหวน้อย และยืนปักหลักหน้าแนวรับของตัวเอง รวมถึงสร้างเกมจากแนวลึก

ก็องเต้ จึงถูกปรับใช้เล่นในตำแหน่งที่สูงขึ้นภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี คนปัจจุบัน การสนทนาระหว่าง อลัน เชียร์เรอร์ และ เอียร์ ไรท์ กูรูของ บีบีซี นั้น เป็นบทสรุปที่ดี

อย่างไรก็ตาม ซาร์รี่ อ้างว่าเขาต้องการรายละเอียดผู้เล่นที่แตกต่างกันในบทบาทกองกลางของเขา โดยระบุว่า “ในตำแหน่งนั้น ผมต้องการให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนลูกบอลได้อย่างรวดเร็วมาก เอ็นโกโล่ มีประโยชน์มากสำหรับเราแต่อันนี้ไม่ใช่คุณสมบัติที่ดีที่สุดของเขา”

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แลมพาร์ด สะท้อนความคิดเหล่านั้น โดยระบุว่า “ทุกคนมีความคิดว่าเขาตัดบอลเก่ง แต่มันอาจจะเป็นใครก็ได้ในโลกฟุตบอลที่ทำหน้าที่ตรงนั้น ผมไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องยืนอยู่หน้าแนวรับของเราเพียงอย่างเดียว”

“ก็องเต้ ยังมีดีอีกมากในเกมการเล่นของเขาที่จะพาตัวเองไปข้างหน้าพร้อมกับลูกบอลเพื่อนำไปสู่พื้นที่มิดฟิลด์ และเขาสามารถช่วยตัดบอลในตำแหน่งที่ยืนสูงขึ้นไปอีกได้ นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการให้เขามีอิสระที่จะทำมัน”

ก็องเต้ ยังมีดีอีกมากในเกมการเล่นของเขา

แม้เมื่อ ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ กุนซือ “ตราไก่” เลือกที่จะให้ ปอล ป็อกบา กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคนคุมจังหวะเกมและให้ ก็องเต้ มีอิสระในการเล่นทั่วสนาม

โค้ช 3 คน มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนมากขึ้นสำหรับ ก็องเต้ พวกเขาทั้งหมดจะคิดผิดหรือเปล่า? ฤดูกาลที่แล้วภายใต้การคุมทีมของ ซาร์รี่ ตัวเลขการป้องกันทั้งหมดของ ก็องเต้ ลดลงจากในฤดูกาลเดียวของเขาที่ เลสเตอร์

อย่างไรก็ตาม จำนวนครั้งที่ ก็องเต้ ได้ครอบครองบอลในการโจมตีเพิ่มสูงขึ้นใน 3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ในความเป็นจริงมีเพียง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีก ลิเวอร์พูล และ ริชาร์ลิสัน กองหน้า เอฟเวอร์ตัน เท่านั้น ที่มีสถิติดีกว่าเขา

แน่นอนว่าความแตกต่างก็คือ ก็องเต้ เป็นกองกลางและพวกเขาก็เป็นแนวรุก ดังนั้นเมื่อ ก็องเต้ มีการครอบครองบอลในตำแหน่งที่สูงขึ้นไปบนสนามนั้น มีแนวโน้มที่ เชลซี จะมีผู้เล่นมากกว่าคู่แข่ง และพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากตรงจุดนั้นได้

ทำไมสิ่งนี้จึงสำคัญ เนื่องจากการชนะการครอบครองในการโจมตีครั้งนั้น ยังแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์กับเกมที่ชนะ เหนือสิ่งนั้น ก็องเต้ เล่นในเขตโทษมากกว่าที่เขาเคยเป็นมาก่อน เขาสัมผัสบอล 73 ครั้ง ในกรอบเขตโทษคู่แข่งฤดูกาลที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งเพียง 58 ครั้ง ใน 3 ซีซั่น

การครอบครองในการโจมตี และค้นหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้ามเป็น 2 สิ่งที่มีค่าที่สุดที่ผู้เล่นสามารถทำได้ โดยไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับยิงประตู ก็องเต้ อาจมีบทบาทใหม่ แต่เขาทำสิ่งเหล่านี้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้เขายังยิงประตูและแอสซิสต์ ได้มากขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามคุณค่าที่ ก็องเต้ ได้ให้ไว้ในปีที่ผ่านมาก็คือ เขาได้ทำงานป้องกันหลายครั้งและทำให้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ อดีตกุนซือ เลสเตอร์ และ คอนเต้ ยึดมั่นในระบบมิดฟิลด์ 2 คนเท่านั้น แทนที่จะเป็นผู้เล่นกองกลาง 3 คน

เรื่องตลกที่ถูดพูดถึงเป็นประจำที่ เลสเตอร์ ก็คือพวกเขา เล่นกองกลาง 3 คน โดยมี แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ยืนอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วย ก็องเต้ ที่วิ่งขึ้นลงทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่ เชลซี เอเด็น อาซาร์ ปีกชาวเบลเบลเยี่ยม เคยกล่าวถึง ก็องเต้ ว่า “เขาอยู่ทุกที่บนสนาม ผมคิดว่าตัวเองได้เล่นทีมเดียวกับคู่แฝดของเขา”

ทีมเหล่านั้นสร้างขึ้นจากบางส่วนรอบๆ ทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของ ก็องเต้ คุณค่าของเขาไม่จำเป็นต้องเป็นในสิ่งที่เขาทำ มันมาจากทุกสิ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมทีม และผู้จัดการของเขาทำได้ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่า บทบาทหนึ่งของเขานั้น ดีกว่าอีกบทบาทหนึ่ง

ในฤดูกาลของ คอนเต้ กับ เชลซี นั้น ก็องเต้ มีบทบาทที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น พวกเขาเก็บได้ 70 คะแนน ขณะที่ในฤดูกาลของ ซาร์รี่ นั้น ก็องเต้ ได้เล่นสูงกว่าและ “สิงโตร้ำเงินคราม” เก็บไปได้ 72 คะแนนในลีก

ในแง่ของความแตกต่างของเป้าหมายที่คาดการณ์ในฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เป็นทีมที่ดีที่สุดอันดับ 3 อย่างชัดเจน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ก็องเต้ และในซีซั่นนี้ ดาวเตะชาวฝรั่งเศส เพิ่งเป็นตัวจริงไปเพียง 3 เกม เท่านั้น

ก็องเต้ ไม่ได้เล่นมากพอที่จะกำหนดบทบาทของเขาในระบบที่ต้องการของ แลมพาร์ด แต่สัญญาณเริ่มต้นแนะนำว่า เขาจะถูกนำมาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเกมในแดนกลางของ เชลซี ซึ่งอาจจะได้ยืนสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว

ในปีนี้ ก็องเต้ ซัดไป 2 ประตูไปแล้ว และบางทีความจริงของปริศนา ก็คือ เขาไม่มีตำแหน่งที่ดีที่สุด เขาไม่เคยเป็นกองกลางตัวรับเพียงอย่างเดียว เขาไม่เคยเป็นนักวิ่งแบบ box-to-box เช่นกัน เขามักจะอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง แต่ในการเล่นทั้งสองบทบาทเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

จำปีที่ เลสเตอร์ คว้าแชมป์ได้ไหม? ก็องเต้ สามารถการครอบครองบอลมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในตำแหน่งกองกลางในหมู่ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกทั้งหมด และ ดริงค์วอเตอร์ เพื่อนร่วมทีม “สุนัขจิ้งจอก” ของเขาคือหมายเลข 1

ก็องเต้ ไม่ได้เล่นมากพอที่จะกำหนดบทบาทของเขา

เนื้อหาใกล้เคียง