แฟรงค์ แลมพาร์ด กับการแก้ไขปัญหาฝืดของ เชลซี

แฟรงค์ แลมพาร์ด กับการแก้ไขปัญหาฝืดของ เชลซี

แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายอมรับว่าสถิติเกี่ยวกับการยิงประตูของพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” นั้น น่ากังวล ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เขาต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่

ในฤดูกาลนี้ เชลซี ชนะเพียงแค่ 5 เกมเท่านั้น จาก 12 เกมที่ได้ลงเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งมันนับเป็นสถิติการเล่นในบ้านที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1990 เป็นต้นมา และดูว่ามันจะกลายเป็นปัญหาที่ แลมพาร์ด ต้องเผชิญไปอีกในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น

แลมพาร์ด ทำสถิติที่น่าผิดหวังเมื่อพา เชลซี ลงเล่นในบ้าน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นข้อได้เปรียบอย่างมหาศาลเมื่อเล่นเป็นทีมเหย้า และในเกมลีกนัดล่าสุด จากการติดตาม ผลบอลสด ที่ผ่านมา “สิงโตน้ำเงินคราม” เปิดบ้านเสมอกับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 2-2 เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมานั้น มันน่าเสียดายอย่างมากกับโอกาสที่พวกเขาสร้างขึ้นมาอย่างมากมาย

นายใหญ่ เชลซี กล่าวหลังเกมเสมอกับ อาร์เซน่อล ผ่าน “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “เราต้องมองดูตัวเอง และพูดกับตัวเองอีกครั้งว่า เราสร้างสรรค์โอกาสได้ และได้เกมระดับนี้เมื่อมีโอกาสเข้ามาคุณก็ต้องทำให้ได้”

“ผมรู้ดีว่าทุกคนคาดหวังกับการทำประตูให้ได้ ผมไม่ชอบสถิติแบบนี้เลย เราอยู่ด้านล่างสุดในลีกหากนับผลงานในบ้าน ทั้งๆที่เรามีสถิติเป็นอันดับ 2 รองจาก ลิเวอร์พูล ในการสร้างสรรค์โอกาสในเกม ซึ่งผลสุดท้ายมันก็แสดงให้เห็นว่าเราอยู่จุดไหน”

ลางสังหรณ์ของ แลมพาร์ด นั้นถูกต้อง – และสถิติ xG เหล่านั้นก็ระบุว่า เชลซี ได้สร้างโอกาสสูงกว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาใน 11 จาก 12 เกมในบ้านในฤดูกาลนี้ โดยเกมเดียวที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” สร้างโอกาสได้น้อยกว่าคู่แข่งเมื่อเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ คือ ในวันบ็อกซิ่งเดย์ ที่พวกเขาพ่ายให้กับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน 0-2

อันที่จริงมีเพียง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปน เท่านั้น ที่มีตัวเลขค่า xG ในการสร้างสรรค์โอกาสที่สูงกว่าทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน อย่างที่ แลมพาร์ด เคยกล่าวไว้

อย่างไรก็ตาม เชลซี ทำประตูได้เพียงแค่ 16 ประตู จากสถิติโอกาสที่น่าจะเป็นประตูเมื่อเล่นในบ้านที่ 26.77% ต่อเกม ซึ่งเป็นเพียงอันดับ 2 รองจาก แมนฯซิตี้ ในทางกลับกันทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล มีค่า xG ของตัวเองที่ดีมากๆต่อเกมเมื่อเล่นในบ้าน

ในความพยายามที่จะแก้ไขปัญหา เชลซี อาจมองหาทีมใดทีมหนึ่งเพื่อหาแรงบันดาลใจ แต่ผลงานการยิงประตูในการเล่นเป็นทีมเยือนในฤดูกาลนี้ของพวกเขานั้น ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยพลพรรค “สิงห์บลูส์” ซัดได้ถึง 25 ประตู เมื่อออกไปเล่นนอกบ้าน

ดังนั้นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความแตกต่างอย่างมากในความสามารถของ เชลซี ในการเปลี่ยนแปลงโอกาสเป็นประตูสำหรับเกมในบ้าน และนอกบ้าน นั้น คือผู้เล่น 7 คน จากตำแหน่งกองกลาง 9 คน ของพวกเขาทำประตูได้เมื่อออกไปเล่นนอกบ้าน

แลมพาร์ด ทำสถิติที่น่าผิดหวังเมื่อพา เชลซี ลงเล่นในบ้าน

ขณะเดียวกันบรรดาผู้เล่นแนวรุกของ เชลซี อย่าง วิลเลี่ยน ปีกชาวบราซิล, คริสเตียน พูลิซิซ จอมทัพดาวรุ่งทีมชาติสหรัฐอเมริกา และ แทมมี่ อับราฮัม หัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษ มักโชว์ฟอร์มได้เป็นพิเศษเมื่อออกไปเล่นเป็นทีมเยือน ซึ่งมีเพียง จอร์จินโญ่ ห้องเครื่องชาวอิตาเลียน และ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ตัวรุกดาวรุ่ง เพียง 2 คน เท่านั้นที่มีสถิติ xG ดีกว่าคนอื่นๆเมื่อเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

สถิติของ พูลิซิซ ค่อนข้างตกลงไปจากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาในเกมที่ เชลซี บุกไปถล่ม เบิร์นลี่ย์ ที่สนามเทิร์ฟ มัวร์ 4-2 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยดาวเตะวัย 21 ปี ซัดไป 3 ประตู จาก 5 เกมหลังจากนั้น แต่ในเวลาต่อมาเขาแทบไม่ยิงประตูให้กับทีมอีกเลย

ขณะเดียวกัน ผู้ทำประตูสูงสุดของ เชลซี อย่าง อับราฮัม มีสถิติที่ชัดเจนว่า เขาพลาดโอกาสทองมากมายเมื่อเล่นในบ้าน โดยดาวยิงวัย 22 ปี พลาดโอกาสที่ชัดเจนไปแล้ว 11 ครั้งตามที่ Opta บันทึกสถิติเอาไว้ นั่นเป็นตัวเลขที่มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

อย่างไรก็ตาม อับราฮัม ซัดให้กับ เชลซี ในการออกไปเล่นเป็นทีมเยือนไปแล้วถึง 8 ประตู ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่มากกว่า ปิแอร์ – เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบอง ของ อาร์เซน่อล, ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เจมี่ วาร์ดี หัวหอกจอมเก๋าของ เลสเตอร์

นอกจากนี้ สถิติของ xG ยังชี้ไปที่จุดอ่อนของ เชลซี ในอีกด้านหนึ่งของสนามนั่นก็คือ ในเกมรับ ซึ่ง เกปา อาร์ริซาบาลากา นายทวารทีมชาติสเปน มีค่าเฉลี่ยการเซฟประตูต่อเกมน้อยที่สุดในบรรดาโกลด์ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยอยู่ที่ 55.6% เท่านั้น

ดังนั้นในขณะที่ผู้เล่นเกมรุกของ เชลซี ต้องแบกรับความรับผิดชอบสำหรับความล้มเหลวในการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูเมื่อลงเล่นในบ้าน แต่มันชัดเจนว่าเกมรับของพวกเขาก็ยังมีปัญหา นั่นทำให้ แลมพาร์ด ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน

เชลซี จะได้เล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และพวกเขาจะมีโอกาสได้แก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นบนสนามฝึกซ้อม หรือแม้กระทั่งในตลาดซื้อขายนักเตะ

แลมพาร์ด มีความกระตือรือร้นที่ เชลซี จะเซ็นสัญญากับกองหน้ารายใหม่ภายในเดือนมกราคมนี้ และยืนยันว่า อับราฮัม ยังคงเป็นตัวหลักต่อไป โดยนายใหญ่ “สิงห์บลูส์” ระบุว่า “ผมมีแรงผลักดันที่จะคว้าตัวกองหน้าหรือผู้เล่นที่อาจเปลี่ยนโอกาสที่เราสร้างนั้น ให้มันเป็นประตูได้”

“เมื่อคุณสร้างสรรค์โอกาส 20 ครั้งในเกม แต่มันไม่ได้เป็นประตู นั่นอาจเป็นปัญหาที่สำคัญ แต่ผมไม่คิดว่า มันจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนัก และ อับราฮัม ยังคงเป็นกองหน้าตัวหลักของเราต่อไป” แลมพาร์ด กล่าวทิ้งท้าย

แลมพาร์ด มีความกระตือรือร้นที่ เชลซี จะเซ็นสัญญา

เนื้อหาใกล้เคียง